"โสภณ"แจงไม่ได้งุบงิบเลือกที่ดินก่อสร้างสภาใหม่ เตรียมนัดผู้เกี่ยวข้องดูที่ดินที่กฤษฎานครจะมอบให้ 19 ก.ค.นี้ ก่อนนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณา หวั่นมีปัญหาเรื่องถมทราย กับระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน "ครูหยุย"ชี้สนามบินดอนเมืองเหมาะสมที่สุด และจะประหยัดงบได้มาก
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กทม.ระบุว่า กมธ.กิจการสภาฯเป็นผู้พิจารณาสถานที่ก่อสรางรัฐสภาแห่งใหม่เพียงฝ่ายเดียว โดยฝ่ายอื่นไม่ได้มีส่วนรับรู้ด้วยว่า ไม่เป็นความจริง กมธ.มีการหารือกันตลอดและยังไม่ได้ระบุว่าจะเลือกสถานที่ใด โดยขณะนี้มี 4 แห่งที่เสนอต่อกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายโภคิน พลกุล ประธานรัฐสภา เป็นประธาน คือ 1.ไทยเมล่อน 2.สรรพาวุธ เกียกกาย 3.คลังแสง นนทบุรี 4.อ.สามโคก ปทุมธานี และ ล่าสุดกฤษดานครเสนอที่ฟรี บริเวณกม.32.5 ถนนบางนา-ตราด 400 ไร่ ซึ่ง กมธ.ลงไปดูพื้นที่แล้ว ก็ยังไม่สรุปว่าจะเสนอเข้ากรรมการชุดใหญ่หรือไม่ เพราะต้องพิจารณาเรื่องระบบสาธารณูปโภคที่รัฐต้องลงทุนเอง และพื้นที่ที่ต้องอัดทรายเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และลักษณะกายภาพเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งวันที่ 19 ก.ค.จะเชิญที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ กรมผังเมือง และกระทรวงอุตสาหกรรม มาดูว่าบริเวณดังกล่าวจะมีปัญหาหรือไม่ ก่อนพิจารณาเสนอทางเลือกอีกทางให้กรรมการชุดใหญ่
"ที่นายเสรีพูดทำนองว่า ผมคิดคนเดียวว่าจะเอาตรงไหน มีการเล็งที่ไทยเมล่อน เรื่องนี้กมธ.มีหน้าที่ศึกษาสถานที่ที่มีผู้เสนอมาก่อนส่งเข้ากรรมการชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสินเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งกรรมการชุดใหญ่ก็มี ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา รวมทั้งนายเสรี ซึ่งเป็นประธานกมธ.กิจการวุฒิสภา อยู่ด้วย นายเสรี เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่ามองคนในแง่ร้าย ไม่ใช่คนอื่นชั่วหมด"นายโสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยเมล่อน มีการอภิปรายในสภาฯว่า ด้านตะวันตกของสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของผู้ช่วยรัฐมนตรี ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน นายโสภณ กล่าวว่าหากจะมองอย่างนั้น ทุกที่คงทับซ้อนไปหมด กมธ.ศึกษาบริเวณไทยเมล่อน ก็พบว่าสถานที่สวย คมนาคมสะดวก ทั้งโทลเวย์ รถไฟฟ้า และรถไฟ แต่ย้ำว่าจะเอาหรือไม่เอา ต้องเป็นมติของกรรมการชุดใหญ่
ส่วนจะมีการสรุปเรื่องดังกล่าวเมื่อใดนั้น นายโสภณกล่าวว่า นายโภคินให้นโยบายว่า ขอให้เป็นที่ฟรี หรือเป็นที่ระหว่างรัฐกับรัฐ กมธ.ก็ไปศึกษาตามแนวทางที่กำหนด จากนั้นหากได้สถานที่และกรรมการชุดใหญ่สรุป ปี 49 ก็น่าจะวางศิลาฤกษ์ เพื่อให้ทันวโรกาสเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้าน นายเสรี กล่าวว่า การหาสถานที่ ทุกฝ่ายควรมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นกรรมการชุดใหญ่ หรือการจัดเจ้าหน้าที่ไปลงพื้นที่ ปัญหาที่เกิดขึ้น คือในการเข้าไปศึกษาพื้นที่ วุฒิสภาไม่เคยทราบและไม่ได้รับการเชิญให้ลงพื้นที่ด้วย ตนจึงทักท้วงเพราะอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาร่วมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองที่ต้องรอบคอบ เพราะรัฐสภาเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานที่จึงต้องเหมาะสมจริงๆและทุกฝ่ายเห็นพ้อง
