เฮรัลด์ ทรีบูน – โพลชี้นักลงทุนอเมริกันจำนวนมากลังเลที่จะลงทุนในตลาดต่างแดน แม้ดัชนีหลักในฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ บวกเพิ่มไปแล้วอย่างต่ำ 5% ในปีนี้ เทียบกับแค่ 0.3% สำหรับดัชนีสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส 500 ของนิวยอร์ก
หลักฐานแสดงถึงผลงานที่ดีกว่าของตลาดหุ้นนอกสหรัฐฯ ยังรวมถึงการที่หุ้น 8 ใน 10 ในดัชนีโลกของมอร์แกน สแตนเลย์ แคปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนลที่ดีดขึ้น ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่หุ้นของบริษัทอเมริกัน ขณะที่กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นของสหรัฐฯ ยกเว้นกองทุนจำเพาะภายในอุตสาหกรรม คือ ที. โรว์ ไพรซ์ อิเมิร์จจิง ยุโรป แอนด์ เมดิเตอร์เรเนียน ฟันด์ ที่ให้ผลตอบแทน 20%
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจของอเมริกัน เอกซ์เพรส ไฟแนนเชียล แอดไวเซอร์ ที่จัดทำโดยบริษัทวิจัยตลาด โนป เวิลด์ พบว่านักลงทุนอเมริกัน 65% มองว่ากองทุนรวมที่ลงทุนระหว่างประเทศมีความเสี่ยงกว่ากองทุนที่ลงทุนกับหุ้นของบริษัทอเมริกันเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีนักลงทุนไม่ถึงครึ่งในการสำรวจ ที่ถือหุ้นในกองทุนระหว่างประเทศ โดยการสำรวจนี้จัดทำขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ครอบคลุมนักลงทุนอเมริกัน 601 คนที่มีสินทรัพย์รายละ 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป
เดวิด จอย รองกรรมการผู้จัดการยุทธศาสตร์ตลาดทุนของอเมริกัน เอกซ์เพรส ไฟแนนเชียล แอดไวเซอร์ อธิบายว่าความไม่คุ้นเคยกับบริษัทต่างชาติมีบทบาทในความคิดของนักลงทุนอเมริกัน มากกว่าแนวโน้มการได้ผลตอบแทนสูงๆ นอกเหนือจากนั้น นักลงทุนยังกลัวว่าจะมีอำนาจควบคุมน้อย
อนึ่ง ปกติแล้วจอยจะแนะนำให้ลูกค้าลงทุนนอกประเทศราว 20-25% ของพอร์ต แต่หากอยากได้ผลตอบแทนสูงสุด เขาบอกว่าต้องเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็นอย่างน้อย 40%
นับจากการสำรวจเสร็จสิ้น อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ไฟแนนเชียลได้พยายามโปรโมทการลงทุนนอกสหรัฐฯเชิงรุกมากขึ้นโดยมีแผนแตกบริษัทแห่งนี้ในช่วงไตรมาส 3 และตั้งชื่อธุรกิจใหม่ว่า อเมริไพรซ์ ไฟแนนเชียล
ด้านแมรี่ ดีเธอเรจ ที่ปรึกษาการเงินของสมิธ บาร์นีย์ในนิวเจอร์ซีย์ เปิดเผยว่า มีสินทรัพย์ของลูกค้าแค่ 12% จาก 675 ล้านดอลลาร์ที่นำไปลงทุนในหุ้นและพันธบัตรต่างชาติ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากยังลังเล แม้เธอแสดงตารางให้เห็นกันจะๆ ถึงความแตกต่างของผลตอบแทนของแต่ละดัชนีเป็นประจำทุกเดือนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทต่างแดนยังต้องวัดใจกับแนวโน้มความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินตราสกุลอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น การบวกเพิ่ม 10.5% ของดัชนี CAC 40 ในตลาดปารีสในปีนี้ กลับกลายเป็นการติดลบ 0.8% เมื่อแปลงเป็นดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินยูโรอ่อนลง 10%
