ผู้จัดการรายวัน – แฟนพันธุ์แท้ หนังสือ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ใจจดใจจ่อรอวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ดีเดย์เปิดตัวขายหนังสือพร้อมกันทั่วโลก ด้านร้านหนังสือ สำนักพิมพ์ในไทย ไม่หลุดกระแสแย่งกันนำเข้าฉบับภาษาอังกฤษหลายราย แข่งขันจัดกิจกรรมดึงคน พร้อมเปิดเกมราคาที่หลากหลาย
แม้ว่าจะต้องรอคอยกันมานานกว่า 2 ปี แต่ หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) เล่มที่ 6 ซึ่งเขียนโดย เจ.เค.โรลลิ่ง (J.K.Rowling) ก็ยังมีกระแสความต้องการอยู่ไม่สร่างซา ในไทยเองนั้นก็มีกระแสที่แรงไม่แพ้ในต่างประเทศก็ว่าได้ ทั้งนี้การเปิดตัวขายหนังสือเล่มที่ 6 นี้จะเปิดขายพร้อมกันทั่วโลกตรงกับเมืองไทยวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม เวลา 06.00 น.
ปีนี้มีความคึกคักไม่น้อย เพราะจะมีบรรดาผู้นำเข้าหนังสือภาคภาษาอังกฤษเล่มที่ 6 นี้เข้ามาจำหน่ายโดยตรงหลายรายจากผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์ 2 รายคือ สำนักพิมพ์ Scholastic ของอเมริกา และสำนักพิมพ์ Bloomsburry ของอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์และบรรดาเชนร้านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น นานมีบุ๊คส์ เจ้าเก่าที่ทำมาตลอดโดยสั่งจากอังกฤษและยังทำในส่วนของการขายส่งด้วยโดยส่งให้กับร้านหนังสือที่สนใจสั่งเข้ามาจำนวนมาก นอกนั้นก็มี บีทูเอส คิโนคุนิยา นายอินทร์ ศูนย์หนังสือจุฬา ซีเอ็ดบุ๊คส์ เอเชียบุ๊คส์ เป็นต้น
แน่นอนว่า ย่อมทำให้การแข่งขันเพิ่มดีกรีความสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในเรื่องของราคาจำหน่าย กิจกรรม และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า เพื่อแย่งชิงยอดขาย
“ตอนนี้หนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ขายในไทยมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง บางรายก็ขายราคาต่ำกว่ารายอื่น บางรายก็สูงกว่า และยังมีการสอดแทรกลูกเล่นต่างๆเช่น กิจกรรมลดแลกแจกแถม ซึ่งต้นทุนที่ซื้อมาเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะสร้างมูลค่าของเงินให้กับลูกค้ามากกว่ากัน เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องนี้ยังมีกระแสความต้องการที่ไม่ตกลง ทุกเรื่องที่ตีพิมพ์ออกมาจะได้รับความสนใจทั้งหมด” แหล่งข่าวจากเชนร้านหนังสือรายหนึ่งกล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน”
นานมีบุ๊คส์จัดกิจกรรม ปาร์ตี้ ปาท่องโก๋
นางสุวดี จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า นานมีบุ๊คส์เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อฉลองการขายหนังสือ แฮร์รี่พอตเตอร์ ภาษาอังกฤษ เล่มที่ 6 (Harry Potter – The Half Blood Prince) วันแรกวันที่ 16 กรกฎาคมศกนี้ที่ร้านนานมีบุ๊คส์ไลบรารี่ สุขุมวิทซอย 24 ด้วยแคมเปญ “ปาร์ตี้ ปาท่องโก๋” มีปาท่องโก๋ 1,000 ตัว และน้ำเต้าหู้ รองรับผู้มาร่วมงานเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศตอนเช้า โดยใครที่สั่งจองหนังสือให้มารับในวันนั้น
