e-mail : likhit@dhiravegin.com
www.dhiravegin.com
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีตำแหน่งสูงในหน้าที่การงานทั้งภาครัฐหรือเอกชน ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจจนกลายเป็นมหาเศรษฐี หรือประสบความสำเร็จในกิจกรรมอื่นใดจนเป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือขจรไปทั่ว เช่น เป็นนักวิทยาศาสตร์กระเดื่องนาม เป็นนักวาดภาพอันดับหนึ่งของประเทศ ฯลฯ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่สิ่งซึ่งจะทำให้ชีวิตสมบูรณ์ก็คือต้องประสบความสำเร็จในการเป็นคนที่มีศีลธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเองในฐานะที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม รับผิดชอบต่อครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยสำคัญหนึ่งของมนุษย์ และรับผิดชอบต่อส่วนรวมหรือสังคมซึ่งตนเป็นสมาชิกคนหนึ่ง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วยความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ โลภละโมบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการประสบความสำเร็จในการเป็นคนดีของสังคม
ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวมาเบื้องต้นคือการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น เพื่อให้สมกับเป็นสัตว์ประเสริฐ ทั้งนี้เพื่อจะได้มีแนวทางของการมองปัญหาและแนวทางปฏิบัติ เสมือนหนึ่งหางเสือเรือซึ่งจะคอยคัดเรือไม่ให้เตลิดเปิดเปิงผิดทิศผิดทาง ในส่วนนี้กล่าวได้ว่าผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะด้านใดจะต้องมีการปฏิบัติตาม “กฎ”
คำว่า “กฎ” เป็นความหมายที่กว้าง โดยเบื้องต้นหมายถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ เช่น กฎหมาย กฎระเบียบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคำว่า กฎ ก็คือการที่ดำเนินไปตามกรอบ หรือหลักการที่สังคมในยุคหนึ่งๆ กำหนดขึ้น แต่ที่จะใช้เฉพาะเจาะจงในที่นี้ คำว่า “กฎ” หมายถึง กฎหมาย ศีลธรรมและจริยธรรม และอาจจะรวมถึงอุดมคติและอุดมการณ์ด้วย
ความสำเร็จของชีวิตในด้านใดก็ตามที่ผู้ประสบความสำเร็จมิได้ดำเนินการโดยมี “กฎ” เป็นสิ่งนำทาง บุคคลผู้นั้นก็จะประสบความสำเร็จเฉพาะในสิ่งที่มุ่งมั่น แต่ความสำเร็จดังกล่าวนั้นอาจจะมีผลร้ายและทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมได้ ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ กล้าตัดสินใจ มีวิสัยทัศน์อันยาวไกล มานะบากบั่นมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย เป็นต้นว่า เพื่อให้เป็นมหาเศรษฐี แต่ในกระบวนการที่สร้างความร่ำรวยจนเป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นอาจจะได้มาด้วยการหักหลังคู่ต่อสู้ (ผิดศีลธรรม) ติดสินบนเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี (ผิดกฎหมาย) ทำลายคู่แข่งขันด้วยข้อความที่เป็นเท็จ (ผิดจริยธรรม) ขณะเดียวกันเอาเปรียบลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ นานา (ผิดจริยธรรมของนักธุรกิจ)
จากตัวอย่างที่กล่าวมาเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า ถึงแม้บุคคลผู้นั้นจะมีความรู้ความสามารถ มีความใจกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะตัดสินใจ มีความสามารถในการมองลู่ทางการประกอบธุรกิจที่ทำกำไรได้ในอนาคต และขยันขันแข็งบากบั่นตรากตรำทำงานโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แต่ความสำเร็จดังกล่าวนั้นเป็นความสำเร็จที่อยู่นอก “กฎ” ซึ่งหมายถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การไม่คำนึงถึงศีลธรรม จริยธรรม และความยุติธรรมซึ่งเป็นกติกาสังคม ละเมิดจริยธรรมของวิชาชีพ นอกจากนั้นยังมีการละเมิดกฎหมายติดสินบนเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี ฯลฯ บุคคลเช่นนี้กลับกลายเป็นบุคคลที่อันตรายยิ่ง เพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม คุณสมบัติที่ดีเยี่ยมที่กล่าวมาทั้งหมดกลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อสังคมทั้งในแง่รูปธรรมและนามธรรมถ้าไม่มี “กฎ” เป็นดวงประทีปในการส่องทาง