ซักคารี อีแกน ผู้จัดการกองทุนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ของโคลัมเบีย เอคอร์น อินเตอร์เนชั่นแนล อิควิตี้ ฟันด์ในชิคาโก ปิดท้ายว่า “อัตราแลกเปลี่ยนมีบทบาทสำคัญทีเดียว”
หลักฐานแสดงถึงผลงานที่ดีกว่าของตลาดหุ้นนอกสหรัฐฯ ยังรวมถึงการที่หุ้น 8 ใน 10 ในดัชนีโลกของมอร์แกน สแตนเลย์ แคปิตอล อินเตอร์เนชั่นแนลที่ดีดขึ้น ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่หุ้นของบริษัทอเมริกัน ขณะที่กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นของสหรัฐฯ ยกเว้นกองทุนจำเพาะภายในอุตสาหกรรม คือ ที. โรว์ ไพรซ์ อิเมิร์จจิง ยุโรป แอนด์ เมดิเตอร์เรเนียน ฟันด์ ที่ให้ผลตอบแทน 20%
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจของอเมริกัน เอกซ์เพรส ไฟแนนเชียล แอดไวเซอร์ ที่จัดทำโดยบริษัทวิจัยตลาด โนป เวิลด์ พบว่านักลงทุนอเมริกัน 65% มองว่ากองทุนรวมที่ลงทุนระหว่างประเทศมีความเสี่ยงกว่ากองทุนที่ลงทุนกับหุ้นของบริษัทอเมริกันเท่านั้น
นอกจากนั้น ยังมีนักลงทุนไม่ถึงครึ่งในการสำรวจ ที่ถือหุ้นในกองทุนระหว่างประเทศ โดยการสำรวจนี้จัดทำขึ้นในเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ครอบคลุมนักลงทุนอเมริกัน 601 คนที่มีสินทรัพย์รายละ 100,000 ดอลลาร์ขึ้นไป
เดวิด จอย รองกรรมการผู้จัดการยุทธศาสตร์ตลาดทุนของอเมริกัน เอกซ์เพรส ไฟแนนเชียล แอดไวเซอร์ อธิบายว่าความไม่คุ้นเคยกับบริษัทต่างชาติมีบทบาทในความคิดของนักลงทุนอเมริกัน มากกว่าแนวโน้มการได้ผลตอบแทนสูงๆ นอกเหนือจากนั้น นักลงทุนยังกลัวว่าจะมีอำนาจควบคุมน้อย
อนึ่ง ปกติแล้วจอยจะแนะนำให้ลูกค้าลงทุนนอกประเทศราว 20-25% ของพอร์ต แต่หากอยากได้ผลตอบแทนสูงสุด เขาบอกว่าต้องเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็นอย่างน้อย 40%
นับจากการสำรวจเสร็จสิ้น อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ไฟแนนเชียลได้พยายามโปรโมทการลงทุนนอกสหรัฐฯเชิงรุกมากขึ้นโดยมีแผนแตกบริษัทแห่งนี้ในช่วงไตรมาส 3 และตั้งชื่อธุรกิจใหม่ว่า อเมริไพรซ์ ไฟแนนเชียล
ด้านแมรี่ ดีเธอเรจ ที่ปรึกษาการเงินของสมิธ บาร์นีย์ในนิวเจอร์ซีย์ เปิดเผยว่า มีสินทรัพย์ของลูกค้าแค่ 12% จาก 675 ล้านดอลลาร์ที่นำไปลงทุนในหุ้นและพันธบัตรต่างชาติ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากยังลังเล แม้เธอแสดงตารางให้เห็นกันจะๆ ถึงความแตกต่างของผลตอบแทนของแต่ละดัชนีเป็นประจำทุกเดือนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทต่างแดนยังต้องวัดใจกับแนวโน้มความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินตราสกุลอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้มูลค่าการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ทั้งนั้น ตัวอย่างเช่น การบวกเพิ่ม 10.5% ของดัชนี CAC 40 ในตลาดปารีสในปีนี้ กลับกลายเป็นการติดลบ 0.8% เมื่อแปลงเป็นดอลลาร์ เนื่องจากค่าเงินยูโรอ่อนลง 10%
ซักคารี อีแกน ผู้จัดการกองทุนมูลค่า 2,200 ล้านดอลลาร์ของโคลัมเบีย เอคอร์น อินเตอร์เนชั่นแนล อิควิตี้ ฟันด์ในชิคาโก ปิดท้ายว่า “อัตราแลกเปลี่ยนมีบทบาทสำคัญทีเดียว”