xs
xsm
sm
md
lg

ต้นธารแห่งความมั่งคั่ง (จบ)

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

ประเทศจีนปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม มีพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนใช้อำนาจบริหาร เป็นพรรคบริหารหรือพรรครัฐบาลตลอดกาล

พรรคฯ นี้ประกาศเจตนารมณ์ และแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า จะปกครองประเทศ บริหารประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ในทางปฏิบัติก็คือกำหนดแนวนโยบายพัฒนาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง ด้วยการปฏิรูประบบ โครงสร้าง และกลไกต่างๆ ให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน และในทุกขั้นตอน

กว่าครึ่งศตวรรษของการพิสูจน์ ประเทศจีนได้เจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ สงบร่มเย็น ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตั้งแต่มีการดำเนินนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้าง นำระบบเศรษฐกิจตลาดเข้ามาประยุกต์ใช้ในระบอบสังคมนิยม เกิดบริษัทธุรกิจจำนวนมาก ประกอบเป็นปัจจัยสำคัญกระตุ้นให้เศรษฐกิจจีนพัฒนาขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

จึงพอสรุปได้ว่า การดำเนินนโยบายอย่างถูกต้องของพรรคฯ จีน กับการพัฒนาเติบใหญ่ของบริษัทธุรกิจจีน คือพลังขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสังคมจีน

อีกนัยหนึ่ง เป็นต้นธารแห่งความมั่งคั่งของประเทศจีนยุคใหม่

หูเฉิงจง ผู้ก่อตั้งเต๋อลี่ซีกล่าวย้ำเสมอว่า หากไม่มีเติ้งเสี่ยวผิง ไม่มีการปฏิรูปและเปิดกว้าง ก็จะไม่มีหูเฉิงจงในวันนี้ ไม่มีเต๋อลี่ซีในวันนี้

หน่วยพรรคในบริษัท

ผู้เขียนให้ความสนใจในบทบาทการนำของพรรคฯจีนในภาคธุรกิจ ด้วยเห็นว่า มันคือองค์ประกอบสำคัญที่กำหนดความแตกต่างระหว่างระบบเศรษฐกิจตลาด (สังคมนิยม) จีน กับระบบเศรษฐกิจตลาด (ทุนนิยม)ตะวันตก

ในโลกตะวันตก วิสาหกิจอุตสาหกรรมและบริษัทธุรกิจทั่วไป อย่างมากก็มีเพียงสหภาพแรงงาน ในฐานะองค์กรจัดตั้งของฝ่ายลูกจ้าง ทำหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของผู้ใช้แรงงาน มีบทบาทค่อนข้างจำกัด

แต่ในประเทศจีน วิสาหกิจอุตสาหกรรมและบริษัทธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นวิสาหกิจหรือบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ มีองค์กรจัดตั้งของพรรค มีคณะกรรมการพรรค มีหน่วยพรรค ที่ประกอบด้วยสมาชิกพรรคภายในวิสาหกิจอุตสาหกรรมหรือบริษัทธุรกิจ ดำเนินกิจกรรมอยู่

พวกเขามีหน้าที่ทำงานความคิดการเมืองไม่เพียงแต่ในหมู่พนักงานลูกจ้างเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้ประกอบการหรือนายจ้างด้วย เพื่อช่วยให้การดำเนินกิจการของบริษัทเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นประโยชน์ทั้งต่อฝ่ายนายจ้างและลูกจ้าง

ระหว่างการเยี่ยมชมกิจการของบริษัทผู้ผลิตไฟแช็กตราเสือในเมืองเวินโจว ผู้เขียนได้สอบถามถึงบทบาทขององค์พรรคในบริษัท คำตอบก็คือ ทำให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้าหน้าที่ของเมืองไถโจวที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่คณะนักเขียนนานาชาติ คำตอบก็คือ เพื่อให้บริษัทธุรกิจดำเนินธุรกิจตามกรอบของกฎหมาย ปฏิบัติต่อพนักงานลูกจ้างตามกฎหมายแรงงาน เป็นต้น

ขณะที่เข้าเยี่ยมชมโรงงานจักรเย็บผ้าเจ็มซี่ที่เมืองไถโจว ผู้เขียนสังเกตเห็นพนักงานบางคนสวมเสื้อที่มีธงแดงรูปค้อนเคียว (ธงพรรคคอมมิวนิสต์จีน) ปักอยู่ที่หน้าอกเสื้อ สอบถามได้ความว่า เขาเป็นสมาชิกพรรคฯ