โดยนานมีบุ๊คส์ตั้งราคาขาย 595 บาทสำหรับผู้ที่จองและซื้อในช่วงแรกนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมศกนี้ และจะปรับราคาเพิ่มเป็น 680 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมศกนี้ ซึ่งล็อตแรกนี้นานมีบุ๊คส์สั่งเข้ามาประมาณ 20,000 เล่ม แต่โดยรวมแล้วในท้องตลาดคาดว่าจะมีผู้นำเข้ามารวมแล้วเกือบแสนเล่ม ซึ่งนานมีบุ๊คส์เองก็จำหน่ายแบบขายส่งด้วยเช่น ลูกค้าที่สั่งซื้อเช่น แพร่พิทยา บีทูเอสซื้อบางส่วน ร้านบานาน่า เดอะบุ๊คส์คลับ เป็นต้น
ส่วนฉบับแปลภาษาไทยนั้นทางนานมีบุ๊คส์ได้รับลิขสิทธิ์รายเดียวมาทุกภาค ซึ่งนางสุวดี กล่าวว่า เป็นการซื้อลิขสิทธิ์ที่แพงที่สุดเท่าที่นานมีบุ๊คส์เคยซื้อมาก็ว่าได้ ซึ่งถึงปัจจุบันนี้รวมทุกภาคแล้วจ่ายไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาขายและยังไม่ตั้งชื่อภาคภาษาไทยของเล่มที่ 6 โดยได้ร่วมกับรายการ โลกยามเช้า ของดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ให้ผู้สนใจส่งชื่อเข้ามาร่วมสนุก ซึ่งจะคัดเลือกชื่ออีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถวางตลาดภาคภาษาไทยปลายเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้เล่มที่ 5 ภาษาไทย เมื่อ 2 ปีที่แล้วขาย 595 บาท ความหนา 800 กว่าหน้า และจำหน่ายได้แล้วมากกว่า 2 แสนเล่ม
บีทูเอสขายพ่วงพรีเมี่ยม
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทูเอส จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน”
ว่า บีทูเอสจะจัดกิจกรรมเปิดตัวหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ภาษาอังกฤษที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลชิดลม เวลา 06.00 น.โดยใครที่มาร่วมงาน 100 คนแรกจะได้รับกาแฟสตาร์บัคส์ 1 แก้วพร้องรับของที่ระลึกที่เกี่ยวกับแฮร์รี่พอตเตอร์ จากร้านบีทูเอส ส่วน 1,000 คนแรกจะได้รับเฉพาะของที่ระลึกเท่านั้น และเมื่อห้างเซ็นทรัลชิดลมเปิดบริการก็จะย้ายขึ้นไปจัดกิจกรรมที่ร้านบีทูเอสชั้น 7 โดยจะจัดในสาขาที่ต่างจังหวัดด้วยเช่น โคราช เชียงใหม่ หาดใหญ่ ศรีราชา ภูเก็ต
ทั้งนี้บีทูเอสจะมีความแตกต่างจากร้านอื่นอย่างเห็นได้ชัดคือ จะเป็นร้านที่จำหน่ายสื่อบันเทิงครบวงจร และในเรื่องของแฮร์รี่พอตเตอร์นี้เราก็มีหลากหลายทั้ง หนังสือ ดีวีดี วีซีดี จำหน่ายด้วย ทั้งหนังสือที่แปลเล่ม 1-5 ก็ยังมีขาย
