ชิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล เล็งขยายไลน์ธุรกิจต่อยอดธุรกิจซาลอนและสปา วางหมาก 2-3 ปีเปิดโรงเรียนเสริมสวย “ชิเซโด้ บิวตี้ สคูล” เน้นหลักสูตรซาลอนครบวงจร ส่วนรายได้สิ้นปีนี้ตั้งเป้า 300 ล้านบาท
นางธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซาลอนและสปา ภายใต้ชื่อ คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา เปิดเผยว่า หลังจากที่เครือสหพัฒน์ได้ร่วมทุนกับ ชิเซโด้ญี่ปุ่น และชิเซโด้ ไทยในสัดส่วน 46%:49%:5%ตามลำดับ โดยมีทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในแผนของการดำเนินธุรกิจ คือ การเปิดโรงเรียนเสริมสวย ชิเซโด้ บิวตี้ สคูล ภายใน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ โดยเน้นหลักสูตรสำหรับดำเนินธุรกิจซาลอนอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆภายใต้แบรนด์ “ชิเซโด้” ภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ จากปัจจุบันบริษัทได้ร่วมเปิดร้านซาลอนและสปาอย่างครบวงจร โดยเปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือ ดิ เอ็มโพเรี่ยม และเซ็นทรัล ชิดลม และล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ ที่อาคารจัสมินซิตี้ ซ.สุขุมวิท ส่วนเดือนพฤศจิกายนเตรียมเปิดสาขาที่สยามพารากอน ขณะที่ภายใน 3 ปีข้างหน้าจะขยายสาขาเพิ่ม 10 แห่ง โดยใช้งบลงทุน 120 ล้านบาท หรือ 12 ล้านบาทต่อสาขา
“ในช่วงภาวะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคอาจจะลดลงไปบ้าง แต่บริษัทยังมีความมั่นใจว่า ธุรกิจซาลอนและสปาจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเปิดขายแฟรนไชส์ เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมด้านการควบคุมธุรกิจให้ได้มาตรฐานในระบบแฟรนไชส์ ”
ผลประกอบการปีแรกตั้งเป้า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก ร้าน คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา 50% และจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 50% โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้า 2,000 ราย อัตราการใช้จ่ายต่อคนต่อครั้ง 2,000 บาทในการทำสปา ส่วนซาลอน 500-1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยปัจจุบันบริษัทใช้กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้มีความภักดีต่อตราสินค้า
นางธีรดา อำพันวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิเซโด้ โปรเฟสชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจซาลอนและสปา ภายใต้ชื่อ คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา เปิดเผยว่า หลังจากที่เครือสหพัฒน์ได้ร่วมทุนกับ ชิเซโด้ญี่ปุ่น และชิเซโด้ ไทยในสัดส่วน 46%:49%:5%ตามลำดับ โดยมีทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในแผนของการดำเนินธุรกิจ คือ การเปิดโรงเรียนเสริมสวย ชิเซโด้ บิวตี้ สคูล ภายใน 2-3 ปี ข้างหน้านี้ โดยเน้นหลักสูตรสำหรับดำเนินธุรกิจซาลอนอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆภายใต้แบรนด์ “ชิเซโด้” ภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นและประเทศต่างๆ จากปัจจุบันบริษัทได้ร่วมเปิดร้านซาลอนและสปาอย่างครบวงจร โดยเปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือ ดิ เอ็มโพเรี่ยม และเซ็นทรัล ชิดลม และล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ ที่อาคารจัสมินซิตี้ ซ.สุขุมวิท ส่วนเดือนพฤศจิกายนเตรียมเปิดสาขาที่สยามพารากอน ขณะที่ภายใน 3 ปีข้างหน้าจะขยายสาขาเพิ่ม 10 แห่ง โดยใช้งบลงทุน 120 ล้านบาท หรือ 12 ล้านบาทต่อสาขา
“ในช่วงภาวะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังการซื้อของกลุ่มผู้บริโภคอาจจะลดลงไปบ้าง แต่บริษัทยังมีความมั่นใจว่า ธุรกิจซาลอนและสปาจะไม่ได้รับผลกระทบ โดยรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โต 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเปิดขายแฟรนไชส์ เนื่องจากยังไม่มีความพร้อมด้านการควบคุมธุรกิจให้ได้มาตรฐานในระบบแฟรนไชส์ ”
ผลประกอบการปีแรกตั้งเป้า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก ร้าน คิ ชิเซโด้ ซาลอน แอนด์ สปา 50% และจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 50% โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้า 2,000 ราย อัตราการใช้จ่ายต่อคนต่อครั้ง 2,000 บาทในการทำสปา ส่วนซาลอน 500-1,000 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยปัจจุบันบริษัทใช้กลยุทธ์การสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าให้มีความภักดีต่อตราสินค้า