ลูกจ้างชั่วคราวบุกสธ.เผยสมาชิก 6 หมื่นคนกำลังเดือดร้อนหนัก ร้องขอเงินเดือนเพิ่มและให้แต่งตั้งเป็นพนักงานราชการ ระบุค่าครองชีพสูงขึ้นแต่รายได้ยังเท่าเดิม บางคนรับเงินเดือนสี่พันกว่าบาทมาเป็นเวลาหลายปี ผู้ชุมนุม มีมติขอนอนหน้ากระทรวงฟังผลว่า “หมอสุชัย” จะเอาเรื่องนี้หารือในครม.หรือไม่
วานนี้(11 ก.ค.)กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้เดินทางมาชุมนุมกันบริเวณหน้าสำนักงานปลัดสธ. ประมาณ 500 คน เพื่อเรียกร้องให้ สธ.เพิ่มเงินค่าจ้างและสวัสดิการให้ลูกจ้างเพิ่มเติม รวมทั้งแต่งตั้งเป็นพนักงานราชการเนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ของลูกจ้างยังคงเดิม โดยบางรายได้รับเงินค่าจ้างเท่าเดิมมากว่า 10 ปี ซึ่งทางผู้ชุมนุมต้องการเจรจากับ ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เท่านั้น แต่เนื่องจาก ศ.นพ.สุชัย ติดภารกิจจึงให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เลขานุการฯ มาเจรจาแทน
นายประสินธุ์ นาคกราย ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มาเรียกร้องในครั้งนี้ เนื่องจากลูกจ้างชั่วคราวของสธ. ซึ่งมีประมาณ 60,000 คน ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติเมื่อวันที่ 5 ต.ค.47 เรื่องการช่วยเหลือลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณแล้ว แต่ก็ยังไม่มีลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว
“ทางลูกจ้างชั่วคราวต้องการให้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาหาทางช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานราชการที่ได้รับสิทธิเหมือนกับลูกจ้างชั่วคราวที่ว่าจ้างด้วยเงินงบประมาณหมวดค่าตอบแทนบุคคลากร จะได้เป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกจ้างต่อไป ทุกวันนี้อยู่อย่างไร้อนาคต บางคนได้เงินเดือน 4,060 บาท มาหลายปี ขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน แล้วจะอยู่อย่างไร” นายประสินธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย นพ.ชลน่านเปิดเผยว่า ได้ข้อสรุปซึ่งเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเป็นพนักงานราชการ สธ.จะเสนอ ครม. อนุมัติให้ลูกจ้างชั่วคราวที่มีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 26,000 คน ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการทุกคน สำหรับเรื่องเงินค่าจ้าง ที่ขณะนี้บางสถานบริการยังมีการจ้างไม่ถึงขั้นต่ำ คือ 4,640 บาท นั้น ได้สั่งการด่วนให้ทุกหน่วยบริการปรับเพิ่มค่าจ้างรายเดือนให้ได้ตามกำหนด ภายในวันที่ 1 ต.ค.48 นี้
ส่วนเรื่องค่าตอบแทนนอกเวลา ค่าครองชีพพิเศษ และการปรับเพิ่มค่าจ้างในแต่ละปี ระเบียบการจ่ายเงินบำรุงได้เปิดกว้างให้สถานบริการทุกแห่งสามารถทำได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะเงินบำรุงของแต่ละสถานบริการ ว่าจะปรับเพิ่มให้ได้มากน้อยเพียงใด
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าตอบแทนการอยู่เวรบ่าย-ดึก มติครม. เมื่อวันที่ 25 มี.ค.40 อนุมัติให้จ่ายให้กับผู้ดำรงตำแหน่งพยาบาลเท่านั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความขาดแคลนพยาบาลของสธ. จึงไม่สามารถเบิกจ่ายให้กับบุคลากรตำแหน่งอื่นได อย่างไรก็ตาม สธ.จะได้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมีผู้แทนของกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ และตัวแทนผู้บริหารส่วนกลาง ร่วมกันพิจารณาจัดสวัสดิการประเภทอื่นทดแทน อาทิ จัดสวัสดิการด้านอาหาร การเข้าพักรักษาตัวในห้องพิเศษของโรงพยาบาล เป็นต้น รวมทั้งจะได้ร่วมกันติดตามความก้าวหน้าในเรื่องต่างๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย
ด้านนายฐิติกร กาละดี ประธานสมาคมลูกจ้างของรัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า การมาชุมนุมในวันนี้ถือว่ายังไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจน แม้ผลการประชุมจะเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องรอเอกสารสรุปการประชุมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน ที่สำคัญต้องรอดูว่า วันนี้ (12 ก.ค.)ที่จะมีการประชุมครม.รมว.สธ.จะนำหัวข้อนี้เข้าหารือในที่ประชุมหรือไม่
ทั้งนี้ ที่ชุมนุมเห็นพ้องต้องกันว่าจะอยู่ชุมนุมต่อที่สธ.ต่อไป จนกว่าทราบแน่ชัดว่า รมว.สธ.นำเรื่องนี้เข้าหารือในครม. กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะเดินทางกลับ และจะมีตัวแทนของสมาพันธ์ 16 คน เข้าร่วมประชุมหารือต่อไปคาดว่าน่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้
นายฐิติกรกล่าวว่า การมาชุมนุมยื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้มาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยเคยไปเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล 2 ครั้ง และที่สธ. 2 ครั้ง แต่ไม่เคยมีความคืบหน้าใดๆ