บุคคลที่มีปัญญาเฉียบแหลมสามารถคิดค้นวิธีการโกงผู้อื่นด้วยความรู้วิชาสมองกล ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ในต่างประเทศมีผู้ซึ่งสามารถตั้งเครื่องสมองกลเพื่อถ่ายโอนเงินที่เป็นเศษเงินเข้าสู่บัญชีของตนจากบัญชีของผู้อื่นเป็นจำนวนสิบๆ ล้านบัญชี ปรากฏว่าจำนวนเงินที่เข้าเป็นจำนวนล้านๆ เหรียญ และผลสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ นี่คือตัวอย่างของการที่บุคคลที่มีความรู้ มีความสามารถ แต่ขาดศีลธรรมและจริยธรรม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย กล่าวอีกนัยหนึ่งบุคคลเช่นนี้เสมือนกับเรือที่ปราศจากหางเสือ ความสำเร็จในชีวิตของคนเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ และในความเป็นจริงแล้วคนเช่นนี้เป็นคนที่อันตรายต่อสังคม เป็นคนลวงโลก
ชีวิตที่ดำรงอยู่ในกรอบของกฎจึงเป็นชีวิตที่มีความหมายในตัวของมันเอง และถึงแม้บุคคลผู้นั้นจะไม่ประสบความสำเร็จในระดับที่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ เนื่องจากไม่ต้องการจะละเมิดกฎหมาย กฎกติกา ศีลธรรมและจริยธรรมของความเป็นคนดี บุคคลผู้นั้นก็ยังเป็นบุคคลที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างาม เพราะความบริสุทธิ์ทำให้เกิดความองอาจ ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ใช้กลเม็ดเด็ดพรายที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมโดยไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ บุคคลเช่นนี้แม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าด้านใด แต่ในส่วนลึกของหัวใจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการได้มาซึ่งความสำเร็จนั้นเป็นวิธีการที่ไม่สง่างาม
ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ ประเทศหนึ่งในเอเชียซึ่งเป็นเจ้าภาพ ได้มีความพยายามที่จะให้จำนวนเหรียญทองมีมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ จึงได้มีการใช้วิธีโกงและก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง แต่คนที่มีหิริโอตตัปปะ มีจิตสำนึกของประเทศนั้นเองกลายเป็นผู้ซึ่งโทรศัพท์เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่พอใจต่อการกระทำของเพื่อนร่วมชาติ
นักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งด้วยการทำลายล้างคู่ต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมและจริยธรรม หาเสียงด้วยการหลอกลวง มุ่งเน้นเอาแต่การชนะคู่ต่อสู้แต่เพียงอย่างเดียว เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรมของนักการเมือง ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทำให้กระบวนการทางการเมืองกลายเป็นกระบวนการทางเมืองแบบน้ำเน่าซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ทำให้ระบบประชาธิปไตยเสียความชอบธรรม ประชาชนเสื่อมความศรัทธา ยิ่งถ้ามีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ฉกฉวยผลประโยชน์จากความอ่อนแอของสังคมและระบบ ตะแบงตีความตามกฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนและพรรคพวกโดยไม่ละอายใจ ก็ยิ่งเกิดความเสียหายมากขึ้น ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่แสดงออกถึงความล้มเหลวของตัวบุคคลและระบบเนื่องจากการละเมิด “กฎ”