สำหรับราคาจำหน่ายนั้นกำหนดไว้ที่ 715 บาท โดยมีกีฟท์โวเชอร์ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษในช่วงแรกสำหรับผู้ที่สั่งจอง ส่วนหลังจากนี้จะมีราคาพิเศษคือ หนังสือรวมกับของพรีเมี่ยมที่บีทูเอสจะทำขึ้นมา ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 715 บาท โดยครั้งนี้บีทูเอสนำเข้ามาเองประมาณ 10,000 กว่าเล่ม
ซีเอ็ดดึงแฟนพันธุ์แท้ร่วมเปิดตัว
แหล่งข่าวจากร้านซีเอ็ดกล่าวว่า ในวันที่ 16 เดือนนี้ ทางซีเอ็ดจะจัดกิจกรรมที่สาขาเอ็มบีเค เวลาบ่ายโมงเนื่องจากสาขาตั้งอยู่ในศูนย์การค้า โดยไฮไลท์ของกิจกรรมคือ เชิญหมอนิพนธ์ ประดับญาติ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้มาร่วมเสวนาเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ และมีกิจกรรมร่วมเล่นเกมต่างๆ ส่วนสาขาอื่นก็จะมีการตั้งกองสินค้าโปรโมทไม่มีกิจกรรมเท่าใด
แหล่งข่าวกล่าวกว่า ราคาจำหน่ายเวลานี้มี 2 แบบคือ ถ้าเป็นปกแข็งจากอังกฤษราคาเต็ม 890 บาท ส่วนที่มาจากอเมริการาคาแพงกว่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่สรุป แต่จะพยายามกำหนดราคาให้เท่ากับของอังกฤษให้ได้หรือแพงกว่าไม่มาก ทั้งนี้ ผู้ที่มาจองก่อนวันที่ 16 กรกฎาคมจะได้ราคาพิเศษ 695 บาท พร้อมได้รับบัตรสมาชิกฟรีจากเดิมที่ต้องซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท พร้อมกับได้รับของพรีเมี่ยมแฮร์รี่พอตเตอร์ด้วย โดยซีเอ็ดสั่งเข้ามาประมาณ 5,000 กว่าเล่ม
ด้านศูนย์หนังสือจุฬาที่นำเข้ามาจำหน่ายเอง เตรียมจัดงานวันที่ 16 เช่นกัน มีทั้งกิจกรรมและการร่วมสนุก โดยศูนย์หนังสือจุฬา ขายราคาพิเศษในช่วงวันงานและคนที่จองก่อนหน้านี้ 680 บาท ส่วนหลังจากนั้นจะขายราคา 800 กว่าบาท
ขณะที่ร้านคิโนคุนิยะที่มี 2 สาขา นั้นตั้งราคาขาย 595 บาทในช่วงวันที่ 16-17 กรกฎาคม หลังจากนั้นคาดว่าจะปรับขึ้นเป็นราคา 600 กว่าบาท
แม้ว่าจะต้องรอคอยกันมานานกว่า 2 ปี แต่ หนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ (Harry Potter) เล่มที่ 6 ซึ่งเขียนโดย เจ.เค.โรลลิ่ง (J.K.Rowling) ก็ยังมีกระแสความต้องการอยู่ไม่สร่างซา ในไทยเองนั้นก็มีกระแสที่แรงไม่แพ้ในต่างประเทศก็ว่าได้ ทั้งนี้การเปิดตัวขายหนังสือเล่มที่ 6 นี้จะเปิดขายพร้อมกันทั่วโลกตรงกับเมืองไทยวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม เวลา 06.00 น.
ปีนี้มีความคึกคักไม่น้อย เพราะจะมีบรรดาผู้นำเข้าหนังสือภาคภาษาอังกฤษเล่มที่ 6 นี้เข้ามาจำหน่ายโดยตรงหลายรายจากผู้ที่ได้รับลิขสิทธิ์ 2 รายคือ สำนักพิมพ์ Scholastic ของอเมริกา และสำนักพิมพ์ Bloomsburry ของอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสำนักพิมพ์และบรรดาเชนร้านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น นานมีบุ๊คส์ เจ้าเก่าที่ทำมาตลอดโดยสั่งจากอังกฤษและยังทำในส่วนของการขายส่งด้วยโดยส่งให้กับร้านหนังสือที่สนใจสั่งเข้ามาจำนวนมาก นอกนั้นก็มี บีทูเอส คิโนคุนิยา นายอินทร์ ศูนย์หนังสือจุฬา ซีเอ็ดบุ๊คส์ เอเชียบุ๊คส์ เป็นต้น
