ตำรวจส่งอดีตเณรแอฝากขังครั้งแรก ค้านประกัน ส่งนอนห้องขังกองปราบต่อ พบบัญชีหญิงที่ตกเป็นเหยื่อนับพันราย ตำรวจมั่นใจเอาผิดได้แน่ พร้อมวอนผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ยันขอปิดเป็นความลับ ขณะที่ ปปง.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบยึดทรัพย์สินเณรแอ วันนี้
วานนี้(11 ก.ค.)ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามกระทำผิดต่อเด็กเยาวชน และสตรี (ปดส.)ได้ควบคุมตัว นายหาญ รักษาจิตร์ หรือ อดีตเณรแอ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ไปทำการฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 ก.ค.นี้
ในคำร้องระบุว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.42–ก.พ.45 ผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงผู้อื่น โดยการโฆษณาตามสื่อต่างๆว่ามีเวทมนต์คาถา สามารถทำให้คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกลับมาคืนดีกันได้ ทำให้มีประชาชนโดยเฉพาะสตรีเป็นจำนวนมากหลงเชื่อไปทำพิธี และเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท แต่หลังจากทำพิธีเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้ผลตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งเป็นลักษณะการหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน พร้อมกับได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีประชาชนให้ความสนใจ และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปก่ออันตรายหรือไปยุ่งเกี่ยว หรือข่มขู่พยานหลักฐาน ซึ่งผู้ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นสตรี สร้างความอับอายและเป็นปัญหาในการสอบสวนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนำตัวนายหาญ ไปฝากขังปรากฏว่า ไม่มีญาติหรือบุคคลใดๆ เดินทางไปติดต่อขอประกันตัว ซึ่งหลังจากศาลอนุญาตให้ฝากขังแล้ว นายหาญ ถูกควบคุมตัวกลับไปคุมขังต่อที่กองปราบปรามในทันที
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.เปิดเผยว่าผู้หญิงที่ถูกนายหาญ หลอกและละเมิดทางเพศ ส่วนใหญ่รู้ตัวดีว่าถูกหลอก แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะถูกนายหาญถ่ายภาพเก็บไว้โดยเฉพาะในตอนที่ร่วมเพศ ส่วนนายหาญ เองก็ต้องการทำให้เหยื่อเกิดความอับอาย เพราะคาถาอาคมที่นายหาญใช้นั้นไม่เป็นผล และกลัวว่าเหยื่อจะกลับมาทวงเงินคืนหรือฟ้องร้องดำเนินคดี จึงต้องถ่ายภาพเหล่านี้เก็บไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อลูกค้าของนายหาญ ระบุว่ามีผู้หญิงเข้ามาเป็นลูกค้าจำนวนกว่า 1,000 คน ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่นายหาญ ได้ทำพิธีให้และเท่าที่ตรวจเอกสารอย่างละเอียดพบว่าบัญชีรายชื่อ มีที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และลายมือในบัญชีนั้นไม่เหมือนกันหมึกที่ใช้ก็ไม่เหมือนกันลักษณะผู้หญิงน่าจะเต็มใจจดไว้ให้เอง
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่าทางด้านการดำเนินคดีได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนไว้ก่อน เพราะว่ามีเจ้าทุกข์หลายคนด้วยกัน และอยากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกนายหาญ ล่วงละเมิดทางเพศหรือถูกทำอนาจาร มาให้ปากคำ โดยตนขอยืนยันว่าจะปิดเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.แจ้งว่าวันนี้(12 ก.ค.)เจ้าหน้าที่ ปปง.จะเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของ นายหาญ ที่ จ.สระบุรี ตามที่เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ โดยเบื้องต้นเป็นสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่มยอดเงินกว่า 10 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่น จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบ
วานนี้(11 ก.ค.)ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวนกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามกระทำผิดต่อเด็กเยาวชน และสตรี (ปดส.)ได้ควบคุมตัว นายหาญ รักษาจิตร์ หรือ อดีตเณรแอ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน ไปทำการฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 ก.ค.นี้
ในคำร้องระบุว่า ตั้งแต่เดือน เม.ย.42–ก.พ.45 ผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลอกลวงผู้อื่น โดยการโฆษณาตามสื่อต่างๆว่ามีเวทมนต์คาถา สามารถทำให้คู่สามีภรรยาที่แตกแยกกลับมาคืนดีกันได้ ทำให้มีประชาชนโดยเฉพาะสตรีเป็นจำนวนมากหลงเชื่อไปทำพิธี และเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท แต่หลังจากทำพิธีเสร็จแล้ว ก็ไม่ได้ผลตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ซึ่งเป็นลักษณะการหลอกลวงให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน พร้อมกับได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีประชาชนให้ความสนใจ และเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปก่ออันตรายหรือไปยุ่งเกี่ยว หรือข่มขู่พยานหลักฐาน ซึ่งผู้ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นสตรี สร้างความอับอายและเป็นปัญหาในการสอบสวนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการนำตัวนายหาญ ไปฝากขังปรากฏว่า ไม่มีญาติหรือบุคคลใดๆ เดินทางไปติดต่อขอประกันตัว ซึ่งหลังจากศาลอนุญาตให้ฝากขังแล้ว นายหาญ ถูกควบคุมตัวกลับไปคุมขังต่อที่กองปราบปรามในทันที
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบก.ปดส.เปิดเผยว่าผู้หญิงที่ถูกนายหาญ หลอกและละเมิดทางเพศ ส่วนใหญ่รู้ตัวดีว่าถูกหลอก แต่ไม่สามารถจะทำอะไรได้ เพราะถูกนายหาญถ่ายภาพเก็บไว้โดยเฉพาะในตอนที่ร่วมเพศ ส่วนนายหาญ เองก็ต้องการทำให้เหยื่อเกิดความอับอาย เพราะคาถาอาคมที่นายหาญใช้นั้นไม่เป็นผล และกลัวว่าเหยื่อจะกลับมาทวงเงินคืนหรือฟ้องร้องดำเนินคดี จึงต้องถ่ายภาพเหล่านี้เก็บไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อลูกค้าของนายหาญ ระบุว่ามีผู้หญิงเข้ามาเป็นลูกค้าจำนวนกว่า 1,000 คน ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่นายหาญ ได้ทำพิธีให้และเท่าที่ตรวจเอกสารอย่างละเอียดพบว่าบัญชีรายชื่อ มีที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และลายมือในบัญชีนั้นไม่เหมือนกันหมึกที่ใช้ก็ไม่เหมือนกันลักษณะผู้หญิงน่าจะเต็มใจจดไว้ให้เอง
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวต่อว่าทางด้านการดำเนินคดีได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงประชาชนไว้ก่อน เพราะว่ามีเจ้าทุกข์หลายคนด้วยกัน และอยากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกนายหาญ ล่วงละเมิดทางเพศหรือถูกทำอนาจาร มาให้ปากคำ โดยตนขอยืนยันว่าจะปิดเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.แจ้งว่าวันนี้(12 ก.ค.)เจ้าหน้าที่ ปปง.จะเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของ นายหาญ ที่ จ.สระบุรี ตามที่เจ้าหน้าที่ได้อายัดไว้ โดยเบื้องต้นเป็นสมุดบัญชีเงินฝากหลายเล่มยอดเงินกว่า 10 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่น จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้ยังไม่พบ