ผู้จัดการรายวัน - ปปง.บุกยึดตรวจทรัพย์สินอดีตเณรแอ อายัดบ้านทรงยุโรป1 หลัง บ้านทรงไทยหรู 2 หลัง พร้อมทรัพย์สินอื่นๆรวม 40 รายการ กว่า 3.9 ล้าน คาด 90 วัน ส่งอัยการฟ้องศาลแพ่งสั่งยึดทรัพย์ได้ ด้าน อย.พร้อมตรวจสอบยาเสน่ห์ ระบุหากพบอันตราย ถูกลงโทษตามกฎหมายแน่
วานนี้(14 ก.ค.)พ.ต.อ.โกวิท ภิรมย์วงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไวพจน์ โชติธาดา รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี(รองผบก.ปดส)ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 8 ตำบลหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี ของนายหาญ รักษาจิตร์ หรืออดีตเณรแอ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน เพื่อทำการยึดอายัดทรัพย์สิน
โดยการตรวจค้น เริ่มจากบ้านหลังแรก ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นทรงยุโรป ซึ่งอดีตเณรแอ สร้างให้บิดามารดาอยู่ ซึ่งภายในห้องรับแขกพบพระพุทธรูปวางเรียงรายอยู่จำนวนมาก พร้อมกับภาพถ่ายของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักการเมือง และดารานักแสดง โดยมีรูปอดีตเณรแอ อยู่ในจำนวนนั้นด้วย ส่วนที่ห้องนอนชั้น 2 พบตู้เซฟ 1 ใบ จึงได้ทำการเปิด ภายในพบแหวนทอง 1 วง พระเลี่ยมทอง 1 องค์ กระเป๋าหนีบ 1 ใบ และธนบัตรฉบับละ 500 บาทเคลือบพลาสติก 1 ใบบนที่นอน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจในห้องใต้ดินซึ่งเป็นห้องของอดีตเณรแอ พบพระพุทธรูปจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีพานธูปเทียนวางซ้อนกันอยู่จำนวนมาก ตู้เซฟขนาดใหญ่ 1 ใบ แต่ไม่สามารถเปิดได้
จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านทรงไทยหลังแรก ซึ่งอยู่ถัดมาจากบ้านทรงยุโรป ที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรม ตรวจสอบภายในพบหัวกะโหลกมนุษย์ 1 หัว หุ่นขี้ผึ้งปั้นเป็นรูปมนุษย์ชายหญิง โดยใช้สายสิญจน์พันติดกัน และใช้เข็มหมุดเจาะเข้าไปยังลำตัวหุ่นจำนวนหลายคู่ รวมทั้งปลัดขลิกลงอักขระขนาดต่างๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบพระเครื่องจำนวนมากอีกด้วย
จากนั้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านทรงไทยหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 20 เมตร ซึ่งจัดสำหรับเป็นเรือนรับรองให้กับผู้ที่เดินทางมาทำพิธีไสยศาสตร์ โดยผลตรวจค้นเจ้าหน้าที่ทำการอายัดบ้านเรือนไทยทั้ง 2 หลัง รถยนต์เบนซ์ 1 คัน โทรทัศน์สีซัมซุงแบบพาโนรามา ติดผนังขนาด 40 นิ้ว 1 เครื่อง โทรทัศน์สีจอแบนขนาด 25 นิ้ว 2 เครื่อง เครื่องออกกำลังกาย 1 เครื่อง ชุดรับแขกไม้โดน 1 ชุด และทรัพย์สินอื่นๆรวม 40 รายงาน มูลกว่า 3,900,000 บาท โดยไม่รวมบ้าน 3 หลังที่อายัดไว้
พ.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า หลังจากดำเนินการอายัดทรัพย์แล้วจะมอบทรัพย์สินที่อายัดได้ทั้งหมดให้กับตำรวจ ปดส.เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางอาญาก่อน จากนั้น ปปง.จะนำเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่ยึดได้เสนอต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงินหรือไม่ หากเข้าข่ายจะดำเนินการอายัดทรัพย์สินทั้งหมด โดยคาดว่าจะใช้เวลา 90 วันในการดำเนินการ ก่อนเสนออัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งต่อไป
ด้าน ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจจะนำยาเสน่ห์ของอดีตเณรแอ มาให้ตรวจสอบว่ามีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่นั้น ว่าขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ส่งมอบยาเสน่ห์ มาให้ทางอย.ตรวจสอบ แต่หากส่งมาให้ทางอย.ก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้ โดยในเบื้องต้นจะต้องวิเคราะห์ก่อนว่าในยาเสน่ห์มีสารอะไรบ้าง มีการอ้างว่าเป็นยา หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทาง อย.เป็นผู้ดูแลหรือไม่ ซึ่งหากเป็นสารที่ อย.ดูแลก็จะมีการตรวจสอบอีกครั้ง และลงโทษตามกฎหมายต่อไป
