xs
xsm
sm
md
lg

พิสูจน์ชีวิตม้งริมถนน"ห้วยน้ำขาว" รอวันเข้าอเมริกาหลังปิดถ้ำกระบอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงาน
เพชรบูรณ์


หลังจากศูนย์พักพิงถ้ำกระบอก จ.สระบุรี ถูกปิดลง ปรากฏว่า มีชาวม้ง ที่เคยพักอาศัยอยู่ รวมทั้งที่ลักลอบเดินทางเข้ามาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว( สปป.ลาว )กระจายไปอยู่หลายจังหวัดในภาคเหนือของไทย ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ตาก เพชรบูรณ์ เป็นต้น

โดยเฉพาะ"เ พชรบูรณ์" ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมคนไทยเชื้อสายม้ง อยู่มากที่สุดจังหวัดหนึ่ง จนกลายเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดไปแล้ว ล่าสุดยังได้กลายเป็นแหล่งรองรับม้ง จากถ้ำกระบอก - ม้งพลัดถิ่นที่ลักลอบเดินทางเข้ามาเพิ่ม หวังเพียงเพื่อสิทธิที่จะเดินทางไปประเทศที่ 3 หรืออเมริกา หลังจากทราบข่าวจากพี่น้องเชื้อสายม้งปากต่อปากว่า มีพี่น้องชาวม้งที่ถูกคัดตัวไปอยู่สหรัฐอเมริกาแล้วหลายต่อหลายคน เพราะถือเป็นผู้ลี้ภัย ทำให้ขณะนี้ชาวม้งจากทุกสารทิศมุ่งหน้าไปยังเพชรบูรณ์กันมากขึ้นทุกขณะ

ริมถนนสายเอเชียหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณทางเข้าหมู่บ้านห้วยน้ำขาว ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ระยะทางประมาณ 2-3 กม. ถูกยึดเป็นที่ตั้งบ้านเรือนชั่วคราว - เต็นท์ผ้าใบ และแคร่ไม้ไผ่ เรียงรายเป็นแนวยาวจนถึงก่อนทางเข้าหมู่ 1 บ้านห้วยน้ำขาวเล็กน้อย

ที่นี่ ถูกใช้เป็นที่อยู่ ที่กิน และที่หลับนอนของชาวม้งอพยพ - กลุ่มม้งจากถ้ำกระบอก จ.สระบุรี ที่ถูกปิดลง ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขามุ่งหวังกันว่า จะมีโอกาสเดินทางไปประเทศที่ 3 หรือสหรัฐอเมริกาต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ หรือถ้าหากไปไม่ได้ ก็ขออยู่ในประเทศไทยแทนที่จะกลับ สปป.ลาว

ชนชาวม้งอพยพหลายคนบอกว่า อยู่ที่นี่ ยังมีโอกาสได้รับเงินจากเครือญาติที่ไปอยู่สหรัฐก่อนหน้านี้ ที่ส่งเงินมาให้ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะถ้าหากอยู่ สปป.ลาว พวกเขาบอกว่า แทบจะไม่มีโอกาสได้รับเงินที่โอนมาจากญาติพี่น้องเลยก็ว่าได้

แต่เนื่องด้วย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2548 อำเภอเขาค้อได้ประกาศให้พื้นที่บ้านห้วยน้ำขาวเป็นเขตควบคุมพิเศษ และจะดำเนินการจับกุม ผู้ที่ให้ที่พักพิงอาศัยแก่คนต่างด้าวอย่างเด็ดขาด ทำให้ชาวม้งอพยพ - กลุ่มม้งจากถ้ำกระบอก ต้องออกมาหาที่พักอาศัยริมถนนแทนบ้านเรือนเครือญาติชาวม้งบ้านห้วยน้ำขาวแทน

เนินดินริมถนน ถูกยึดเป็นที่พักชั่วคราว มีร่มไม้ริมเพิงพักถูกยึดเป็นโรงครัว ลำห้วยน้ำขาว / ห้วยน้ำเข็ก ใกล้เคียงถูกยึดเป็นห้องน้ำ

ทำให้ถนนทางเข้าหมู่บ้านห้วยน้ำขาววันนี้ กลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เกือบหมื่นคน

