เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีแดนเสือเหลืองเผย ลัทธิความรุนแรงในโลกมุสลิมจะหมดไปโดยการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมประกาศให้เงินช่วยเหลือภาคการเงินอิสลาม 200 ล้านริงกิต
อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวระหว่างงานประชุมที่จัดขึ้นก่อนการประชุมของคณะกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (ไอดีบี) วานนี้ (22) ว่า “ทางออกสำคัญของปัญหาต่างๆที่รุมเร้าประเทศมุสลิมในปัจจุบันคือ การส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน”
“ผมเชื่อว่า พวกเราสามารถแก้ปัญหาลัทธิความรุนแรงและการก่อการร้ายได้ โดยการพัฒนาในวงกว้างที่ดีขึ้น”
ผู้นำแดนเสือเหลืองกล่าวต่อว่า ความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันมีอยู่ทั่วไปในหลายประเทศโลกมุสลิม อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องอัตราการอ่านออกเขียนได้ต่ำ ขาดการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และโครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่
เขาแจกแจงว่า ในบรรดา 57 ประเทศสมาชิกขององค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) มี 27 ประเทศที่ธนาคารโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำ และ 21 ประเทศเป็นประเทศที่มีหนี้สินขั้นรุนแรง
“ประเทศมุสลิมบางประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาสังคมและเศรษฐกิจอย่างหนัก และถูกผลักดันให้พึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศ”
ทั้งนี้เขาแนะว่า “ทางแก้ทางเดียวคือ การส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นใจว่าผลประโยชน์จากการพัฒนาได้รับการแบ่งปันร่วมกัน เพื่อสร้างความก้าวหน้าด้านการเมือง สังคม และศาสนา”
นอกจากนี้อับดุลเลาะห์ประกาศว่า ธนาคารกลางมาเลเซียจะให้เงิน 200 ล้านริงกิต (53 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือการพัฒนาของภาคการเงินอิสลาม โดยเงินดังกล่าวจะนำไปใช้ด้านการวิจัยทางการเงิน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุนการศึกษา โครงการอบรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของบรรดาผู้ทรงความรู้ด้านศาสนา
อับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวระหว่างงานประชุมที่จัดขึ้นก่อนการประชุมของคณะกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (ไอดีบี) วานนี้ (22) ว่า “ทางออกสำคัญของปัญหาต่างๆที่รุมเร้าประเทศมุสลิมในปัจจุบันคือ การส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืน”
“ผมเชื่อว่า พวกเราสามารถแก้ปัญหาลัทธิความรุนแรงและการก่อการร้ายได้ โดยการพัฒนาในวงกว้างที่ดีขึ้น”
ผู้นำแดนเสือเหลืองกล่าวต่อว่า ความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันมีอยู่ทั่วไปในหลายประเทศโลกมุสลิม อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องอัตราการอ่านออกเขียนได้ต่ำ ขาดการพัฒนาทรัพยากรบุคคล และโครงสร้างพื้นฐานที่ย่ำแย่
เขาแจกแจงว่า ในบรรดา 57 ประเทศสมาชิกขององค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) มี 27 ประเทศที่ธนาคารโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำ และ 21 ประเทศเป็นประเทศที่มีหนี้สินขั้นรุนแรง
“ประเทศมุสลิมบางประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาสังคมและเศรษฐกิจอย่างหนัก และถูกผลักดันให้พึ่งพาความช่วยเหลือจากต่างประเทศ”
ทั้งนี้เขาแนะว่า “ทางแก้ทางเดียวคือ การส่งเสริมความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นใจว่าผลประโยชน์จากการพัฒนาได้รับการแบ่งปันร่วมกัน เพื่อสร้างความก้าวหน้าด้านการเมือง สังคม และศาสนา”
นอกจากนี้อับดุลเลาะห์ประกาศว่า ธนาคารกลางมาเลเซียจะให้เงิน 200 ล้านริงกิต (53 ล้านดอลลาร์) เพื่อช่วยเหลือการพัฒนาของภาคการเงินอิสลาม โดยเงินดังกล่าวจะนำไปใช้ด้านการวิจัยทางการเงิน และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุนการศึกษา โครงการอบรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของบรรดาผู้ทรงความรู้ด้านศาสนา