ในบริเวณสำนักงานของโรงงาน มีห้องทำงานของพรรคโดยเฉพาะอยู่ห้องหนึ่ง เป็นห้องทำงานมาตรฐาน กว้างขวาง มองเห็นได้ง่าย

บทบาทของพรรคฯในเต๋อลี่ซีกรุ๊ป

สำหรับเต๋อลี่ซีกรุ๊ป จากข้อมูลของบริษัท คณะผู้บริหารเต๋อลี่ซีกรุ๊ปให้ความสำคัญต่อบทบาทของหน่วยพรรคในบริษัทมาก เป็นบริษัทธุรกิจเอกชนแห่งแรกของเมืองเวินโจวที่มีการก่อตั้งคณะกรรมการพรรคขึ้น (ในค.ศ.1999)

หากว่ากันในเรื่องคณะกรรมการพรรคฯ ในประเทศจีนถือว่าเป็นตัวแทนอำนาจสูงสุด

ในระดับชาติ ก็คือคณะกรรมการกลางพรรคฯ ซึ่งปัจจุบันมีหูจิ่นเทาเป็นเลขาธิการพรรคฯ

ในระดับมณฑล มีคณะกรรมการพรรคฯประจำมณฑล เลขาธิการพรรคฯคือผู้มีอำนาจสูงสุด เหนือกว่าผู้ว่าการมณฑล (มักจะเป็นรองเลขาธิการพรรคฯ)

ในระดับเมืองหรือนคร เช่น กรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเวินโจว ไถโจว เป็นต้น มีคณะกรรมการพรรคฯ ประจำเมืองหรือนคร เลขาธิการพรรคฯ คือผู้ทรงอำนาจสูงสุด เหนือกว่า นายกเทศมนตรี (มักจะเป็นรองเลขาธิการพรรคฯ)

นั่นคือ เลขาธิการพรรคฯของคณะกรรมการพรรคฯในแต่ละระดับ คือผู้นำหมายเลขหนึ่งของอำนาจการปกครองระดับนั้นๆ

ในบริษัทธุรกิจมีคณะกรรมการพรรคฯ หมายความว่าเลขาธิการพรรคฯมีอำนาจสูงสุดในบริษัทหรือกลุ่มบริษัท (เช่นเต๋อลี่ซีกรุ๊ป) กระนั้นหรือ?

เจิ้งต๋าตง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคฯ เต๋อลี่ซีกรุ๊ป แจกแจงให้เราฟังว่า พรรคฯ จีนเป็นพรรคบริหารประเทศ เป็นผู้ใช้อำนาจปกครองในระดับต่างๆ ก็จริง แต่ในบริษัทธุรกิจเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากอำนาจการจัดการทรัพยากรหรือทรัพย์สินต่างๆ อยู่ในมือของกรรมการผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริหารบริษัทคือผู้ใช้อำนาจบริหารธุรกิจที่แท้จริง

กระนั้นก็ตาม ปัจจุบันเจิ้งต๋าตงก็ได้รับเชิญเข้าไปนั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของกลุ่มบริษัทเต๋อลี่ซี ในตำแหน่งรองประธานกรรมการ เป็นดุจตัวแทนพรรคฯในองค์กรธุรกิจเอกชน คอยช่วยเหลือให้องค์กรธุรกิจพัฒนาไปในแนวทางที่ถูกต้อง สอดคล้องกับแนวนโยบายของพรรค เชื่อมโยงการพัฒนาขยายตัวของภาคธุรกิจเอกชนเข้ากับการพัฒนาขยายตัวทางเศรษฐกิจสังคมของประเทศจีนโดยรวม

อีกนัยหนึ่ง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

เขากล่าวว่า บทบาทสำคัญของคณะกรรมการพรรคฯ คือ ทำงานความคิดการเมืองในคณะกรรมการบริหารบริษัทฯ เพื่อให้บริษัทพัฒนาตนเองได้อย่างสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาของประเทศจีน ยึดกุมแนวนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของรัฐบาลจีนได้มั่น