ข้าราชการที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่มีจิตใจที่บริการประชาชน มีทีท่าเป็นเจ้าขุนมูลนาย เรียกร้องค่าบริการทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ที่จะต้องกระทำ มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ปกปิดและบิดเบือนข้อมูล เล่นพรรคเล่นพวก และถ้าเป็นข้าราชการที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยมีการละเมิดกฎหมายด้วยการใช้อำนาจรัฐอย่างผิดๆ จนเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นการละเมิด “กฎ” ทั้งสิ้น บุคคลเหล่านี้ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตการงานเพียงใดก็ตาม แต่ก็เป็นผู้ที่ล้มเหลวในสองส่วนด้วยกัน ล้มเหลวในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และล้มเหลวในฐานะที่เป็นมนุษย์และเป็นคนดีของสังคม
ครูบาอาจารย์และนักวิชาการที่บิดเบือนข้อเท็จจริง กีดกันผู้ร่วมงานในตำแหน่งวิชาการและหน้าที่การงาน แพทย์ที่ละเมิดจริยธรรมของแพทย์ แพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาลที่มุ่งเน้นแต่การหาเงินในเชิงธุรกิจโดยมองข้ามภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของแพทย์ อันได้แก่ การรักษาโรคช่วยคลายทุกข์ให้กับประชาชน นักวิทยาศาสตร์ที่สร้างอาวุธขึ้นมาทำร้ายมนุษยชาติด้วยอาวุธที่ร้ายแรง รวมไปถึงอาวุธสงครามชีวภาพ นักบวชที่มีลักษณะเป็นปีศาจคาบคัมภีร์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลซึ่งประสบความล้มเหลวในชีวิตในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่เป็นสัตว์ประเสริฐอย่างสิ้นเชิง แม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงานสูงส่งเพียงใดก็ตาม
ความสำเร็จในชีวิต เกียรติยศ ชื่อเสียง และความร่ำรวยมั่งคั่ง รวมตลอดทั้งตำแหน่งในหน้าที่การงานที่ได้มาโดยความไม่บริสุทธิ์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่สามารถจะทำให้บุคคลผู้ประสบความสำเร็จมีเกียรติและศักดิ์ศรีได้ ดั่งที่อริสโตเติล เคยกล่าวไว้ว่า “ศักดิ์ศรีมิได้อยู่ที่การได้รับเกียรติ แต่อยู่ที่ว่าสมควรจะได้รับเกียรตินั้นหรือไม่” (Dignity does not consist in having honors but in deserving them – Aristotle)
www.dhiravegin.com
บุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีตำแหน่งสูงในหน้าที่การงานทั้งภาครัฐหรือเอกชน ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจจนกลายเป็นมหาเศรษฐี หรือประสบความสำเร็จในกิจกรรมอื่นใดจนเป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือขจรไปทั่ว เช่น เป็นนักวิทยาศาสตร์กระเดื่องนาม เป็นนักวาดภาพอันดับหนึ่งของประเทศ ฯลฯ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่สิ่งซึ่งจะทำให้ชีวิตสมบูรณ์ก็คือต้องประสบความสำเร็จในการเป็นคนที่มีศีลธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบต่อตนเองในฐานะที่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม รับผิดชอบต่อครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยสำคัญหนึ่งของมนุษย์ และรับผิดชอบต่อส่วนรวมหรือสังคมซึ่งตนเป็นสมาชิกคนหนึ่ง ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นด้วยความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ โลภละโมบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการประสบความสำเร็จในการเป็นคนดีของสังคม
ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวมาเบื้องต้นคือการพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น เพื่อให้สมกับเป็นสัตว์ประเสริฐ ทั้งนี้เพื่อจะได้มีแนวทางของการมองปัญหาและแนวทางปฏิบัติ เสมือนหนึ่งหางเสือเรือซึ่งจะคอยคัดเรือไม่ให้เตลิดเปิดเปิงผิดทิศผิดทาง ในส่วนนี้กล่าวได้ว่าผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะด้านใดจะต้องมีการปฏิบัติตาม “กฎ”
คำว่า “กฎ” เป็นความหมายที่กว้าง โดยเบื้องต้นหมายถึงกฎเกณฑ์ต่างๆ เช่น กฎหมาย กฎระเบียบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคำว่า กฎ ก็คือการที่ดำเนินไปตามกรอบ หรือหลักการที่สังคมในยุคหนึ่งๆ กำหนดขึ้น แต่ที่จะใช้เฉพาะเจาะจงในที่นี้ คำว่า “กฎ” หมายถึง กฎหมาย ศีลธรรมและจริยธรรม และอาจจะรวมถึงอุดมคติและอุดมการณ์ด้วย
