ผู้จัดการรายวัน -PRANDA รุกเปิดตลาดเครื่องประดับ Prima Gold ที่อินเดีย สอดรับการเปิดเขตการค้าเสรีหรือ หลังไทยได้ลงนามไปแล้วเมื่อปลายปี47 ทำให้ภาษีลดจาก 25% เหลือ 12.5% มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในประเทศดังกล่าว
นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน)(PRANDA)เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางแพรนด้า กรุ๊ป และบริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมกันลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนการดำเนินการด้านการตลาด กับ มร.ซีทาน ดาวี เพื่อดำเนินการด้านการตลาดและจัดจำหน่ายเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% ภายใต้ชื่อ Prima Gold ในประเทศอินเดีย ซึ่งสอดรับกับการเปิดเขตการค้าเสรีหรือ FTA ที่ประเทศไทยได้ลงนามไปและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547
ส่งผลให้อัตราศุลกากรนำเข้าเครื่องประดับทองคำของประเทศอินเดีย ขณะนี้ปรับลดลงเหลือ 12.5% จากก่อนหน้านี้มีอัตรา 25% และในวันที่ 1 กันยายน2548 อัตราดังกล่าวจะปรับลดลงอีกเหลือ 6.5% จากนั้นในปี 2550 จะมีอัตราเป็น 0% ในที่สุด
การเปิดตลาดเครื่องประดับทองคำ “ Prima Gold” เป็นอีกก้าวที่สำคัญของการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Pranda Group เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดียซึ่งเป็นตลาด ที่นิยมเครื่องประดับทองคำ และประชากรมีกำลังซื้อ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ดี
นางสาวรุ่งนภา เงางามรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดเครื่องประดับทองคำ“ Prima Gold” ในประเทศอินเดียนั้น เป็นผลพวงจากการเปิด เขตการค้าเสรี หรือ FTA โดยระยะที่ผ่านมาเครื่องประดับทองคำในตลาดอินเดียนั้นเป็นเครื่องประดับที่ยังขาดการดีไซน์ที่มีความทันสมัยและความปราณีต และส่วนใหญ่คุณภาพของทองคำยังไม่ดีเพียงพอ
จากจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เครื่องประดับทองคำ Prima Gold คือการผลิตด้วยความปราณีต ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และมี 4 สไตล์ให้เลือกตามรสนิยม คือ Classic, Antique, Natural และ Two-Tone จะเป็นการสร้างความ แปลกใหม่ให้กับวงการตลาดเครื่องประดับของอินเดีย และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
สำหรับเครื่องประดับทองคำ Prima Gold ผลิตโดยPRANDA และทำการตลาดโดยบริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เริ่มทำการเปิดตลาดครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา และได้รุกขยายออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดียิ่งจากผู้บริโภค โดยเฉพาะชาวเอเชีย
นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน)(PRANDA)เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางแพรนด้า กรุ๊ป และบริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้ร่วมกันลงนามในสัญญาแต่งตั้งตัวแทนการดำเนินการด้านการตลาด กับ มร.ซีทาน ดาวี เพื่อดำเนินการด้านการตลาดและจัดจำหน่ายเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ 99.9% ภายใต้ชื่อ Prima Gold ในประเทศอินเดีย ซึ่งสอดรับกับการเปิดเขตการค้าเสรีหรือ FTA ที่ประเทศไทยได้ลงนามไปและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547
ส่งผลให้อัตราศุลกากรนำเข้าเครื่องประดับทองคำของประเทศอินเดีย ขณะนี้ปรับลดลงเหลือ 12.5% จากก่อนหน้านี้มีอัตรา 25% และในวันที่ 1 กันยายน2548 อัตราดังกล่าวจะปรับลดลงอีกเหลือ 6.5% จากนั้นในปี 2550 จะมีอัตราเป็น 0% ในที่สุด
การเปิดตลาดเครื่องประดับทองคำ “ Prima Gold” เป็นอีกก้าวที่สำคัญของการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Pranda Group เพื่อให้สอดรับกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดียซึ่งเป็นตลาด ที่นิยมเครื่องประดับทองคำ และประชากรมีกำลังซื้อ ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการเปิดโอกาสทางธุรกิจที่ดี
นางสาวรุ่งนภา เงางามรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดเครื่องประดับทองคำ“ Prima Gold” ในประเทศอินเดียนั้น เป็นผลพวงจากการเปิด เขตการค้าเสรี หรือ FTA โดยระยะที่ผ่านมาเครื่องประดับทองคำในตลาดอินเดียนั้นเป็นเครื่องประดับที่ยังขาดการดีไซน์ที่มีความทันสมัยและความปราณีต และส่วนใหญ่คุณภาพของทองคำยังไม่ดีเพียงพอ
จากจุดเด่นของผลิตภัณฑ์เครื่องประดับทองคำ Prima Gold คือการผลิตด้วยความปราณีต ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และมี 4 สไตล์ให้เลือกตามรสนิยม คือ Classic, Antique, Natural และ Two-Tone จะเป็นการสร้างความ แปลกใหม่ให้กับวงการตลาดเครื่องประดับของอินเดีย และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
สำหรับเครื่องประดับทองคำ Prima Gold ผลิตโดยPRANDA และทำการตลาดโดยบริษัท พรีม่าโกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้เริ่มทำการเปิดตลาดครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อประมาณ 12 ปีที่ผ่านมา และได้รุกขยายออกสู่ต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดียิ่งจากผู้บริโภค โดยเฉพาะชาวเอเชีย