xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯมาเลย์หนุนตลาดร่วมอิสลาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวีแห่งมาเลเซียเรียกร้องให้ประเทศมุสลิมขจัดสิ่งกีดกันทางภาษี และเร่งสร้างตลาดร่วมอิสลาม

อับดุลเลาะห์ กล่าวกับบรรดารัฐมนตรีคลังและเศรษฐกิจขององค์การการประชุมมุสลิม (โอไอซี) วานนี้ (23) ว่า มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนต้องสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของโลกมุสลิม โดยระบุว่า “พวกเราควรส่งเสริมและรวมเป็นตลาดเดียวกัน ตลอดจนลดกำแพงภาษีและมาตรการกีดกันอื่นๆ”

เขาอธิบายว่า “วิธีการคือ การส่งเสริมข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ภายในกลุ่มประเทศสมาชิก พร้อมกับดำเนินการสร้างตลาดร่วมอิสลาม”

ทั้งนี้ผู้นำแดนเสือเหลืองแสดงความเสียใจที่สมาชิกโอไอซี 57 ประเทศไม่มีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งระหว่างกัน

“ในอดีต การค้าคือสัญญาผูกพันอันแข็งแกร่งของชุมชนมุสลิม แต่ทุกวันนี้ ข้อผูกพันดังกล่าวนั้นอ่อนแอมาก” อับดุลเลาะห์กล่าวระหว่างการเปิดงานประชุมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันของธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (ไอดีบี) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการเงินของโอไอซี

เขาอธิบายว่า การค้าระหว่างกันของประเทศโอไอซีมีเพียง 12% ของการค้าทั้งหมดของโอไอซี และเมื่อรวมกันแล้วคิดเป็นเพียง 7.0% ของยอดการค้าโลก ทั้งๆที่โอไอซีมีทรัพยากรถึง 60% ของทรัพยากรธรรมชาติทั่วโลก

นอกจากนี้ สมาชิกขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) 10 จาก 11 ประเทศ เป็นสมาชิกของโอไอซี โดยมีเวเนซุเอลาประเทศเดียวที่ไม่ใช่สมาชิกในกลุ่ม

อนึ่ง มาเลเซียซึ่งเป็นประธานโอไอซีปัจจุบันได้พยายามผลักดันการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอันแนบแน่นระหว่างโอไอซี เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงทางการค้าและส่งเสริมภาคการเงินอิสลามของตน

เมื่อต้นสัปดาห์ มาเลเซียประกาศว่า ในขั้นแรกของการรวมกลุ่มกัน สมาชิก 14 ประเทศตกลงว่าจะใช้ระบบการค้าสิทธิพิเศษ ส่วนประเทศที่เหลือก็จะลงนามใช้ระบบดังกล่าวภายหลังซึ่งอาจเป็นช่วงปลายปีนี้

ภายใต้ระบบนี้ แต่ละประเทศจะลดกำแพงภาษี 7% ของกลุ่มสินค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไปใน 3 ขั้นตอน ขณะเดียวกันก็จะมีช่องทางพิเศษเร่งด่วนด้วย

อับดุลเลาะห์กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากการระดมเงินจากตลาดการเงินเพื่อช่วยเรื่องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจแล้ว ไอดีบีอาจระดมทุนจากแหล่งเงินท้องถิ่นในประเทศสมาชิก พร้อมชี้ว่า “นี่คือเรื่องสำคัญเพราะความต้องการทางการเงินมีสูงมาก และไม่สามารถตอบสนองได้ด้วยวิธีการดั้งเดิม”

“เป็นที่คาดกันว่า ประเทศสมาชิกไอดีบีจะต้องการเงินทุนเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเดียวเกือบ 741,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า”

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแดนเสือเหลืองเสนอแนะให้ไอดีบีออกพันธบัตรโครงสร้างพื้นฐานของโอไอซี ซึ่งเป็นช่องทางให้บรรดาธนาคารกลางของประเทศสมาชิกโอไอซีเข้ามาลงทุน โดยผลตอบแทนที่ได้ก็จะนำไปใช้ในโครงการหลักๆของประเทศสมาชิก

ด้านนอร์ โมฮาเหม็ด ยักคอป รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังเพิ่มเติมว่า มาเลเซียจะผลักดันการออกพันธบัตรดังกล่าวมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์
กำลังโหลดความคิดเห็น