ความสำเร็จของชีวิตในด้านใดก็ตามที่ผู้ประสบความสำเร็จมิได้ดำเนินการโดยมี “กฎ” เป็นสิ่งนำทาง บุคคลผู้นั้นก็จะประสบความสำเร็จเฉพาะในสิ่งที่มุ่งมั่น แต่ความสำเร็จดังกล่าวนั้นอาจจะมีผลร้ายและทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมได้ ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่มีความรู้ความสามารถ กล้าตัดสินใจ มีวิสัยทัศน์อันยาวไกล มานะบากบั่นมุ่งมั่นเพื่อบรรลุเป้าหมาย เป็นต้นว่า เพื่อให้เป็นมหาเศรษฐี แต่ในกระบวนการที่สร้างความร่ำรวยจนเป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นอาจจะได้มาด้วยการหักหลังคู่ต่อสู้ (ผิดศีลธรรม) ติดสินบนเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี (ผิดกฎหมาย) ทำลายคู่แข่งขันด้วยข้อความที่เป็นเท็จ (ผิดจริยธรรม) ขณะเดียวกันเอาเปรียบลูกค้าด้วยวิธีการต่างๆ นานา (ผิดจริยธรรมของนักธุรกิจ)
จากตัวอย่างที่กล่าวมาเบื้องต้นจะเห็นได้ว่า ถึงแม้บุคคลผู้นั้นจะมีความรู้ความสามารถ มีความใจกล้าที่จะเสี่ยง กล้าที่จะตัดสินใจ มีความสามารถในการมองลู่ทางการประกอบธุรกิจที่ทำกำไรได้ในอนาคต และขยันขันแข็งบากบั่นตรากตรำทำงานโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก แต่ความสำเร็จดังกล่าวนั้นเป็นความสำเร็จที่อยู่นอก “กฎ” ซึ่งหมายถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การไม่คำนึงถึงศีลธรรม จริยธรรม และความยุติธรรมซึ่งเป็นกติกาสังคม ละเมิดจริยธรรมของวิชาชีพ นอกจากนั้นยังมีการละเมิดกฎหมายติดสินบนเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเสียภาษี ฯลฯ บุคคลเช่นนี้กลับกลายเป็นบุคคลที่อันตรายยิ่ง เพราะแทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคม คุณสมบัติที่ดีเยี่ยมที่กล่าวมาทั้งหมดกลับกลายเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายต่อสังคมทั้งในแง่รูปธรรมและนามธรรมถ้าไม่มี “กฎ” เป็นดวงประทีปในการส่องทาง
บุคคลที่มีปัญญาเฉียบแหลมสามารถคิดค้นวิธีการโกงผู้อื่นด้วยความรู้วิชาสมองกล ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ในต่างประเทศมีผู้ซึ่งสามารถตั้งเครื่องสมองกลเพื่อถ่ายโอนเงินที่เป็นเศษเงินเข้าสู่บัญชีของตนจากบัญชีของผู้อื่นเป็นจำนวนสิบๆ ล้านบัญชี ปรากฏว่าจำนวนเงินที่เข้าเป็นจำนวนล้านๆ เหรียญ และผลสุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่จับได้ นี่คือตัวอย่างของการที่บุคคลที่มีความรู้ มีความสามารถ แต่ขาดศีลธรรมและจริยธรรม ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย กล่าวอีกนัยหนึ่งบุคคลเช่นนี้เสมือนกับเรือที่ปราศจากหางเสือ ความสำเร็จในชีวิตของคนเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ และในความเป็นจริงแล้วคนเช่นนี้เป็นคนที่อันตรายต่อสังคม เป็นคนลวงโลก
ชีวิตที่ดำรงอยู่ในกรอบของกฎจึงเป็นชีวิตที่มีความหมายในตัวของมันเอง และถึงแม้บุคคลผู้นั้นจะไม่ประสบความสำเร็จในระดับที่เท่าเทียมกับคนอื่นๆ เนื่องจากไม่ต้องการจะละเมิดกฎหมาย กฎกติกา ศีลธรรมและจริยธรรมของความเป็นคนดี บุคคลผู้นั้นก็ยังเป็นบุคคลที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีความสง่างาม เพราะความบริสุทธิ์ทำให้เกิดความองอาจ ตรงกันข้ามกับบุคคลที่ใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ใช้กลเม็ดเด็ดพรายที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมโดยไม่คำนึงถึงกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้นเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ บุคคลเช่นนี้แม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าด้านใด แต่ในส่วนลึกของหัวใจก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิธีการได้มาซึ่งความสำเร็จนั้นเป็นวิธีการที่ไม่สง่างาม