แน่นอนว่า ย่อมทำให้การแข่งขันเพิ่มดีกรีความสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในเรื่องของราคาจำหน่าย กิจกรรม และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า เพื่อแย่งชิงยอดขาย
“ตอนนี้หนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ที่ขายในไทยมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง บางรายก็ขายราคาต่ำกว่ารายอื่น บางรายก็สูงกว่า และยังมีการสอดแทรกลูกเล่นต่างๆเช่น กิจกรรมลดแลกแจกแถม ซึ่งต้นทุนที่ซื้อมาเท่ากัน อยู่ที่ว่าใครจะสร้างมูลค่าของเงินให้กับลูกค้ามากกว่ากัน เพราะต้องยอมรับว่า เรื่องนี้ยังมีกระแสความต้องการที่ไม่ตกลง ทุกเรื่องที่ตีพิมพ์ออกมาจะได้รับความสนใจทั้งหมด” แหล่งข่าวจากเชนร้านหนังสือรายหนึ่งกล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน”
นานมีบุ๊คส์จัดกิจกรรม ปาร์ตี้ ปาท่องโก๋
นางสุวดี จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า นานมีบุ๊คส์เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อฉลองการขายหนังสือ แฮร์รี่พอตเตอร์ ภาษาอังกฤษ เล่มที่ 6 (Harry Potter – The Half Blood Prince) วันแรกวันที่ 16 กรกฎาคมศกนี้ที่ร้านนานมีบุ๊คส์ไลบรารี่ สุขุมวิทซอย 24 ด้วยแคมเปญ “ปาร์ตี้ ปาท่องโก๋” มีปาท่องโก๋ 1,000 ตัว และน้ำเต้าหู้ รองรับผู้มาร่วมงานเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศตอนเช้า โดยใครที่สั่งจองหนังสือให้มารับในวันนั้น
โดยนานมีบุ๊คส์ตั้งราคาขาย 595 บาทสำหรับผู้ที่จองและซื้อในช่วงแรกนี้ ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมศกนี้ และจะปรับราคาเพิ่มเป็น 680 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมศกนี้ ซึ่งล็อตแรกนี้นานมีบุ๊คส์สั่งเข้ามาประมาณ 20,000 เล่ม แต่โดยรวมแล้วในท้องตลาดคาดว่าจะมีผู้นำเข้ามารวมแล้วเกือบแสนเล่ม ซึ่งนานมีบุ๊คส์เองก็จำหน่ายแบบขายส่งด้วยเช่น ลูกค้าที่สั่งซื้อเช่น แพร่พิทยา บีทูเอสซื้อบางส่วน ร้านบานาน่า เดอะบุ๊คส์คลับ เป็นต้น
ส่วนฉบับแปลภาษาไทยนั้นทางนานมีบุ๊คส์ได้รับลิขสิทธิ์รายเดียวมาทุกภาค ซึ่งนางสุวดี กล่าวว่า เป็นการซื้อลิขสิทธิ์ที่แพงที่สุดเท่าที่นานมีบุ๊คส์เคยซื้อมาก็ว่าได้ ซึ่งถึงปัจจุบันนี้รวมทุกภาคแล้วจ่ายไปไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดราคาขายและยังไม่ตั้งชื่อภาคภาษาไทยของเล่มที่ 6 โดยได้ร่วมกับรายการ โลกยามเช้า ของดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล ให้ผู้สนใจส่งชื่อเข้ามาร่วมสนุก ซึ่งจะคัดเลือกชื่ออีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถวางตลาดภาคภาษาไทยปลายเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้เล่มที่ 5 ภาษาไทย เมื่อ 2 ปีที่แล้วขาย 595 บาท ความหนา 800 กว่าหน้า และจำหน่ายได้แล้วมากกว่า 2 แสนเล่ม
