xs
xsm
sm
md
lg

ต้นธารแห่งความมั่งคั่ง (4)

เผยแพร่:   โดย: สันติ ตั้งรพีพากร

อุปกรณ์ไฟฟ้าของเต๋อลี่ซีผ่านการทดสอบอย่างสมบูรณ์ตามเกณฑ์กำหนด ของศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียนแล้วจึงถูกส่งเข้าสู่ระบบการติดตั้ง มีหลักประกันอย่างครบครันว่า จะไม่เกิดปัญหาใดๆ

แต่กระนั้น หูเฉิงจงก็ยังคงหวาดหวั่น จนกระทั่งยานอวกาศพร้อมกับนักบินอวกาศคนแรกของจีน หยังลี่เหว่ยลงกลับสู่ผิวโลกอีกครั้งในวันถัดมา

ตามสัญญา เต๋อลี่ซีจะเป็นผู้สนองอุปกรณ์ไฟฟ้าให้แก่ศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียน เป็นเวลา 5 ปี นั่นหมายถึงว่า ยานอวกาศเสินโจว 6 ที่จะขึ้นสู่วงโคจรในปี 2005 และยานอวกาศลำต่อๆ ไป รวมถึงยานสำรวจดวงจันทร์ในโครงการ "ฉางเอ๋อ" ของจีน ก็จะใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าของเต๋อลี่ซีด้วยเช่นเดียวกัน

นับเป็นเกียรติประวัติสูงยิ่งสำหรับเต๋อลี่ซี ในฐานะบริษัทเอกชนจีน สามารถ พัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูงสนับสนุนกิจการอวกาศของจีน

"มันเป็นความภาคภูมิใจอย่างไม่มีสิ่งใดเปรียบเทียบได้" หูเฉิงจงเปิดเผยถึงความรู้สึกในบัดดลที่ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปได้อย่างเรียบร้อย

จากการเปิดเผยของหูเฉิงจง กว่าเต๋อลี่ซีจะได้เซ็ญสัญญากับศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียน ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแข่งขันกับบริษัทจีนอื่นๆ อีกไม่น้อยกว่า 10 ราย ในการประมูลโครงการสนับสนุนอุปกรณ์ไฟฟ้าให้แก่ศูนย์ฯ ซึ่งทางศูนย์ฯได้กำหนดสเปกอุปกรณ์ทุกชิ้นไว้สูงมาก ยากที่บริษัทอื่นๆ จะทำได้

เมื่อเต๋อลี่ซีประมูลได้โครงการดังกล่าวแล้ว ก็ได้จัดทีมพัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับกิจการอวกาศจีนที่ศูนย์ฯจิ่วเฉวียนขึ้นมาเป็นการเฉพาะ ทำการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบไปจนถึงช่วงก่อนที่จะนำส่งผลิตภัณฑ์ให้แก่ศูนย์ฯเลยทีเดียว

ปัจจุบัน เต๋อลี่ซีได้ร่วมกับศูนย์ฯ ก่อตั้งระบบลอจิสติกส์ (ระบบการจัดส่ง ดูแลครบวงจรตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง) และศูนย์ตรวจสอบคุณภาพอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีความทันสมัยมาก ขึ้นที่ศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียน เพื่อให้สามารถสนองตอบความต้องการของศูนย์อวกาศฯ ได้อย่างเต็มที่ และประกันให้อุปกรณ์ ทุกชิ้นของเต๋อลี่ซีสมบูรณ์เต็มร้อย
บนเส้นทางก้าวสู่ความเป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่

ความสำเร็จทางด้านอวกาศจีน ดึงเอาเต๋อลี่ซีทะยานสูงขึ้นไปอีก ทั้งในด้าน คุณภาพผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์หรือ "แบรนด์" ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มบริษัทเต๋อลี่ซีพัฒนาขยายตัวไปได้อีกก้าวใหญ่ ในฐานะกลุ่มบริษัทเอกชนที่ประสบความ สำเร็จอย่างสูงและมีอนาคตยาวไกล

