เอเอฟพี – นักเศรษฐศาสตร์คนดังค่ายมอร์แกน สแตนลีย์ย้ำ ราคาน้ำมันโลกจะดิ่งลงในไม่ช้านี้ เนื่องจากตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันของเอเชียสูงเกินไป ด้านสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศก็ออกรายงานล่าสุดปรับลดคำทำนายดีมานด์โลกปี 2005
แอนดี้ เซี่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชีย แห่ง มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐฯ สาขาฮ่องกง กล่าวในรายงานเผยแพร่วานนี้ (13) ซึ่งใช้ชื่อว่า “เอเชียน ออย ดีมานด์ ดีไคลนิ่ง” ว่า ภาวะขาขึ้นที่ส่งให้ราคาน้ำมันโลกปีนี้ทะยานสูงทำสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น มีสาเหตุเนื่องจาก “ฟองสบู่ในการเก็งกำไร”
เซี่ยซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำระดับภูมิภาคกล่าวว่า ฟองสบู่ราคาน้ำมันจะไม่ยืนยาว เพราะว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจะถีบให้เศรษฐกิจตกต่ำลง จนทำให้ดีมานด์น้ำมันลดต่ำลงด้วยในที่สุด
เขาแจงต่อว่า ในตลาดน้ำมันนั้นมีความคิดเห็นอย่างผิดๆ กันว่า การพุ่งสูงของราคาน้ำมันในปัจจุบัน เนื่องมาจากดีมานด์ของเอเชียที่เติบโตแข็งแกร่ง มากกว่าเป็นเพราะดีมานด์เพื่อการเก็งกำไร
แต่ในทางเป็นจริงแล้ว เซี่ยชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชีย รวมไปถึงดีมานด์น้ำมันในภูมิภาคนี้ด้วย กำลังอยู่ในช่วงชะลอฝีเท้าการเติบโตกันแล้ว ดังนั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งตลาดจะหมดความคิดที่ว่า เอเชียหรือประเทศจีนมีดีมานด์น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด
นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ให้ข้อสังเกตว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2005 การนำเข้าน้ำมันดิบของแดนมังกรเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% เมื่อเทียบกับ 34.8% ในปี 2004 ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นกลับตกลง 21.1% เมื่อเทียบกับปริมาณนำเข้าที่สูงขึ้น ถึง 34.1% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันของอีกหลายประเทศเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และอินเดียก็กำลังชะลอตัวเช่นเดียวกัน
ไออีเอลดคาดการณ์ดีมานด์โลก
วันเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) กล่าวเตือนในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนฉบับล่าสุดว่า ราคาน้ำมันอาจไต่ระดับขึ้นสูงต่อไปด้วยปัญหาความไม่แน่นอนต่างๆ ในระดับโลกทั้งปัจจัยเรื่องพายุโซนร้อนและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่นที่เกิดเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ในรายงานนี้ ไออีเอได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันโลกในปี 2005 ลงอยู่ที่ 83.88 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) จากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ 84.3 ล้านบีพีดี
ไออีเอมองว่าปีนี้ดีมานด์ทั้งจากจีนและสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในดีมานด์ของทั้ง 2 ประเทศลง 200,000 บีพีดีอยู่ที่ 1.58 ล้านบีพีดี
ไออีเอแจงว่า อัตราการขยายตัวของดีมานด์จีนอ่อนแอลงค่อนข้างมาก และได้ปรับลดคาดการณ์ลงมาอยู่ที่ 5.5% หรือ 360,000 บีพีดี จากก่อนหน้านี้ซึ่งให้ไว้ที่ 460,000 บีพีดี ด้านสหรัฐฯ ไออีเอปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตปีนี้ลงมาระหว่าง 110,000 - 170,000 บีพีดี
อนึ่ง ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันอังคาร (12) ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากวิตกกันว่าฐานการผลิตของสหรัฐฯในอ่าวเม็กซิโกอาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนลูกใหม่ “เอมิลี่” ซึ่งอาจทวีกำลังกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคน หลังพายุเฮอร์ริเคนเดนนิสพึ่งพัดผ่านไป