ช่วงกลางวัน ใครที่ผ่านไปมาตามถนนเส้นนั้น จะเห็นชาวม้งอพยพเดินไปมาเกลื่อนถนน เนื่องจากไม่มีงาน - อาชีพรองรับ ขณะที่เด็ก ๆ ชาวม้ง ก็ไม่สามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนห้วยน้ำขาว ที่รองรับเด็กเข้าเรียนได้เพียง 200 คนเท่านั้น
ขณะที่ชาวม้งถ้ำกระบอกที่ตกสำรวจ ได้ทำหนังสือเขียนเป็นภาษาไทยและภาษาม้งถึงแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อชะลอการผลักดัน

ขณะเดียวกันก็มีหน่วยข่าวของทหาร แฝงตัวดูแลชาวม้งประมาณ 1 หมวด (7-8คน) เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่สงบ

เจ้าของร้าน"ทรัพย์ไพศาล"ที่ขายวัสดุก่อสร้างและสินค้าอุปโภคบริโภค หน้าปากทางเข้าบ้านห้วยน้ำขาว เล่าว่า ยังไม่ทราบว่า มีม้งเข้ามาอยู่จำนวน 7-8 พันคนได้อย่างไร กระทั่งไม่กี่วันนี้ทราบว่า ชาวม้ง กางเต็นท์ชั่วคราวริมถนนเพียบ ก่อนหน้านี้ โถส้วมขายดีพร้อมกับสินค้าอื่นๆ

แต่ปัจจุบันทางการถูกจำกัดห้ามออกนอกพื้นที่ สถานการณ์ค้าขายจึงเข้าสู่ปกติ ร้านค้าหลายรายไปตั้งแผงขายสินค้าจำเป็นที่ห้วยน้ำขาว การที่ม้งอพยพสามารถเข้าไปห้วยน้ำขาวได้ เชื่อว่า ลักลอบเข้าไปเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ช่วงกลางวันตนเฝ้าร้านค้าอยู่ แทบไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปกติ

นายตงแซ่ สือศักดิ์วงษ์ คนไทยเชื้อสายม้งที่เกิดในประเทศไทย บอกว่า ม้งอพยพมาจากลาว มีทั้งอดีตลูกหลานทหารซีไอเอ เครือข่ายขบวนการต่อต้านลาว (ขตล.) ส่วนหนึ่งก็มาจากป่าจริงๆในประเทศลาว และบางส่วนอยู่ประเทศไทยอยู่แล้ว แถบชายแดน เป้าหมาย คือ ต้องการเดินทางไปประเทศที่ 3 เช่นเดียวกับชาวม้งถ้ำกระบอก ที่สามารถเดินทางไปได้ ก่อนปิดศูนย์พักพิงถ้ำกระบอก สระบุรี เข้าใจว่าห้วยน้ำขาว อ.เขาค้อ เพชรบูรณ์นี้เป็นศูนย์อพยพใหม่ ทำให้ม้งเดินทางข้ามลำน้ำโขงมา แต่เมื่อมาอยู่ หลายคนบอกว่าจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เขาบอกว่า หลายเดือนก่อนชาวม้งลาวได้มาขออาศัยอยู่บ้านของเขา ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะหลักมนุษยธรรม พอจะให้หลบฝนบริเวณใต้ถุนบ้านได้ บางรายตีสนิทว่าเป็นเครือญาติและอาศัยนอนในบ้าน สำหรับกลุ่มชาวม้งลาวไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องยาเสพติด เพียงแต่ต้องการเดินทางไปประเทศสหรัฐฯเท่านั้น

นายไสว ลี่ปรีชา(แซ่ลี่) ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เข็กน้อย เปิดเผยว่า ประชากรเฉพาะม้งที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายบริเวณห้วยน้ำขาวมีตัวเลขเกือบหมื่นคน ปัญหาที่เกิดขึ้นของชาวม้งอพยพที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ริมถนน เนื่องจากทางการคืออ.เขาค้อได้ประกาศอย่างไม่เป็นทางการช่วงวันที่ 4 กรกฎาคม 2548 ว่า ผู้ใดให้ที่พักพิงแก่ผู้หลบหนีเข้าเมืองจะมีความผิด ทำให้ชาวม้งห้วยน้ำขาวดั้งเดิม กลัวกฎหมาย ไม่ยอมให้ม้งอพยพอาศัยอยู่ในบ้าน จำเป็นต้องออกมานอนกางผ้าใบอยู่ริมถนน

