xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจสรุปคดีน้องหญิงตั้งข้อหาประมาท3รุ่นพี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จงรัก” สรุปคดี“น้องหญิง” ตั้งข้อหาฐาน“ประมาท”กับ 3 รุ่นพี่ ม.บูรพา เรียกตัวสอบสวนวันนี้ เผยหลังแจ้งข้อกล่าวหาแล้วจะปล่อยตัวไปโดยไม่ต้อง ควบคุมตัวเพราะเป็นนักศึกษาต้องกลับไปเรียนต่อ ระบุการฝึกซ้อมอเมริกันเชียร์รุ่นพี่ไม่เคยมีพื้นฐานด้านการฝึกซ้อมมาก่อนทำให้รุ่นน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส

ความคืบหน้าคดี น.ส.สุพัตรา มหาอุดม หรือ "น้องหญิง" นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างซ้อมอเมริกันเชียร์จนสมองได้รับความกระทบกระเทือนอาการโคม่านั้น วานนี้ (30 มิ.ย.) พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผบช.ภ.2 เปิดเผยหลังประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวว่า เนื่องจากนายวุฒิชัย มหาอุดม บิดา"น้องหญิง"ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ "น้องหญิง" ได้รับอันตรายถึงสาหัส พนักงานสอบสวนจึงต้องดำเนินการกฎหมาย

พล.ต.ท.จงรัก กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนทราบดีว่ารุ่นพี่ทั้ง 3 คนไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ "น้องหญิง"ได้รับอันตราย แต่เมื่อกฎหมายระบุว่าแม้ไม่มีเจตนาแต่ถ้าการกระทำนั้นเข้าข่ายเป็นความประมาทก็ถือว่าเป็นความผิด ในฐานะพนักงานสอบสวนก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายบิดามารดา"น้องหญิง"ที่ต้องมานอนเฝ้าอาการบุตรสาวทุกวันจนกระทั่งถึงขณะนี้ "น้องหญิง" ก็ยังไม่รู้สึกตัว ถือเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของ"น้องหญิง"มากมายมหาศาลประมาณค่ามิได้ในทางกฎหมายจึงต้องมีผู้รับผิดชอบ

พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำรองศาสตราจารย์ ดร.สืบสาย บุญวีรบุตร อุปนายกสมาคมเชียร์ลีดเดอร์ไทย ซึ่งยืนยันว่าการฝึกซ้อมที่ถูกต้องจะต้องมีเบาะนุ่มรองรับเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการตกลงมากระแทกพื้น และผู้ปฏิบัติจะต้องมีความรู้ มีพื้นฐานทางร่างกายที่แข็งแรง ต้องผ่านการฝึกซ้อมที่เป็นขั้นตอนเช่นเดียวกับการฝึกเล่นยิมนาสติกและต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของโค้ช รวมถึงต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอในการฝึกซ้อม ซึ่งผู้ที่เล่นท่าตีลังกากลับหลังกลางอากาศควรจะให้มีการฝึกยิมนาสติกที่พื้นในการม้วนหลังให้ได้เสียก่อนเพื่อให้เกิดความชำนาญ และสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงแล้วจึงไปทำในอากาศ

ทั้งนี้ เพราะการฝึกซ้อมท่าตีลังกากลับหลังกลางอากาศนี้มีโอกาสเกิดอันตรายได้ง่ายอันเนื่องมาจากการสะบัดคอไปข้างหลัง แต่ในกรณี"น้องหญิง"รุ่นพี่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังและไม่มีพื้นฐานการเล่นยิมนาสติก ไม่มีการป้องกันความปลอดภัย อีกทั้งการซ้อมก็ทำอย่างหักโหมตั้งแต่เวลา 18.00-03.00 น.และใช้เวลาการฝึกแค่ 4 วันเท่านั้น ซึ่งเป็นเวลาที่ไม่เพียงพอต่อการปรับสภาพกล้ามเนื้อของร่างกาย ระบบประสาท จึงทำให้เกิดเหตุขึ้นเมื่อ"น้องหญิง"ฝึกการโยนแล้วตีลังกากลับหลังเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

“โดยการตีลังกาครั้งแรกไม่ครบรอบตัวหล่นลงมาก่อน รองเท้าได้เสียดสีกับหน้าอกบริเวณไหปลาร้าของรุ่นพี่ ครั้งที่ 2 ห่างห่างจากครั้งแรกประมาณ 2-3 นาที น้องหญิงถูกโยนตีลังกากลับหลังกลางอากาศ 1 รอบเมื่อตัวตกลงมาคอด้านหลังจึงสะบัดไปกระแทกกับลูกกระเดือกรุ่นพี่จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายต่อแกนสมองสาหัส”

พล.ต.ท.จงรัก กล่าวต่อว่า เมื่อได้พิจารณาแล้วจึงเห็นว่าการกระทำของรุ่นพี่ทั้ง 3 คน คือ นายนภนต์ ต่อยอด อายุ 23 ปี นายเฉลิมพล รอบรู้ อายุ 21 ปี และนายรณฤทธิ์ ไชโยแสง อายุ 23 ปี มีมูลเป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ "น้องหญิง" ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสและรุ่นพี่ทั้ง 3 คนก็มีอายุเกิน 20 ปีแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็กพนักงานสอบสวนจึงจำเป็นต้องแจ้งข้อหาแก่รุ่นพี่ทั้ง 3 คน

“ทางมหาวิทยาลัยจะพารุ่นพี่ทั้ง 3 คนมาพบพนักงานสอบสวนวันนี้ (1 ก.ค.) เวลา 13.00 น.ซึ่งเมื่อแจ้งข้อหาแล้วก็จะปล่อยตัวไปทันที ไม่ต้องมีการควบคุมตัวเพราะเป็นนักศึกษาจะต้องกลับไปเรียนต่อ หลังจากนั้นก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น