เขาบอกว่า ความสำเร็จทางด้านธุรกิจของผู้ประกอบการ ก็คือความสำเร็จทางการเมืองของพรรคฯ

ในการทำงาน คณะกรรมการพรรคฯ กับคณะกรรมการบริหารบริษัทจะนั่งประชุมร่วมกัน พิจารณาปัญหาในหัวข้อต่างๆ ที่เกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพขององค์กร เช่นการพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ความเป็นบริษัทสากล เป็นต้น

ยิ่งกว่านั้น ยังได้จัดตั้งหน่วยศึกษาทฤษฎีของคณะกรรมการบริหารฯ ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ เพื่อให้คณะกรรมการบริหารฯเข้าใจในความคิดทฤษฎี แนวทางนโยบายของพรรคฯ จีน สามารถกำหนดทิศทางพัฒนาธุรกิจได้อย่างสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของพรรคฯและรัฐบาลจีน

มองในแง่โอกาส จะทำให้คณะผู้บริหารฯ "เข้าถึง" โอกาสใหม่ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงแนวคิดทฤษฎีของพรรคฯจีน

อีกด้านหนึ่ง คณะกรรมการพรรคฯจะต้องสามัคคีพลังกรรมกรผู้ใช้แรงงานของบริษัทเข้าด้วยกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งของสหภาพแรงงาน สหภาพสตรี และองค์กรผู้ใช้แรงงานรูปแบบต่างๆ เป็นตัวกลางประสานประโยชน์ของกลุ่มทุนกับกลุ่มผู้ใช้แรงงาน เพื่อประกันให้บริษัทพัฒนาเติบใหญ่และประกันให้ผู้ใช้แรงงานได้รับประโยชน์ตามกฎหมายแรงงานอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

จากนั้น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ กรรมกรลูกจ้างอย่างกว้างขวางที่สุด คณะกรรมการพรรคฯ ภายใต้การนำของเจิ้งต๋าตง ก็ได้มีมติจัดตั้ง "ถ่งจั้นปู้" หรือหน่วยงานรับผิดชอบด้านการทำงาน "แนวร่วม" โดยเฉพาะ ขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2003

โดยนัยดังกล่าว งานแนวร่วมก็คือการทำงานประสานสามัคคีพลังทุกฝ่ายให้กว้างขวางที่สุด เข้าสู่กระบวนการปฏิบัติร่วมกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน

เถ้าแก่หัวดี กรรมการพรรคฯ มีวิธี

เจิ้งต๋าตงบอกว่า ในบริษัทธุรกิจเอกชน "เถ้าแก่" เป็นเจ้าของ ผู้ถือหุ้นใหญ่มีอำนาจสั่งการงานความคิดการเมืองของคณะกรรมการพรรคฯจึงขึ้นกับว่า "เถ้าแก่" หรือผู้ประกอบการธุรกิจมีความคิดเปิดกว้าง หัวดี หรือไม่เพียงใด ถ้าดีคณะกรรมการพรรคฯ ก็มีวิธี

เต๋อลี่ซี ที่มีหูเฉิงจงเป็นเถ้าแก่ มุ่งมั่นพัฒนากิจการของเต๋อลี่ซี ให้ความสำคัญต่อบทบาทของคณะกรรมการพรรคฯ ด้วยเหตุนี้ งานด้านความคิดการเมืองของคณะกรรมการพรรคฯ ในเต๋อลี่ซีจึงพัฒนาไปได้เป็นอย่างดี คณะกรรมการบริหารฯ กับคณะกรรมการพรรคฯ สามารถทำงานร่วมกัน ประสานกัน อาศัยซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

ทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันระหว่าง "เถ้าแก่" กับ "ลูกจ้าง" คณะผู้บริหารฯสามารถเอาเวลาไปคิดงาน ขยายตลาดและกิจการ ขณะที่พนักงานลูกจ้างก็มีสมาธิในการทำงาน มีกำลังใจที่จะยกระดับฝีมือและประสิทธิภาพการทำงานอยู่เสมอ ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลเรื่องรายได้และสิทธิผลประโยชน์ที่จะได้รับตามกฎหมาย กระทั่งเมื่อประสบเหตุเภทภัยต่างๆ ก็มีองค์กรพรรคฯ สหภาพฯ คอยเอาใจใส่ดูแล ให้การช่วยเหลือ