“เมื่อได้ยาเสน่ห์มาแล้วทาง อย. จะส่งต่อให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นผู้ วิเคราะห์ว่ามีสารเสพติด หรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ซึ่งหากมีการกล่าวอ้างว่าเป็นยา โดยที่ไม่ได้เป็นยา หรือไม่มีสรรพคุณทางยา จะผิด พ.ร.บ.ยา โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 10 วัน”
วานนี้(14 ก.ค.)พ.ต.อ.โกวิท ภิรมย์วงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไวพจน์ โชติธาดา รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี(รองผบก.ปดส)ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 8 ตำบลหนองโดน อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี ของนายหาญ รักษาจิตร์ หรืออดีตเณรแอ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน เพื่อทำการยึดอายัดทรัพย์สิน
โดยการตรวจค้น เริ่มจากบ้านหลังแรก ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นทรงยุโรป ซึ่งอดีตเณรแอ สร้างให้บิดามารดาอยู่ ซึ่งภายในห้องรับแขกพบพระพุทธรูปวางเรียงรายอยู่จำนวนมาก พร้อมกับภาพถ่ายของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักการเมือง และดารานักแสดง โดยมีรูปอดีตเณรแอ อยู่ในจำนวนนั้นด้วย ส่วนที่ห้องนอนชั้น 2 พบตู้เซฟ 1 ใบ จึงได้ทำการเปิด ภายในพบแหวนทอง 1 วง พระเลี่ยมทอง 1 องค์ กระเป๋าหนีบ 1 ใบ และธนบัตรฉบับละ 500 บาทเคลือบพลาสติก 1 ใบบนที่นอน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงไปตรวจในห้องใต้ดินซึ่งเป็นห้องของอดีตเณรแอ พบพระพุทธรูปจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีพานธูปเทียนวางซ้อนกันอยู่จำนวนมาก ตู้เซฟขนาดใหญ่ 1 ใบ แต่ไม่สามารถเปิดได้
จากนั้นเข้าตรวจค้นบ้านทรงไทยหลังแรก ซึ่งอยู่ถัดมาจากบ้านทรงยุโรป ที่ใช้สำหรับทำพิธีกรรม ตรวจสอบภายในพบหัวกะโหลกมนุษย์ 1 หัว หุ่นขี้ผึ้งปั้นเป็นรูปมนุษย์ชายหญิง โดยใช้สายสิญจน์พันติดกัน และใช้เข็มหมุดเจาะเข้าไปยังลำตัวหุ่นจำนวนหลายคู่ รวมทั้งปลัดขลิกลงอักขระขนาดต่างๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบพระเครื่องจำนวนมากอีกด้วย
จากนั้นเข้าตรวจสอบภายในบ้านทรงไทยหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 20 เมตร ซึ่งจัดสำหรับเป็นเรือนรับรองให้กับผู้ที่เดินทางมาทำพิธีไสยศาสตร์ โดยผลตรวจค้นเจ้าหน้าที่ทำการอายัดบ้านเรือนไทยทั้ง 2 หลัง รถยนต์เบนซ์ 1 คัน โทรทัศน์สีซัมซุงแบบพาโนรามา ติดผนังขนาด 40 นิ้ว 1 เครื่อง โทรทัศน์สีจอแบนขนาด 25 นิ้ว 2 เครื่อง เครื่องออกกำลังกาย 1 เครื่อง ชุดรับแขกไม้โดน 1 ชุด และทรัพย์สินอื่นๆรวม 40 รายงาน มูลกว่า 3,900,000 บาท โดยไม่รวมบ้าน 3 หลังที่อายัดไว้
พ.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า หลังจากดำเนินการอายัดทรัพย์แล้วจะมอบทรัพย์สินที่อายัดได้ทั้งหมดให้กับตำรวจ ปดส.เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีทางอาญาก่อน จากนั้น ปปง.จะนำเอกสารและหลักฐานทั้งหมดที่ยึดได้เสนอต่อคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณาว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายความผิดมูลฐานการฟอกเงินหรือไม่ หากเข้าข่ายจะดำเนินการอายัดทรัพย์สินทั้งหมด โดยคาดว่าจะใช้เวลา 90 วันในการดำเนินการ ก่อนเสนออัยการเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งต่อไป
ด้าน ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจจะนำยาเสน่ห์ของอดีตเณรแอ มาให้ตรวจสอบว่ามีสารที่เป็นอันตรายหรือไม่นั้น ว่าขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ส่งมอบยาเสน่ห์ มาให้ทางอย.ตรวจสอบ แต่หากส่งมาให้ทางอย.ก็พร้อมที่จะตรวจสอบให้ โดยในเบื้องต้นจะต้องวิเคราะห์ก่อนว่าในยาเสน่ห์มีสารอะไรบ้าง มีการอ้างว่าเป็นยา หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทาง อย.เป็นผู้ดูแลหรือไม่ ซึ่งหากเป็นสารที่ อย.ดูแลก็จะมีการตรวจสอบอีกครั้ง และลงโทษตามกฎหมายต่อไป
“เมื่อได้ยาเสน่ห์มาแล้วทาง อย. จะส่งต่อให้กับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นผู้ วิเคราะห์ว่ามีสารเสพติด หรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ซึ่งหากมีการกล่าวอ้างว่าเป็นยา โดยที่ไม่ได้เป็นยา หรือไม่มีสรรพคุณทางยา จะผิด พ.ร.บ.ยา โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 10 วัน”