บีทูเอสขายพ่วงพรีเมี่ยม
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทูเอส จำกัด กล่าวกับ “ผู้จัดการรายวัน”
ว่า บีทูเอสจะจัดกิจกรรมเปิดตัวหนังสือแฮร์รี่พอตเตอร์ภาษาอังกฤษที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลชิดลม เวลา 06.00 น.โดยใครที่มาร่วมงาน 100 คนแรกจะได้รับกาแฟสตาร์บัคส์ 1 แก้วพร้องรับของที่ระลึกที่เกี่ยวกับแฮร์รี่พอตเตอร์ จากร้านบีทูเอส ส่วน 1,000 คนแรกจะได้รับเฉพาะของที่ระลึกเท่านั้น และเมื่อห้างเซ็นทรัลชิดลมเปิดบริการก็จะย้ายขึ้นไปจัดกิจกรรมที่ร้านบีทูเอสชั้น 7 โดยจะจัดในสาขาที่ต่างจังหวัดด้วยเช่น โคราช เชียงใหม่ หาดใหญ่ ศรีราชา ภูเก็ต
ทั้งนี้บีทูเอสจะมีความแตกต่างจากร้านอื่นอย่างเห็นได้ชัดคือ จะเป็นร้านที่จำหน่ายสื่อบันเทิงครบวงจร และในเรื่องของแฮร์รี่พอตเตอร์นี้เราก็มีหลากหลายทั้ง หนังสือ ดีวีดี วีซีดี จำหน่ายด้วย ทั้งหนังสือที่แปลเล่ม 1-5 ก็ยังมีขาย
สำหรับราคาจำหน่ายนั้นกำหนดไว้ที่ 715 บาท โดยมีกีฟท์โวเชอร์ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษในช่วงแรกสำหรับผู้ที่สั่งจอง ส่วนหลังจากนี้จะมีราคาพิเศษคือ หนังสือรวมกับของพรีเมี่ยมที่บีทูเอสจะทำขึ้นมา ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 715 บาท โดยครั้งนี้บีทูเอสนำเข้ามาเองประมาณ 10,000 กว่าเล่ม
ซีเอ็ดดึงแฟนพันธุ์แท้ร่วมเปิดตัว
แหล่งข่าวจากร้านซีเอ็ดกล่าวว่า ในวันที่ 16 เดือนนี้ ทางซีเอ็ดจะจัดกิจกรรมที่สาขาเอ็มบีเค เวลาบ่ายโมงเนื่องจากสาขาตั้งอยู่ในศูนย์การค้า โดยไฮไลท์ของกิจกรรมคือ เชิญหมอนิพนธ์ ประดับญาติ ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้มาร่วมเสวนาเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ และมีกิจกรรมร่วมเล่นเกมต่างๆ ส่วนสาขาอื่นก็จะมีการตั้งกองสินค้าโปรโมทไม่มีกิจกรรมเท่าใด
แหล่งข่าวกล่าวกว่า ราคาจำหน่ายเวลานี้มี 2 แบบคือ ถ้าเป็นปกแข็งจากอังกฤษราคาเต็ม 890 บาท ส่วนที่มาจากอเมริการาคาแพงกว่า ซึ่งขณะนี้ยังไม่สรุป แต่จะพยายามกำหนดราคาให้เท่ากับของอังกฤษให้ได้หรือแพงกว่าไม่มาก ทั้งนี้ ผู้ที่มาจองก่อนวันที่ 16 กรกฎาคมจะได้ราคาพิเศษ 695 บาท พร้อมได้รับบัตรสมาชิกฟรีจากเดิมที่ต้องซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท พร้อมกับได้รับของพรีเมี่ยมแฮร์รี่พอตเตอร์ด้วย โดยซีเอ็ดสั่งเข้ามาประมาณ 5,000 กว่าเล่ม
ด้านศูนย์หนังสือจุฬาที่นำเข้ามาจำหน่ายเอง เตรียมจัดงานวันที่ 16 เช่นกัน มีทั้งกิจกรรมและการร่วมสนุก โดยศูนย์หนังสือจุฬา ขายราคาพิเศษในช่วงวันงานและคนที่จองก่อนหน้านี้ 680 บาท ส่วนหลังจากนั้นจะขายราคา 800 กว่าบาท
ขณะที่ร้านคิโนคุนิยะที่มี 2 สาขา นั้นตั้งราคาขาย 595 บาทในช่วงวันที่ 16-17 กรกฎาคม หลังจากนั้นคาดว่าจะปรับขึ้นเป็นราคา 600 กว่าบาท