เชียงราย - ไทย/จีนร่วมตั้งคณะทำงานชุดใหม่ เดินหน้านิคมชายแดนเมืองพ่อขุน ที่ "เชียงของ" พ่อเมืองเชียงรายยืนยันผู้บริหารมณฑลหยุนหนันรับปาก ชงเรื่องผ่านผู้ว่าฯมณฑลเสนอรัฐบาลปักกิ่งพิจารณาอนุมัติ พร้อมส่งตัวแทนดูพื้นที่ตั้งนิคมฯใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้
ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดเชียงราย ว่า ระหว่างที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางมาตรวจราชการชายแดนที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายวรเกียรติ สมสร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้บรรยายสรุปถึงแนวทางการพัฒนาพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะผลการเดินทางไปเยือนนครคุนหมิง มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จังหวัดได้สถาปนาเป็นบ้านพี่เมืองน้องระหว่างเชียงราย -หยุนหนัน ในด้านการค้าและการท่องเที่ยวด้วย
นายวรเกียรติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2548 ตนและรองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)ได้พบกับนายหยาง ชงห้วย ประธานสภาประชาชนมณฑลหยุนหนัน และผู้บริหารระดับสูงของหยุนหนัน ที่โรงแรมไกหว่า นครคุนหมิง ซึ่งฝ่ายจีนได้สอบถามถึงกรณีที่ไทย เสนอย้ายที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน ไปก่อสร้างที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย แทน อ.เชียงแสน
ฝ่ายจีนระบุว่า หากจะดึงนักลงทุนจีนเข้าไปลงทุนในพื้นที่ใหม่ ต้องมีความชัดเจนเรื่องการถือครองที่ดินของนักลงทุน รวมถึงสอบถามขั้นตอนการจัดตั้งนิคมฯว่า จะต้องขอมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่
นอกจากนี้ตัวแทนฝ่ายจีน ยังได้สอบถามถึงคุณภาพน้ำ - แหล่งน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ติดกับแปลงที่ดิน แผนแม่บทของการใช้ที่ดิน การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีน เรื่องของมวลชนว่าไม่ให้มีการประท้วง และไม่มีเขตเมืองเก่าที่จะต้องอนุรักษ์เป็นเขตมรดกโลก
ในเรื่องดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ชี้แจงว่า พื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นเขตเมืองเก่า มีโบราณสถาน โบราณวัตถุมาก เหมาะสมที่จะผลักดันให้เป็นเมืองมรดกโลก ขณะที่เชียงของ รัฐบาลไทยได้กำหนดให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเช่นเดียวกับเชียงแสน นอกจากนี้ยังได้กำหนดให้ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมระหว่าง เชียงของ - แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) รองรับกับถนน ไทย-ลาว-จีน (R3e) ที่กำหนดแล้วเสร็จในปี 50-51 ด้วย
นายวรเกียรติ ยืนยันว่า ฝ่ายจีนที่เข้าร่วมเจรจาด้วย สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่อ.เชียงของเช่นกัน โดยมีข้อตกลงว่า จะจัดตั้งคณะทำงานระดับจังหวัด และมณฑลขึ้นมาเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ร่วมกัน และมอบหมายให้รองนายกเทศมนตรีนครคุณหมิง และคณะมาเยือน เชียงราย พร้อมกับไปดูพื้นที่ 3,200 ไร่ ใน ต.ศรีดอนชัย และ อีก 5,000 ไร่ ใน ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ที่ไทยเสนอเป็นที่จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่
นายวรเกียรติ ย้ำอีกว่า จังหวัด และกนอ.ได้ชี้แจงข้อมูลต่างๆว่า ฝ่ายไทยมีความพร้อมเต็มที่ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นที่เชียงของ ซึ่งจีนค่อนข้างพอใจ และรับว่าจะนำเสนอต่อผู้ว่าการมณฑลหยุนหนัน พิจารณานำเสนอต่อรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อร่วมทุนในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมต่อไป
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เชียงราย จะเป็นประตูสู่เพื่อนบ้าน เพราะรัฐบาลไทยตกลงกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว เรื่องการจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ที่ อ.เชียงของ สู่ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว รับกับถนรนสาย R3e ที่จะเชื่อมประเทศจีนตอนใต้ ผ่านสปป.ลาว สู่ ไทย
นอกจากนี้เชียงราย ได้เสนอต่อประเทศจีนในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ที่ เชียงของ รับกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพิ่งเดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงคาดว่าในอนาคตเชียงราย จะมีการการลงทุนและเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านมากขึ้น เจ้าหน้าที่จึงต้องมีการเตรียมพร้อม ในระบบสาธารณูปโภคเพื่อพร้อมรองรับกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น
อนึ่งสำหรับนิคมอุตสาหกรรม ไทย-จีน ในระยะแรกถูกกำหนดว่าจะตั้งที่ บ้านศรีบุญยืน ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยมีเนื้อที่ราว 3,000 ไร่เศษ แต่เมื่อเชิญฝ่ายจีนไปดูที่ดินเมื่อปี 2547 กลับถูกต่อต้านจากชาวบ้าน และผู้ที่ไม่เห็นด้วยเพราะเกรงจะมีผลกระทบต่อเขตเมืองเก่า อ.เชียงแสน และพื้นที่ชุ่มน้ำโลก กระทั่งมีการนำเสนอต่อ ครม.สัญจร จ.เชียงราย เมื่อต้นปี 2548 ย้ายสถานที่ไปหาที่ใหม่ ซึ่งจังหวัดเสนอพื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย แทน