เพียงยี่สิบปีจากโรงงานห้องแถว (ชื่อ "ฉิวจิง") ปัจจุบันเต๋อลี่ซีได้เติบใหญ่ เป็นกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ลำดับที่ 200 (จากการจัดอันดับในปี ค.ศ. 2004) ของวิสาหกิจจีน (ทั้งของรัฐและเอกชน) รวมมูลค่าสินทรัพย์ 3,668 ล้านหยวน (ราว 18,340 ล้านบาท) มูลค่า "แบรนด์" 2,828 ล้านหยวน (ราว 14,140 ล้านบาท) ดำเนินกิจการควบคร่อมทั้งด้านอุตสาหกรรมการผลิต การลงทุน และการบริการ มีเจ้าหน้าที่พนักงานรวมกว่า 14,000 คน มีบริษัทในเครือกว่า 70 แห่ง บริษัทร่วมค้ากว่า 700 แห่ง มีจุดบริการด้านการขายกว่า 1,000 แห่ง

กว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ เต๋อลี่ซีได้ผ่านการ "ลอกคราบ" มาแล้ว 3 ครั้ง
ครั้งแรก ในต้นทศวรรษ ค.ศ.1990 จากโรงงานอุตสาหกรรมห้องแถว ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์ต่ำรายตัว เจาะตลาดด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพ ตามแนวคิด "เอาชนะด้วยคุณภาพสินค้า" มาเป็นกลุ่มโรงงานจาก 1 เป็น 2 พร้อมกับขยายการผลิตชนิดผลิตภัณฑ์หลากหลายยิ่งขึ้น

ระหว่างนั้นได้ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนกับต่างประเทศ และควบรวมกิจการขนาดเล็กในละแวกเดียวกัน

ในปี ค.ศ. 1993 มีการปรับโครงสร้างการบริหารให้เป็นแบบบริหารจากส่วน กลาง ขับเคลื่อนการพัฒนาขยายตัวของกลุ่มโรงงานเต๋อลี่ซี

ครั้งที่สอง ในกลางทศวรรษ ค.ศ. 1990 เต๋อลี่ซีได้พลิกผันตัวเองจากกลุ่ม โรงงานมาเป็นกลุ่มบริษัทนาม "เต๋อลี่ซีกรุ๊ป" (เต๋อลี่ซีจี๋ถวน) มีคณะกรรมการบริหารที่ประกอบด้วยตัวแทนกลุ่มผู้ถือหุ้นทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยหูเฉิงจงเป็นประธานกรรมการ

ในปี ค.ศ.1996 เต๋อลี่ซีกรุ๊ปก็ได้รับการรับรองจากกรมทะเบียนการค้าอุตสาหกรรมแห่งประเทศจีน เป็นวิสาหกิจชุมชนขนาดใหญ่ สามารถดำเนินกิจการได้ทุกประเภทธุรกิจทั่วทั้งประเทศจีน

ครั้งที่สาม ก้าวจากธุรกิจอุตสาหกรรมสู่ธุรกิจลงทุนและการให้บริการ อันเป็นผลโดยตรงจากการรับรองของกรมทะเบียนการค้าอุตสาหกรรม โดยเริ่ม ตั้งแต่ปี ค.ศ.1998 จนถึงปัจจุบัน

ในปี ค.ศ 1998 เต๋อลี่ซีกรุ๊ปได้จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทเต๋อลี่ซีเซี่ยงไฮ้ และลงนามในสัญญาร่วมกับศูนย์วิจัยอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์สูงของนครซีอัน ทำการ ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์สูงครบชุด

นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมการพัฒนาเขตตะวันตกของจีน และเข้าไปมีส่วนร่วม ในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ เข้าควบซื้อรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่หลายแห่ง พัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในใจกลางเมืองอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) เมืองเอกของเขตปกครอง ตนเองซินเจียง

ในปี ค.ศ. 2003 ได้ร่วมกับอีกสามกลุ่มบริษัทชั้นนำของจีน จัดตั้งบริษัทลงทุนด้านลอจิสติกส์ สร้างศูนย์บริการด้านลอจิสติกส์ ณ จุดต่างๆ ของประเทศจีน เพื่อรองรับการพัฒนาขยายตัวทางเศรษฐกิจการค้าภายในประเทศจีน

