รอยเตอร์/บีบีซี –เวิร์ลพูล ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ ยื่นซื้อเมย์แท็ก บริษัทคู่แข่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่าด้วยเงินกว่า 2,300 ล้านดอลลาร์ มากกว่าข้อเสนอก่อนหน้านี้ของริปเปิ้ลวู้ด โฮลดิ้งส์ ขณะที่ไฮเออร์ ผู้ผลิตจากจีนก็ทำท่าจะโดดเข้าร่วมศึกเทคโอเวอร์คราวนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อวันอาทิตย์ (17) เวิร์ลพูลยื่นข้อเสนอซื้อเมย์แท็กในราคาหุ้นละ 17 ดอลลาร์ และยอมแบกรับหนี้สินมูลค่า 969 ล้านดอลลาร์ของเมย์แท็กหากข้อเสนอซื้อดังกล่าวประสบผล โดยจะจ่ายเงินอย่างน้อย 50% เป็นเงินสด
ข้อเสนอดังกล่าวมีระดับราคาที่สูงกว่าข้อเสนอซื้อก่อนหน้านี้ของริปเปิ้ลวู้ด โฮลดิ้งส์ บริษัทลงทุนจากนิวยอร์กซึ่งอยู่ที่หุ้นละ 14 ดอลลาร์ และยังถือเป็นระดับราคาที่สูงกว่าราคาปิดของหุ้นเมย์แท็กที่ 15.45 ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมาถึง 10%
การยื่นข้อเสนอของเวิร์ลพูลในครั้งนี้อาจปะทุจนกลายเป็นสงครามแย่งชิงกันดุเดือด โดยไฮเออร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแดนมังกรก็แสดงความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์เมย์แท็ก เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นแบรนด์ดัง “ฮูเวอร์” รายนี้เช่นกันในราคาหุ้นละ 16 ดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ
เจฟฟ์ เฟตติก ประธานบริหารของเวิร์ลพูลกล่าวว่า “เมย์แท็กนั้นเป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามแผนยุทธศาสตร์และศักยภาพของเวิร์ลพูล ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าผลตอบแทนแข็งแกร่งให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท และสามารถยังประโยชน์โดยตรงให้กับผู้บริโภคและลูกค้าได้”
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมย์ แท็ก มีผลกำไรลดต่ำลงเนื่องจากการชะลอตัวในส่วนธุรกิจแบรนด์สินค้าฮูเวอร์ และยังได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ และกระแสแข่งขันที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้นจากบรรดาคู่แข่งในเอเชียซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า อาทิ ซัมซุง และแอลจี อิเล็กทรอนิกส์
มาในปีนี้ เมย์แท็กยิ่งซบเซาหนักข้อลงไปอีกเมื่อผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายรายในสหรัฐฯ เลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในห้างของตน อาทิ เบสต์ บาย ที่เลิกจำหน่ายเครื่องซักผ้าและตู้เย็นของเมย์แท็ก
หรือบางรายก็นำผลิตภัณฑ์ของบริษัทคู่แข่งมาจำหน่ายมากขึ้น เช่น โฮม ดีพอท ซึ่งมีสัดส่วนในยอดขายของเมย์แท็กถึง 10% ในปีที่แล้วได้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจีเข้ามาจำหน่าย
เมื่อวันอาทิตย์ (17) เวิร์ลพูลยื่นข้อเสนอซื้อเมย์แท็กในราคาหุ้นละ 17 ดอลลาร์ และยอมแบกรับหนี้สินมูลค่า 969 ล้านดอลลาร์ของเมย์แท็กหากข้อเสนอซื้อดังกล่าวประสบผล โดยจะจ่ายเงินอย่างน้อย 50% เป็นเงินสด
ข้อเสนอดังกล่าวมีระดับราคาที่สูงกว่าข้อเสนอซื้อก่อนหน้านี้ของริปเปิ้ลวู้ด โฮลดิ้งส์ บริษัทลงทุนจากนิวยอร์กซึ่งอยู่ที่หุ้นละ 14 ดอลลาร์ และยังถือเป็นระดับราคาที่สูงกว่าราคาปิดของหุ้นเมย์แท็กที่ 15.45 ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมาถึง 10%
การยื่นข้อเสนอของเวิร์ลพูลในครั้งนี้อาจปะทุจนกลายเป็นสงครามแย่งชิงกันดุเดือด โดยไฮเออร์ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแดนมังกรก็แสดงความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์เมย์แท็ก เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นแบรนด์ดัง “ฮูเวอร์” รายนี้เช่นกันในราคาหุ้นละ 16 ดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้มีการยื่นข้อเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ
เจฟฟ์ เฟตติก ประธานบริหารของเวิร์ลพูลกล่าวว่า “เมย์แท็กนั้นเป็นบริษัทที่มีคุณสมบัติตรงตามแผนยุทธศาสตร์และศักยภาพของเวิร์ลพูล ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าผลตอบแทนแข็งแกร่งให้กับบรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัท และสามารถยังประโยชน์โดยตรงให้กับผู้บริโภคและลูกค้าได้”
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมย์ แท็ก มีผลกำไรลดต่ำลงเนื่องจากการชะลอตัวในส่วนธุรกิจแบรนด์สินค้าฮูเวอร์ และยังได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบ และกระแสแข่งขันที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้นจากบรรดาคู่แข่งในเอเชียซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า อาทิ ซัมซุง และแอลจี อิเล็กทรอนิกส์
มาในปีนี้ เมย์แท็กยิ่งซบเซาหนักข้อลงไปอีกเมื่อผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายรายในสหรัฐฯ เลิกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในห้างของตน อาทิ เบสต์ บาย ที่เลิกจำหน่ายเครื่องซักผ้าและตู้เย็นของเมย์แท็ก
หรือบางรายก็นำผลิตภัณฑ์ของบริษัทคู่แข่งมาจำหน่ายมากขึ้น เช่น โฮม ดีพอท ซึ่งมีสัดส่วนในยอดขายของเมย์แท็กถึง 10% ในปีที่แล้วได้นำเครื่องใช้ไฟฟ้าของแอลจีเข้ามาจำหน่าย