ตัวอย่างเช่น ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค ณ ประเทศหนึ่งในเอเชียซึ่งเป็นเจ้าภาพ ได้มีความพยายามที่จะให้จำนวนเหรียญทองมีมากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ จึงได้มีการใช้วิธีโกงและก็สามารถประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง แต่คนที่มีหิริโอตตัปปะ มีจิตสำนึกของประเทศนั้นเองกลายเป็นผู้ซึ่งโทรศัพท์เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่พอใจต่อการกระทำของเพื่อนร่วมชาติ
นักการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งด้วยการทำลายล้างคู่ต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมและจริยธรรม หาเสียงด้วยการหลอกลวง มุ่งเน้นเอาแต่การชนะคู่ต่อสู้แต่เพียงอย่างเดียว เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรมของนักการเมือง ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ทำให้กระบวนการทางการเมืองกลายเป็นกระบวนการทางเมืองแบบน้ำเน่าซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ทำให้ระบบประชาธิปไตยเสียความชอบธรรม ประชาชนเสื่อมความศรัทธา ยิ่งถ้ามีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ฉกฉวยผลประโยชน์จากความอ่อนแอของสังคมและระบบ ตะแบงตีความตามกฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนและพรรคพวกโดยไม่ละอายใจ ก็ยิ่งเกิดความเสียหายมากขึ้น ทั้งหลายทั้งปวงดังกล่าวนี้ล้วนแล้วแต่แสดงออกถึงความล้มเหลวของตัวบุคคลและระบบเนื่องจากการละเมิด “กฎ”
ข้าราชการที่กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ไม่มีจิตใจที่บริการประชาชน มีทีท่าเป็นเจ้าขุนมูลนาย เรียกร้องค่าบริการทั้งๆ ที่เป็นหน้าที่ที่จะต้องกระทำ มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ปกปิดและบิดเบือนข้อมูล เล่นพรรคเล่นพวก และถ้าเป็นข้าราชการที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยมีการละเมิดกฎหมายด้วยการใช้อำนาจรัฐอย่างผิดๆ จนเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งหลายทั้งปวงที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่เป็นการละเมิด “กฎ” ทั้งสิ้น บุคคลเหล่านี้ถึงแม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตการงานเพียงใดก็ตาม แต่ก็เป็นผู้ที่ล้มเหลวในสองส่วนด้วยกัน ล้มเหลวในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และล้มเหลวในฐานะที่เป็นมนุษย์และเป็นคนดีของสังคม
ครูบาอาจารย์และนักวิชาการที่บิดเบือนข้อเท็จจริง กีดกันผู้ร่วมงานในตำแหน่งวิชาการและหน้าที่การงาน แพทย์ที่ละเมิดจริยธรรมของแพทย์ แพทย์ผู้บริหารโรงพยาบาลที่มุ่งเน้นแต่การหาเงินในเชิงธุรกิจโดยมองข้ามภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ของแพทย์ อันได้แก่ การรักษาโรคช่วยคลายทุกข์ให้กับประชาชน นักวิทยาศาสตร์ที่สร้างอาวุธขึ้นมาทำร้ายมนุษยชาติด้วยอาวุธที่ร้ายแรง รวมไปถึงอาวุธสงครามชีวภาพ นักบวชที่มีลักษณะเป็นปีศาจคาบคัมภีร์ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลซึ่งประสบความล้มเหลวในชีวิตในฐานะที่เป็นมนุษย์ที่เป็นสัตว์ประเสริฐอย่างสิ้นเชิง แม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงานสูงส่งเพียงใดก็ตาม
ความสำเร็จในชีวิต เกียรติยศ ชื่อเสียง และความร่ำรวยมั่งคั่ง รวมตลอดทั้งตำแหน่งในหน้าที่การงานที่ได้มาโดยความไม่บริสุทธิ์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ไม่สามารถจะทำให้บุคคลผู้ประสบความสำเร็จมีเกียรติและศักดิ์ศรีได้ ดั่งที่อริสโตเติล เคยกล่าวไว้ว่า “ศักดิ์ศรีมิได้อยู่ที่การได้รับเกียรติ แต่อยู่ที่ว่าสมควรจะได้รับเกียรตินั้นหรือไม่” (Dignity does not consist in having honors but in deserving them – Aristotle)