น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดงวดส่งมอบเดือนสิงหาคมที่ตลาดนิวยอร์กดีดขึ้น 1.70 ดอลลาร์ปิดที่ 60.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 1.38 ดอลลาร์อยู่ที่ 58.82 ดอลลาร์
แอนดี้ เซี่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชีย แห่ง มอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจชื่อดังของสหรัฐฯ สาขาฮ่องกง กล่าวในรายงานเผยแพร่วานนี้ (13) ซึ่งใช้ชื่อว่า “เอเชียน ออย ดีมานด์ ดีไคลนิ่ง” ว่า ภาวะขาขึ้นที่ส่งให้ราคาน้ำมันโลกปีนี้ทะยานสูงทำสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น มีสาเหตุเนื่องจาก “ฟองสบู่ในการเก็งกำไร”
เซี่ยซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำระดับภูมิภาคกล่าวว่า ฟองสบู่ราคาน้ำมันจะไม่ยืนยาว เพราะว่าราคาน้ำมันที่พุ่งสูงจะถีบให้เศรษฐกิจตกต่ำลง จนทำให้ดีมานด์น้ำมันลดต่ำลงด้วยในที่สุด
เขาแจงต่อว่า ในตลาดน้ำมันนั้นมีความคิดเห็นอย่างผิดๆ กันว่า การพุ่งสูงของราคาน้ำมันในปัจจุบัน เนื่องมาจากดีมานด์ของเอเชียที่เติบโตแข็งแกร่ง มากกว่าเป็นเพราะดีมานด์เพื่อการเก็งกำไร
แต่ในทางเป็นจริงแล้ว เซี่ยชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในเอเชีย รวมไปถึงดีมานด์น้ำมันในภูมิภาคนี้ด้วย กำลังอยู่ในช่วงชะลอฝีเท้าการเติบโตกันแล้ว ดังนั้น เมื่อถึงจุดหนึ่งตลาดจะหมดความคิดที่ว่า เอเชียหรือประเทศจีนมีดีมานด์น้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด
นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ให้ข้อสังเกตว่า ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2005 การนำเข้าน้ำมันดิบของแดนมังกรเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% เมื่อเทียบกับ 34.8% ในปี 2004 ขณะที่การนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นกลับตกลง 21.1% เมื่อเทียบกับปริมาณนำเข้าที่สูงขึ้น ถึง 34.1% ในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ การนำเข้าน้ำมันของอีกหลายประเทศเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และอินเดียก็กำลังชะลอตัวเช่นเดียวกัน
ไออีเอลดคาดการณ์ดีมานด์โลก
วันเดียวกัน สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) กล่าวเตือนในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนฉบับล่าสุดว่า ราคาน้ำมันอาจไต่ระดับขึ้นสูงต่อไปด้วยปัญหาความไม่แน่นอนต่างๆ ในระดับโลกทั้งปัจจัยเรื่องพายุโซนร้อนและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่นที่เกิดเหตุระเบิดในกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ในรายงานนี้ ไออีเอได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันโลกในปี 2005 ลงอยู่ที่ 83.88 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีพีดี) จากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้วที่ 84.3 ล้านบีพีดี
ไออีเอมองว่าปีนี้ดีมานด์ทั้งจากจีนและสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง และปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในดีมานด์ของทั้ง 2 ประเทศลง 200,000 บีพีดีอยู่ที่ 1.58 ล้านบีพีดี
ไออีเอแจงว่า อัตราการขยายตัวของดีมานด์จีนอ่อนแอลงค่อนข้างมาก และได้ปรับลดคาดการณ์ลงมาอยู่ที่ 5.5% หรือ 360,000 บีพีดี จากก่อนหน้านี้ซึ่งให้ไว้ที่ 460,000 บีพีดี ด้านสหรัฐฯ ไออีเอปรับลดคาดการณ์อัตราเติบโตปีนี้ลงมาระหว่าง 110,000 - 170,000 บีพีดี
อนึ่ง ราคาน้ำมันโลกเมื่อวันอังคาร (12) ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากวิตกกันว่าฐานการผลิตของสหรัฐฯในอ่าวเม็กซิโกอาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนลูกใหม่ “เอมิลี่” ซึ่งอาจทวีกำลังกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคน หลังพายุเฮอร์ริเคนเดนนิสพึ่งพัดผ่านไป
น้ำมันดิบไลต์สวีตครูดงวดส่งมอบเดือนสิงหาคมที่ตลาดนิวยอร์กดีดขึ้น 1.70 ดอลลาร์ปิดที่ 60.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านน้ำมันดิบชนิดเบรนต์ในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น 1.38 ดอลลาร์อยู่ที่ 58.82 ดอลลาร์