ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- "ปลอดประสพ" ย้ำชัด ล้มแล้ว โครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว ชี้เหตุไม่คุ้มค่าการลงทุน เพราะระหว่างเส้นทางจากเชียงใหม่ถึงเชียงดาว ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจมากพอ ฉ๖ยอมรับหากอนาคตการท่องเที่ยวบนเส้นทางนี้พัฒนา อาจหวนทำโครงการ พร้อมย้ำชัดไม่ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแน่ แถมติดตลก "เอกลักษณ์ไทยไม่มีกระเช้าไฟฟ้า"
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ล้มเลิกโครงการที่จะก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาวแล้ว เพราะเห็นว่าไม่น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีแนวความคิดที่จะสร้างกระเช้าไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อเป็นจุดขายท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งใหม่และเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ระหว่างแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวในพื้นที่
ทั้งนี้มีเหตุผลเนื่องมาจาก การพิจารณาในเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันในระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอำเภอเชียงดาว ที่เป็นที่ตั้งของดอยหลวงเชียงดาว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากเพียงพอ ที่จะใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจนักท่องเที่ยว จึงเกรงว่าหากมีการลงทุนด้วยวงเงินงบประมาณที่สูงอาจจะได้ผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มค่า
"ตลอดเส้นทางที่ไปดอยหลวงเชียงดาว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ดูๆ แล้วไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากพอเลย สำหรับการจะใช้เป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยว ดังนั้นการมีเพียงกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอย่างเดียว ให้นักท่องเที่ยวนั่งรถกันไกลๆ ไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเสร็จแล้วก็กลับ มันคงจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และไม่ได้เป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวแต่อย่างใด" นายปลอดประสพกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในอนาคตหากในเส้นทางระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอำเภอเชียงดาว มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ระดับที่สามารถใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากแล้ว อาจจะมีการกลับมาทำโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอีกก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาองค์ประกอบและปัจจัยหลายด้านด้วย โดยเฉพาะความคุ้มค่าในการลงทุนและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันยืนยันว่าหากมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้าจริง จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของดอยหลวงเชียงดาวอย่างแน่นอน เพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน สามารถออกแบบและก่อสร้าง ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ได้อย่างไม่มีผลกระทบ
ส่วนที่มีการคัดค้านต่อต้านโครงการนี้ในช่วงที่ผ่านมา เห็นว่าเป็นเพราะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงจึงเกิดการเข้าใจผิด เช่น การออกแบบก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำเลย แต่กลับมีผู้ไปให้ข้อมูลแล้วว่า จะให้บริษัทใดจากประเทศอะไรก่อสร้าง ด้วยเทคโนโลยีอะไร และจุดก่อสร้างอยู่ตรงไหน เป็นต้น จึงเป็นต้นเหตุให้เกิดความสับสน
"ผมทำงานเกี่ยวกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติมาตลอด และถือได้ว่าเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง จึงไม่มีทางที่ผมจะสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว หากก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ตรงนั้น แต่ที่ผมเคยมีความคิดที่จะสร้างเพราะรู้ว่ามันสามารถทำได้โดยไม่มีผลกระทบ แต่บางคนไม่เข้าใจ" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตรวจเยี่ยมและพาสื่อมวลชน ชมพื้นที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 48 นายปลอดประสพ ได้นำเสนอเกี่ยวกับโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี โดยช่วงหนึ่งนายปลอดประสพได้กล่าวติดตลกว่า เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทย คือ เป็นประเทศที่ไม่มีกระเช้าไฟฟ้า เพราะประเทศอื่นที่เป็นเมืองท่องเที่ยวต่างมีกระเช้าไฟฟ้าทั้งหมด
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ล้มเลิกโครงการที่จะก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ยอดดอยหลวงเชียงดาวแล้ว เพราะเห็นว่าไม่น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีแนวความคิดที่จะสร้างกระเช้าไฟฟ้าดังกล่าว เพื่อเป็นจุดขายท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งใหม่และเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ระหว่างแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งเป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวในพื้นที่
ทั้งนี้มีเหตุผลเนื่องมาจาก การพิจารณาในเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันในระหว่างเส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอำเภอเชียงดาว ที่เป็นที่ตั้งของดอยหลวงเชียงดาว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากเพียงพอ ที่จะใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจนักท่องเที่ยว จึงเกรงว่าหากมีการลงทุนด้วยวงเงินงบประมาณที่สูงอาจจะได้ผลตอบแทนกลับมาไม่คุ้มค่า
"ตลอดเส้นทางที่ไปดอยหลวงเชียงดาว ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ดูๆ แล้วไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากพอเลย สำหรับการจะใช้เป็นแม่เหล็กดึงนักท่องเที่ยว ดังนั้นการมีเพียงกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอย่างเดียว ให้นักท่องเที่ยวนั่งรถกันไกลๆ ไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเสร็จแล้วก็กลับ มันคงจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และไม่ได้เป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้แก่การท่องเที่ยวแต่อย่างใด" นายปลอดประสพกล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ในอนาคตหากในเส้นทางระหว่างตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอำเภอเชียงดาว มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ระดับที่สามารถใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากแล้ว อาจจะมีการกลับมาทำโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาวอีกก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาองค์ประกอบและปัจจัยหลายด้านด้วย โดยเฉพาะความคุ้มค่าในการลงทุนและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกันยืนยันว่าหากมีการสร้างกระเช้าไฟฟ้าจริง จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของดอยหลวงเชียงดาวอย่างแน่นอน เพราะด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน สามารถออกแบบและก่อสร้าง ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมของพื้นที่ได้อย่างไม่มีผลกระทบ
ส่วนที่มีการคัดค้านต่อต้านโครงการนี้ในช่วงที่ผ่านมา เห็นว่าเป็นเพราะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงจึงเกิดการเข้าใจผิด เช่น การออกแบบก่อสร้าง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำเลย แต่กลับมีผู้ไปให้ข้อมูลแล้วว่า จะให้บริษัทใดจากประเทศอะไรก่อสร้าง ด้วยเทคโนโลยีอะไร และจุดก่อสร้างอยู่ตรงไหน เป็นต้น จึงเป็นต้นเหตุให้เกิดความสับสน
"ผมทำงานเกี่ยวกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติมาตลอด และถือได้ว่าเป็นนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง จึงไม่มีทางที่ผมจะสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นดอยหลวงเชียงดาว หากก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ตรงนั้น แต่ที่ผมเคยมีความคิดที่จะสร้างเพราะรู้ว่ามันสามารถทำได้โดยไม่มีผลกระทบ แต่บางคนไม่เข้าใจ" ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการตรวจเยี่ยมและพาสื่อมวลชน ชมพื้นที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 48 นายปลอดประสพ ได้นำเสนอเกี่ยวกับโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี โดยช่วงหนึ่งนายปลอดประสพได้กล่าวติดตลกว่า เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศไทย คือ เป็นประเทศที่ไม่มีกระเช้าไฟฟ้า เพราะประเทศอื่นที่เป็นเมืองท่องเที่ยวต่างมีกระเช้าไฟฟ้าทั้งหมด