ประกอบกับทางการแยกการขึ้นทะเบียนของชาวม้งออกเป็นหมวด ก ข ค ง พร้อมกับตั้งหัวหน้ากลุ่ม 6-7 คนเพื่อดูแลกันเองภายในหมวดหมู่ รับผิดชอบหากชาวม้งอพยมหลบหนี ยิ่งทำให้ม้งต้องออกมารวมตัวอยู่ข้างนอก ทั้งที่จริงชาวม้งอพยพเหล่านี้ ได้แฝงตัวและอาศัยอยู่กับพี่น้องม้งประจำถิ่น โดยที่ไม่มีใครทราบ

สำหรับยอดตัวเลขอย่างเป็นทางการของประชากรม้งหลบหนีเข้าเมือง คือ 5,582 คน แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด โดยมีคนในพื้นที่อีก 800 คน ล่าสุดได้มี "หมอไร้พรมแดน" 2-3 คนเข้ามาดูแล แต่บ้านห้วยน้ำขาวยังอยู่ในระหว่างประกาศเขตควบคุมเป็นพื้นที่พิเศษ แพทย์ยังไม่สามารถเข้าดูแล ต้องรอคำสั่งอนุญาตจากอำเภอเขาค้อ

นายจือ แซ่ลี ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลเข็กน้อย เปิดเผยว่า ตำบลเข็กน้อยแบ่งออกเป็น 12 ตำบล ตำบลที่มีปัญหาม้งอพยพคือ หมู่ 1 บ้านห้วยน้ำขาว การเลือกตั้งที่ผ่านมามีผู้มาใช้สิทธิ 290 คน ขณะที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 342 คน แต่ปัจจุบันประชากรได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ล่าสุดมีชาวม้งลาวอพยพที่มาพักพิงสูงถึง 6,500 คน ซึ่งทางการแยกออกเป็นหมวดหมู่ คือ ก ข ค ง จากตัวเลขเมื่อเดือนพฤษภาคม 48 มีม้งลาวประมาณ 4,700 คนเท่านั้น โดยตัวเลขชาวม้งอพยพยังไม่นิ่ง ทั้งนี้ปลัดอำเภอเขาค้อ ได้เข้ามาเช็กยอดทุก 2 สัปดาห์

นายเยีย แซ่ลี เป็นอีกคนหนึ่งของชาวลาวอพยพมาจากแถบหลวงพระบาง บอกว่า เดินทางเข้าประเทศไทยที่ปากชม ท่าลี่ จ.เลย พร้อมลูกสาวและภรรยารวม 4 คน เสียค่าใช้จ่ายนั่งรถกระบะมายังบ้านห้วยน้ำขาว 5 พันบาท เพื่อต้องการไปสหรัฐฯ หากสหรัฐฯไม่รับก็ขออยู่ประเทศไทย เพราะมีญาติที่สหรัฐฯส่งเงินมาให้จำนวน 100 เหรียญ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สามารถโทรศัพท์ทางไกล บอกตู้ไปรษณีย์ก็มีเงินใช้จ่ายอยู่ในประเทศไทย หากอยู่ประเทศลาวแทบไม่มีโอกาสรับเงิน จากญาติๆ สำหรับตนนั้นมาอยู่ที่บ้านห้วยน้ำขาวได้ 1 เดือนเศษแล้ว

นายซ่งกู แซ่ช่ง ชาวม้งที่ปักหลักกางผ้าใบอยู่ริมถนน ยื่นหนังสือรับรองจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ ( UNSCR) ว่าเป็นผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติประจำประเทศไทยพร้อมกับลูกและภรรยาที่บัตรระบุวันถูกสัมภาษณ์ เมื่อเดือนสิงหาคม 47 สัญชาติลาว เกิดเมื่อ 18-5-1974 หมู่บ้านน้ำคำมะ อ.มงซ่ง เขต 6 ไม่มีงานทำ พ่อแม่เป็นทหารซีไอเอ ขอลี้ภัยไปยังประเทศที่สาม เพราะถูกบีบจากทางการลาว อาศัยอยู่ประเทศไทยประมาณ 6 เดือนแล้วกับเพื่อนชาวลาวที่ขอลี้ภัยด้วยกันแต่พูดภาษาไทยไม่ได้ แต่เขียนภาษาอังกฤษได้ คาดหวังว่า น่าจะได้ไปสหรัฐฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น