ส่วนที่ดินที่เอกชนเสนอให้ฟรี ต้องพิจารณาด้วยว่า ต้องใช้เงินลงทุนในเรื่องอื่นอีกหรือไม่ เช่น การสร้างถนนและระบบการจราจร จะมองแค่ได้พื้นที่ฟรีอย่างเดียวไม่ได้ และสำหรับที่ดินบริเวณไทยเมล่อน เท่าที่ฟังก็เหมือนว่ามีการตัดสินใจไปแล้วแต่คงไม่ใช่ 100 % ถ้ามีที่อื่นดีกว่าคงมีการตัดสินใจที่เหมาะสม
"ปัญหาการหาสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ใช้เวลายาวนาน ผมมองว่าเกิดจากการไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งตามมาด้วยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จริงๆก็มีหลายที่ที่เหมาะสม แต่หาที่ลงตัวไม่ได้สักที เท่าที่ดูตัวเลือกที่มีอยู่ขณะนี้ ก็เหมาะสมหลายที่ หากมีการเสนอเพิ่มอีกก็ไม่น่าเป็นไร อย่างพุทธมณฑล ก็ดูดี มีความกว้างขวาง ถนนผ่านหลายสาย และเป็นที่ราชพัสดุหลายแห่ง แต่ก็ไม่เห็นมีใครไปศึกษาดู" นายเสรี กล่าว
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวถึงสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด ที่คณะกรรมาธิการควรพิจารณา คือ สนามบินดอนเมือง เพราะมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม อีกทั้งประชาชนก็รู้จักดี รวมถึงลานจอดเครื่องบินก็ใช้สร้างอาคารใหม่ได้ หรือใช้เป็นที่จอดเครื่องบินเล็ก หรือเฮลิคอปเตอร์ในกรณีฉุกเฉินได้ ส่วนอาคารที่พักผู้โดยสาร อาคารสินค้าก็ใช้เป็นสถานที่ทำงานได้ทันที ประหยัดงบฯในการก่อสร้างได้มหาศาล ที่สำคัญไม่ต้องเกรงว่าจะเกิดปัญหาคอร์รัปชั่น หรือการฉวยโอกาสกว้านซื้อที่ดินรอบๆ เพราะที่ดินรอบข้างเป็นที่ของทหารอากาศ หากมีการคอร์รัปชั่น คงทำได้เพียงในส่วนการก่อสร้างเพิ่มเติม ซึ่งคงไม่มากนัก
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กทม.ระบุว่า กมธ.กิจการสภาฯเป็นผู้พิจารณาสถานที่ก่อสรางรัฐสภาแห่งใหม่เพียงฝ่ายเดียว โดยฝ่ายอื่นไม่ได้มีส่วนรับรู้ด้วยว่า ไม่เป็นความจริง กมธ.มีการหารือกันตลอดและยังไม่ได้ระบุว่าจะเลือกสถานที่ใด โดยขณะนี้มี 4 แห่งที่เสนอต่อกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายโภคิน พลกุล ประธานรัฐสภา เป็นประธาน คือ 1.ไทยเมล่อน 2.สรรพาวุธ เกียกกาย 3.คลังแสง นนทบุรี 4.อ.สามโคก ปทุมธานี และ ล่าสุดกฤษดานครเสนอที่ฟรี บริเวณกม.32.5 ถนนบางนา-ตราด 400 ไร่ ซึ่ง กมธ.ลงไปดูพื้นที่แล้ว ก็ยังไม่สรุปว่าจะเสนอเข้ากรรมการชุดใหญ่หรือไม่ เพราะต้องพิจารณาเรื่องระบบสาธารณูปโภคที่รัฐต้องลงทุนเอง และพื้นที่ที่ต้องอัดทรายเพิ่มหรือไม่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และลักษณะกายภาพเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งวันที่ 19 ก.ค.จะเชิญที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ กรมผังเมือง และกระทรวงอุตสาหกรรม มาดูว่าบริเวณดังกล่าวจะมีปัญหาหรือไม่ ก่อนพิจารณาเสนอทางเลือกอีกทางให้กรรมการชุดใหญ่