ยุทธศาสตร์เต๋อลี่ซี

เต๋อลี่ซี ดำเนินยุทธศาสตร์ "คุณภาพนำชัย" ให้ความสำคัญต่อการนวัตกรรมทางเทคนิคเป็นอย่างยิ่ง จากนี้ไปสร้างความเชื่อมั่นขึ้นในหมู่ลูกค้า ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์

ในช่วงแรกๆ ขณะที่เริ่มกิจการ ก็ได้ว่าจ้างวิศวกรที่ปลดเกษียณแล้วจากนคร เซี่ยงไฮ้มาดำเนินงานด้านวิจัยและพัฒนา กล้าทุ่มเงินถึงสามแสนหยวน (ราว 1.5 ล้านบาท) สร้างห้องตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ เป็นแห่งแรกของเมืองเวินโจว

ในปี ค.ศ. 1987 ได้รับใบอนุญาตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมจากกระทรวงอุตสาหกรรมเครื่องจักร เป็นรายแรกของเมืองเวินโจว

เมื่อขยายตัวเป็น "กลุ่มบริษัท" แล้ว เต๋อลี่ซีก็เป็นรายแรกของประเทศจีนที่ได้ใบรับรอง ISO9001 (ระบบควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์), ISO14001 (ระบบบริหารสิ่งแวดล้อม) และ OHSAS18001 (ระบบบริหารความปลอดภัยและสุขอนามัยในการทำงานของพนักงาน)

ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทของเต๋อลี่ซีได้รับการรับรองจากศูนย์รับรองคุณภาพ ภาคบังคับของประเทศจีน (ใบรับรอง CCC)

ผลิตภัณฑ์หลักๆ ของเต๋อลี่ซีได้รับการรับรองคุณภาพจากองค์กรควบคุมคุณภาพนานาชาติมากมายหลายแห่ง เช่น UL, VDE, CE, CB, KEMA, SEMIK เป็นต้น

ในแต่ละปี เต๋อลี่ซีจะจัดสรรเงินราว 5% ของยอดขายไปในการวิจัยและพัฒนา ปัจจุบันได้สร้างศูนย์การวิจัยและพัฒนาขึ้นมาหลายแห่งทั้งที่เมืองเวินโจว นครเซี่ยงไฮ้ และในประเทศเยอรมนี มีสถาบันวิทยาศาสตร์อุปกรณ์ไฟฟ้า ศูนย์ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ และศูนย์วิจัยแม่แบบ (โมลด์) ของตนเอง มีการทำสัญญาวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับมณฑลและระดับประเทศ เพื่อให้เกิดกระบวนการประสานเชื่อมอย่างแนบแน่นระหว่างบริษัทสถาบันวิจัย และสถาบันการศึกษา พัฒนายกระดับความสามารถในการนวัตกรรมใหม่ๆ และเทคโนโลยีโดยรวมของเต๋อลี่ซีให้สูงขึ้นเรื่อยๆ

ต่อมาในปี ค.ศ. 2000 เต๋อลี่ซีก็ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลจีน จัดตั้งสถานีปฏิบัติงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักวิจัยหลังปริญญาเอก (โพสต์ด็อกหรือ "ป๋อซื่อโห้ว") เป็นรายแรกของวิสาหกิจเอกชนของประเทศจีน ดำเนินยุทธศาสตร์ การแปรให้กระบวนการขับเคลื่อนของเต๋อลี่ซีเป็นแบบไอที นำไปสู่การควบแน่น ของระบบวิทยาการยุคใหม่ ก้าวไปสู่การผลิตแบบอัตโนมัติ การควบคุมด้วยระบบสมองกล และการขายแบบเครือข่าย

ปัจจุบันเต๋อลี่ซีสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของตนเองได้จำนวนนับร้อยราย ระบบการผลิตค่อยๆย้ายจากการใช้แรงงานเป็นหลักมาสู่การใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก จากการผลิตด้วยระบบไฟฟ้าแบบ เดิมๆ มาเป็นการผลิตด้วยระบบสมองกล เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถ สื่อสารถึงกันและกันได้ในตัว

ปี ค.ศ. 2002 เต๋อลี่ซีได้ร่วมกับศูนย์วิจัยอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์สูงนครซีอัน จัดตั้งบริษัทวิจัยอุปกรณ์ไฟฟ้าโวลต์สูงเต๋อลี่ซีเซี่ยงไฮ้ เป็นฐานการผลิตเบรกเกอร์ SF6 และ GIS ซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ได้มาตรฐานระดับสากล

