เอเอฟพี – คณะอุทธรณ์ของดับเบิลยูทีโอสนับสนุนการที่สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีชิปของไฮนิกซ์ เซมิคอนดักเตอร์ เพื่อตอบโต้ไฮนิกซ์ที่ทำผิดกฎการค้าระหว่างประเทศด้วยการรับความช่วยเหลือด้านการปรับโครงสร้างจากรัฐบาลโสมขาว
คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เปิดเผยในรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27) ว่า ได้ประกาศล้มล้างคำตัดสินก่อนหน้านี้ขององค์กรระงับข้อพิพาทของดับเบิลยูทีโอที่เอื้อประโยชน์ให้กับเกาหลีใต้
ร็อบ พอร์ตแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า “ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการพลิกผันของบรรดาผู้ผลิตสินค้าไฮเทคของสหรัฐฯ รวมถึงระบบการค้าระหว่างประเทศซึ่งต้องตั้งอยู่บนความยุติธรรม แต่รัฐบาลเกาหลีกลับให้การอุดหนุนบริษัทในประเทศอย่างไม่เป็นธรรม”
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เมืองลุงแซมเริ่มใช้มาตรการเก็บภาษีศุลกากร 44.71% กับชิปของไฮนิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในเดือนมิถุนายน 2004 โดยอ้างว่าเพื่อเป็นตอบโต้หลังจากเกาหลีใต้ฝ่าฝืนกฎการค้าของดับเบิลยูทีโอ
กล่าวคือสหรัฐฯ ชี้ว่า ไฮนิกซ์ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรรวมมูลค่า 3.25 ล้านล้านวอน (3,100 ล้านดอลลาร์) ผ่านธนาคารหลายแห่งในเกาหลีใต้ ซึ่งบางแห่งมีรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการอยู่ หลังจากที่ไฮนิกซ์เกือบล้มละลายในปี 2001
อย่างไรก็ดี แม้สหรัฐฯระบุว่า การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการให้เงินอุดหนุนโดยรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่บรรดาธนาคารโสมขาวปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ด้านไฮนิกซ์ออกมาตอบโต้คำประกาศดังกล่าวของดับเบิลยูทีโอเมื่อวานนี้ (28) ว่า ผลกระทบจากแถลงการณ์นี้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากไฮนิกซ์มีการส่งออกสินค้าโดยตรงไปสหรัฐฯไม่มากนัก และบริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในรัฐโอเรกอนเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เป็นฝ่ายชนะในกรณีพิพาทลักษณะเดียวกันนี้กับทางสหภาพยุโรป (อียู) โดยดับเบิลยูทีโอตัดสินให้อียูปฏิบัติตามกฎการค้าโลก และยกเลิกการเก็บภาษีไฮนิกซ์
คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) เปิดเผยในรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (27) ว่า ได้ประกาศล้มล้างคำตัดสินก่อนหน้านี้ขององค์กรระงับข้อพิพาทของดับเบิลยูทีโอที่เอื้อประโยชน์ให้กับเกาหลีใต้
ร็อบ พอร์ตแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า “ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการพลิกผันของบรรดาผู้ผลิตสินค้าไฮเทคของสหรัฐฯ รวมถึงระบบการค้าระหว่างประเทศซึ่งต้องตั้งอยู่บนความยุติธรรม แต่รัฐบาลเกาหลีกลับให้การอุดหนุนบริษัทในประเทศอย่างไม่เป็นธรรม”
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เมืองลุงแซมเริ่มใช้มาตรการเก็บภาษีศุลกากร 44.71% กับชิปของไฮนิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในเดือนมิถุนายน 2004 โดยอ้างว่าเพื่อเป็นตอบโต้หลังจากเกาหลีใต้ฝ่าฝืนกฎการค้าของดับเบิลยูทีโอ
กล่าวคือสหรัฐฯ ชี้ว่า ไฮนิกซ์ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรรวมมูลค่า 3.25 ล้านล้านวอน (3,100 ล้านดอลลาร์) ผ่านธนาคารหลายแห่งในเกาหลีใต้ ซึ่งบางแห่งมีรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการอยู่ หลังจากที่ไฮนิกซ์เกือบล้มละลายในปี 2001
อย่างไรก็ดี แม้สหรัฐฯระบุว่า การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการให้เงินอุดหนุนโดยรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่บรรดาธนาคารโสมขาวปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่ได้เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ด้านไฮนิกซ์ออกมาตอบโต้คำประกาศดังกล่าวของดับเบิลยูทีโอเมื่อวานนี้ (28) ว่า ผลกระทบจากแถลงการณ์นี้มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากไฮนิกซ์มีการส่งออกสินค้าโดยตรงไปสหรัฐฯไม่มากนัก และบริษัทมีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในรัฐโอเรกอนเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในสหรัฐฯ อยู่แล้ว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เป็นฝ่ายชนะในกรณีพิพาทลักษณะเดียวกันนี้กับทางสหภาพยุโรป (อียู) โดยดับเบิลยูทีโอตัดสินให้อียูปฏิบัติตามกฎการค้าโลก และยกเลิกการเก็บภาษีไฮนิกซ์