"ที่นายเสรีพูดทำนองว่า ผมคิดคนเดียวว่าจะเอาตรงไหน มีการเล็งที่ไทยเมล่อน เรื่องนี้กมธ.มีหน้าที่ศึกษาสถานที่ที่มีผู้เสนอมาก่อนส่งเข้ากรรมการชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสินเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งกรรมการชุดใหญ่ก็มี ประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา รวมทั้งนายเสรี ซึ่งเป็นประธานกมธ.กิจการวุฒิสภา อยู่ด้วย นายเสรี เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่ามองคนในแง่ร้าย ไม่ใช่คนอื่นชั่วหมด"นายโสภณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยเมล่อน มีการอภิปรายในสภาฯว่า ด้านตะวันตกของสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของผู้ช่วยรัฐมนตรี ทำให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน นายโสภณ กล่าวว่าหากจะมองอย่างนั้น ทุกที่คงทับซ้อนไปหมด กมธ.ศึกษาบริเวณไทยเมล่อน ก็พบว่าสถานที่สวย คมนาคมสะดวก ทั้งโทลเวย์ รถไฟฟ้า และรถไฟ แต่ย้ำว่าจะเอาหรือไม่เอา ต้องเป็นมติของกรรมการชุดใหญ่
ส่วนจะมีการสรุปเรื่องดังกล่าวเมื่อใดนั้น นายโสภณกล่าวว่า นายโภคินให้นโยบายว่า ขอให้เป็นที่ฟรี หรือเป็นที่ระหว่างรัฐกับรัฐ กมธ.ก็ไปศึกษาตามแนวทางที่กำหนด จากนั้นหากได้สถานที่และกรรมการชุดใหญ่สรุป ปี 49 ก็น่าจะวางศิลาฤกษ์ เพื่อให้ทันวโรกาสเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ด้าน นายเสรี กล่าวว่า การหาสถานที่ ทุกฝ่ายควรมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเป็นกรรมการชุดใหญ่ หรือการจัดเจ้าหน้าที่ไปลงพื้นที่ ปัญหาที่เกิดขึ้น คือในการเข้าไปศึกษาพื้นที่ วุฒิสภาไม่เคยทราบและไม่ได้รับการเชิญให้ลงพื้นที่ด้วย ตนจึงทักท้วงเพราะอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาร่วมกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องของบ้านเมืองที่ต้องรอบคอบ เพราะรัฐสภาเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สถานที่จึงต้องเหมาะสมจริงๆและทุกฝ่ายเห็นพ้อง
ส่วนที่ดินที่เอกชนเสนอให้ฟรี ต้องพิจารณาด้วยว่า ต้องใช้เงินลงทุนในเรื่องอื่นอีกหรือไม่ เช่น การสร้างถนนและระบบการจราจร จะมองแค่ได้พื้นที่ฟรีอย่างเดียวไม่ได้ และสำหรับที่ดินบริเวณไทยเมล่อน เท่าที่ฟังก็เหมือนว่ามีการตัดสินใจไปแล้วแต่คงไม่ใช่ 100 % ถ้ามีที่อื่นดีกว่าคงมีการตัดสินใจที่เหมาะสม
"ปัญหาการหาสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ใช้เวลายาวนาน ผมมองว่าเกิดจากการไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งตามมาด้วยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จริงๆก็มีหลายที่ที่เหมาะสม แต่หาที่ลงตัวไม่ได้สักที เท่าที่ดูตัวเลือกที่มีอยู่ขณะนี้ ก็เหมาะสมหลายที่ หากมีการเสนอเพิ่มอีกก็ไม่น่าเป็นไร อย่างพุทธมณฑล ก็ดูดี มีความกว้างขวาง ถนนผ่านหลายสาย และเป็นที่ราชพัสดุหลายแห่ง แต่ก็ไม่เห็นมีใครไปศึกษาดู" นายเสรี กล่าว
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวถึงสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด ที่คณะกรรมาธิการควรพิจารณา คือ สนามบินดอนเมือง เพราะมีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม อีกทั้งประชาชนก็รู้จักดี รวมถึงลานจอดเครื่องบินก็ใช้สร้างอาคารใหม่ได้ หรือใช้เป็นที่จอดเครื่องบินเล็ก หรือเฮลิคอปเตอร์ในกรณีฉุกเฉินได้ ส่วนอาคารที่พักผู้โดยสาร อาคารสินค้าก็ใช้เป็นสถานที่ทำงานได้ทันที ประหยัดงบฯในการก่อสร้างได้มหาศาล ที่สำคัญไม่ต้องเกรงว่าจะเกิดปัญหาคอร์รัปชั่น หรือการฉวยโอกาสกว้านซื้อที่ดินรอบๆ เพราะที่ดินรอบข้างเป็นที่ของทหารอากาศ หากมีการคอร์รัปชั่น คงทำได้เพียงในส่วนการก่อสร้างเพิ่มเติม ซึ่งคงไม่มากนัก