และในเดือนเมษายน ค.ศ. 2003 เต๋อลี่ซีก็ได้ร่วมลงนามกับศูนย์อวกาศจิ่วเฉวียน ในสัญญา 5 ปี สนองผลิตภัณฑ์ตามสเปกของศูนย์ฯ พร้อมก่อตั้งศูนย์ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ขึ้นในศูนย์ฯ โกดังเก็บผลิตภัณฑ์ระยะไกล เป็นต้น

วัฒนธรรมเต๋อลี่ซี

วัฒนธรรมองค์กรเป็นตัวอธิบายแนวคิดจิตใจร่วมกันขององค์กรเป็น "สัญลักษณ์" แห่งค่านิยมขององค์กร ที่สมาชิกองค์กรจะต้องยึดมั่นและประพฤติปฏิบัติตาม

ในระยะเริ่มแรก เต๋อลี่ซียึดมั่นในแนวคิด "คุณภาพนำชัย" ให้คุณภาพอันดีเลิศของผลิตภัณฑ์เป็นผู้สร้างคุณค่าให้แก่องค์กร ศักดิ์ศรีของเต๋อลี่ซีค่อยๆ พอกพูนขึ้นบนฐานของคุณภาพของผลิตภัณฑ์

ต่อมาเมื่อเต๋อลี่ซีขยายตัวใหญ่โตขึ้น ชนิดของผลิตภัณฑ์ก็เพิ่มมากขึ้น เข้าไปมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจอุตสาหกรรมโดยรวมของประเทศมากขึ้น ทำให้คนเต๋อลี่ซีตระหนักถึงภาระหน้าที่ของตนที่มีต่อสังคม นั่นคือ เต๋อลี่ซีมีหน้าที่ต้องตอบแทนสังคมและมวลมนุษยชาติ ด้วยการคิดค้นทดลอง ดำเนินการนวัตกรรมใหม่ๆ

นับเป็นการยกระดับจิตใจของคนเต๋อลี่ซีให้สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง จาก "คุณภาพนำชัย" สู่ "ตอบแทนสังคมฯ ด้วยการนวัตกรรมใหม่ๆ"

ด้วยจิตใจที่สูงส่งเช่นนี้ คนเต๋อลี่ซีจึงตระหนักถึงคุณค่าของการทำงาน คุณค่าของความสามัคคี พร้อมที่จะทุ่มเทให้แก่การคิดค้นใหม่ๆ ใช้การคิดค้น สร้างผลงานใหม่ๆ เป็นตัววัดความก้าวหน้าทางด้านหน้าที่การงาน นำไปสู่การแข่งขันกันสร้างสรรค์สิ่งดีๆขึ้นในองค์กร

การสร้างระบบประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาคุณภาพ ทางจิตใจของคนเต๋อลี่ซี ได้นำไปสู่การเกิดขึ้นของวัฒนธรรมเต๋อลี่ซี สิ่งนี้สามารถ สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการการพัฒนาของเต๋อลี่ซีได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของหน่วยพรรคฯ (องค์กรจัดตั้งของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน) ในเต๋อลี่ซี ได้มีบทบาทเป็นแกนนำในการพัฒนายกระดับความคิดในหมู่พนักงานเป็นอย่างดี

อนึ่ง คนเต๋อลี่ซียังได้รับการปลูกฝังให้เป็นผู้มีจิตใจเอื้ออาทร กระตือรือร้น ที่จะยื่นมือช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่นบริจาค เงินช่วยเหลือคนยากจน ตามแผนโอบอุ้มคนยากจนของรัฐบาลจีน บริจาคเงินสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เด็กยากจน การสนับสนุนโครงการรักษาสิ่งแวดล้อม อันเป็นการบริจาคเพื่อการกุศลจริงๆ

รวมถึงการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิในประเทศไทย อินโดนีเซียและศรีลังกาด้วย

เฉพาะตัวของหูเฉิงจงเอง ก็เป็นนักบริจาคชั้นนำของจีน ติดอันดับ 1 ใน 10 ของนักบริจาคจีนเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น