ทั้งนี้ การพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็งเติบใหญ่ คือเป้าหมายร่วมกันของทั้งสองฝ่าย

แม้ว่าเถ้าแก่หรือผู้ถือหุ้น จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากกว่าจากการดำเนินธุรกิจ แต่ก็ไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง ไม่เกิดกรณีพิพาททางแรงงาน เพราะมีความเข้าใจร่วมกันแล้วว่า การพัฒนาขยายตัวของบริษัทฯ คือเป้าหมายร่วมกันของทุกฝ่าย

ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนายจ้างหรือลูกจ้าง ล้วนแต่เป็นผู้สร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติ ให้แก่ระบอบสังคมนิยมจีน

ในปี 2001 เต๋อลี่ซีได้รับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จำนวนมากจากต่างประเทศ ลำพังการผลิตในระบบปกติจะไม่สามารถสนองความต้องการได้ คณะกรรมการพรรคฯเร่งปลุกระดมความคิดพนักงานเจ้าหน้าที่ทุกระดับ มีสมาชิกพรรคเป็นแกนนำ โถมตัวเข้าสู่การผลิตในทันที ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ เพียง 12 วันเท่านั้น ก็สามารถผลิตสินค้าได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ เร็วกว่าเวลาที่กำหนดไว้ถึง 2 วัน

ในเดือนเมษายน 2003 เต๋อลี่ซีชนะการประมูลโครงการของศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียน เป็นผู้สนองอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์ต่ำแต่เพียงผู้เดียว คณะกรรมการพรรคฯ ก็ได้ร่วมกับคณะกรรมการบริหารบริษัท จัดกำลังวิศวกรและช่างผู้ชำนาญการเข้าเป็นทีมทำงาน ทุ่มเทสติปัญญา และความสามารถสูงสุด ให้แก่การผลิตอุปกรณ์คุณภาพสูงให้แก่ศูนย์อวกาศฯ แห่งนั้น

เป็นผู้ผลักดันให้เกิดนายทุนที่ดี

จีนมีปัญหาการชำระภาษีเงินได้ของผู้ประกอบการ หรือผู้มีรายได้จากการทำธุรกิจส่วนตัว มีจำนวนมากที่หลบเลี่ยงภาษี ในยุคที่จูหรงจีเป็นนายกรัฐมนตรีถึงกับเอ่ยปากว่า ทำไมคนรวยในประเทศจีนจึงเสียภาษีน้อยจัง ยิ่งรวยก็ยิ่งเสียน้อย

วิธีการหลบเลี่ยงภาษีของนักธุรกิจจีนยุคใหม่มีมากมายหลายทาง แต่ก็มีอยู่หลายรายโดนจับขับคุก ในเชิง "เชือดไก่ให้ลิงดู"

กล่าวกันว่า หูเฉิงจงเป็นนักธุรกิจที่ดี ชำระภาษีเงินได้เต็มจำนวนทุกปี

ในปี 2002 เขากับคณะกรรมการผู้ถือหุ้นของเต๋อลี่ซี จะต้องชำระภาษีไม่น้อยกว่า 5 ล้านหยวน (ราว 25 ล้านบาท) ปรากฏว่า มีผู้ถือหุ้นเล็กบางราย อิดเอื้อน

เรื่องนี้รู้ไปถึงคณะกรรมการพรรคฯเต๋อลี่ซี จึงได้ไปพบปะ อธิบายโน้มน้าวให้เขาเหล่านั้นปฏิบัติหน้าที่ของพลเมืองดี

นอกจากนั้น คณะกรรมการพรรคฯ ยังทำหน้าที่แนะนำบุคลากรดีเด่นให้เข้าไปรับผิดชอบในตำแหน่งบริหารระดับสูงของบริษัท พยายามโน้มน้าวให้บริษัทเปิดกว้างรับบุคคลภายนอกเข้าไปนั่งในตำแหน่งบริหารระดับสูง

ปัจจุบันนี้ ในจำนวนผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดของเต๋อลี่ซีกรุ๊ป เป็นสมาชิกพรรคถึง 2 ใน 3

ทั้งหมดที่ได้กล่าวมา (ตั้งแต่ตอนที่ 1-5) ประกอบเข้าเป็น "ต้นธารแห่งความมั่งคั่ง" ของประเทศจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น