วานนี้(11 ก.ค.)กลุ่มลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้เดินทางมาชุมนุมกันบริเวณหน้าสำนักงานปลัดสธ. ประมาณ 500 คน เพื่อเรียกร้องให้ สธ.เพิ่มเงินค่าจ้างและสวัสดิการให้ลูกจ้างเพิ่มเติม รวมทั้งแต่งตั้งเป็นพนักงานราชการเนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ของลูกจ้างยังคงเดิม โดยบางรายได้รับเงินค่าจ้างเท่าเดิมมากว่า 10 ปี ซึ่งทางผู้ชุมนุมต้องการเจรจากับ ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เท่านั้น แต่เนื่องจาก ศ.นพ.สุชัย ติดภารกิจจึงให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เลขานุการฯ มาเจรจาแทน
นายประสินธุ์ นาคกราย ประธานสมาพันธ์สมาคมลูกจ้างของรัฐแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มาเรียกร้องในครั้งนี้ เนื่องจากลูกจ้างชั่วคราวของสธ. ซึ่งมีประมาณ 60,000 คน ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล แม้ว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติเมื่อวันที่ 5 ต.ค.47 เรื่องการช่วยเหลือลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณแล้ว แต่ก็ยังไม่มีลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการช่วยเหลือแม้แต่คนเดียว
“ทางลูกจ้างชั่วคราวต้องการให้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาหาทางช่วยเหลือลูกจ้างให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานราชการที่ได้รับสิทธิเหมือนกับลูกจ้างชั่วคราวที่ว่าจ้างด้วยเงินงบประมาณหมวดค่าตอบแทนบุคคลากร จะได้เป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกจ้างต่อไป ทุกวันนี้อยู่อย่างไร้อนาคต บางคนได้เงินเดือน 4,060 บาท มาหลายปี ขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน แล้วจะอยู่อย่างไร” นายประสินธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย นพ.ชลน่านเปิดเผยว่า ได้ข้อสรุปซึ่งเป็นที่พอใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเป็นพนักงานราชการ สธ.จะเสนอ ครม. อนุมัติให้ลูกจ้างชั่วคราวที่มีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 26,000 คน ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการทุกคน สำหรับเรื่องเงินค่าจ้าง ที่ขณะนี้บางสถานบริการยังมีการจ้างไม่ถึงขั้นต่ำ คือ 4,640 บาท นั้น ได้สั่งการด่วนให้ทุกหน่วยบริการปรับเพิ่มค่าจ้างรายเดือนให้ได้ตามกำหนด ภายในวันที่ 1 ต.ค.48 นี้
ส่วนเรื่องค่าตอบแทนนอกเวลา ค่าครองชีพพิเศษ และการปรับเพิ่มค่าจ้างในแต่ละปี ระเบียบการจ่ายเงินบำรุงได้เปิดกว้างให้สถานบริการทุกแห่งสามารถทำได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะเงินบำรุงของแต่ละสถานบริการ ว่าจะปรับเพิ่มให้ได้มากน้อยเพียงใด
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ในส่วนของค่าตอบแทนการอยู่เวรบ่าย-ดึก มติครม. เมื่อวันที่ 25 มี.ค.40 อนุมัติให้จ่ายให้กับผู้ดำรงตำแหน่งพยาบาลเท่านั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความขาดแคลนพยาบาลของสธ. จึงไม่สามารถเบิกจ่ายให้กับบุคลากรตำแหน่งอื่นได อย่างไรก็ตาม สธ.จะได้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมีผู้แทนของกลุ่มลูกจ้างชั่วคราวเงินนอกงบประมาณ และตัวแทนผู้บริหารส่วนกลาง ร่วมกันพิจารณาจัดสวัสดิการประเภทอื่นทดแทน อาทิ จัดสวัสดิการด้านอาหาร การเข้าพักรักษาตัวในห้องพิเศษของโรงพยาบาล เป็นต้น รวมทั้งจะได้ร่วมกันติดตามความก้าวหน้าในเรื่องต่างๆ ที่ขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย
ด้านนายฐิติกร กาละดี ประธานสมาคมลูกจ้างของรัฐภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า การมาชุมนุมในวันนี้ถือว่ายังไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจน แม้ผลการประชุมจะเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องรอเอกสารสรุปการประชุมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน ที่สำคัญต้องรอดูว่า วันนี้ (12 ก.ค.)ที่จะมีการประชุมครม.รมว.สธ.จะนำหัวข้อนี้เข้าหารือในที่ประชุมหรือไม่
ทั้งนี้ ที่ชุมนุมเห็นพ้องต้องกันว่าจะอยู่ชุมนุมต่อที่สธ.ต่อไป จนกว่าทราบแน่ชัดว่า รมว.สธ.นำเรื่องนี้เข้าหารือในครม. กลุ่มผู้ชุมนุมก็จะเดินทางกลับ และจะมีตัวแทนของสมาพันธ์ 16 คน เข้าร่วมประชุมหารือต่อไปคาดว่าน่าจะเป็นภายในสัปดาห์นี้
นายฐิติกรกล่าวว่า การมาชุมนุมยื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้มาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยเคยไปเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล 2 ครั้ง และที่สธ. 2 ครั้ง แต่ไม่เคยมีความคืบหน้าใดๆ