ผกก.สน.บางขุนเทียน แจ้งความเอาผิด รองปลัดยุติธรรมและพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ฐานหมิ่นประมาท กล่าวหาวิสามัญฯ นักแม่นปืนออกรายการโทรทัศน์ "มานิตย์" โต้ตร.ไม่มีกึ๋น" ไม่ยอมให้ความร่วมมือสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เตรียมฟ้องกลับ ด้านรองผบ.ตร."อำนวย" ขอร้องยุติศึกพาดพิงระหว่างองค์กร
วานนี้ (21 มิ.ย.) พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิทยา สิงห์จานุสงค์ ร.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน ด.ต.บุญยัง เมืองกระจ่าง และ ส.ต.อ.สุธรรม ทีปรักษ์พันธุ์ ผบ.หมู่งานสืบสวนสอบสวน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ
โดยระบุว่า นายมานิตย์ และ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ ถอดรหัสของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายสุนทร วงษ์ดาว นักแม่นปืน เสียชีวิตเพราะถูกวิสามัญฆาตกรรม ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย การให้ ข้อมูลดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ดูรายการ เข้าใจผิดว่าชุดสืบสวนของ สน.บางขุนเทียน เป็นผู้ลงมือวิสามัญฆาตกรรม ทั้งที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน ส่งผลให้ตน และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 4 นาย ถูกตั้งกรรมการสอบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายสุนทร
ทั้งนี้ การแจ้งความเอาผิดครั้งนี้ เพียงต้องการเรียกศักดิ์ศรี ความเป็นธรรม และให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
ด้าน นายมานิตย์ กล่าวว่าไม่ได้วิตกกังวลใจ หากศาลรับฟ้องก็จะไปให้การตามขั้นตอน ไม่มีปัญหาอะไร เพราะสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปชันสูตรศพนายสุนทร ตามที่ญาติของนายสุนทร ร้องขอต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ตรวจชันสูตรศพ และทุกอย่างทำตามหน้าที่และขั้นตอน เนื่องจากขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยังไม่ได้สรุปว่า นายสุนทร ยิงตัวตายหรือถูกฆาตกรรม และยังรอผลการสอบสวนประเด็นอาวุธปืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ส่งหลักฐานมาให้ สถาบันจึงตรวจสอบ จากพยานหลักฐานแวดล้อมอื่น ซึ่งถือว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะที่ผ่านมาหลายคดีตำรวจ ก็ไม่เคยส่งหลักฐานให้สถาบัน ก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหา
“ทำไมตำรวจต้องรีบออกมาโวยวาย การแจ้งความของตำรวจถือว่าไม่มีกึ๋น เพราะการเข้าไปทำงานคดีดังกล่าวของกระทรวงยุติธรรม เป็นการเข้าไปตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความจริง ที่ประชาชนทั่วไป ชาวบ้านเขาสงสัย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำอย่างนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมหรือ สิ่งที่เคยทำกันมา นั้นน่าสงสัย ดูพฤติการณ์ตั้งแต่ต้น ทางเรา เคยส่งหนังสือเพื่อขอหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้ง อาวุธปืน ปลอกกระสุน ของกลาง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ”
นายมานิตย์กล่าวต่อว่า หากตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ถือกฎหมายอยู่ในมือ เชื่อว่า การกระทำของตัวเองถูกต้อง ก็ต้องพร้อมที่จะให้หน่วยงานอื่น เข้ามาตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความจริง ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม แม้แต่กระบวนการของศาล อัยการเอง ก็ต้องให้โอกาสทุกฝ่ายพิสูจน์ตัวเอง โดยยึดหลักให้มีการพิสูจน์ความจริง จนสิ้นสงสัย จึงจะสามารถพิจารณาดำเนินคดีหรือลงโทษได้ หากไม่มีพยานหลักฐานยืนยันในกระบวนการยุติธรรม ก็จะไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิด ใครถูก
“ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยพูดเลยว่าเป็นการฆาตกรรม และไม่ได้ให้ความสนใจกับเด็กอ่อนหัด มีความรู้งูๆปลาๆ เดี๋ยวจะถูกฟ้องกลับ”
ด้าน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่าได้พิสูจน์การเสียชีวิต ของนายสุนทร ตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ และแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ ยืนยันไม่เคยให้ข่าวว่า นายสุนทร ถูกวิสามัญฆาตกรรม หรือเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด ข่าวที่ออกมาเพราะเข้าใจกันไปเอง ดังนั้น การถูกแจ้งความดำเนินคดีถือเป็นเรื่องปกติมากโดยไม่คิดฟ้องกลับ เพราะเชื่อว่า ใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืน สำหรับความคืบหน้าการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ขณะนี้รอหลักฐานชิ้นสำคัญ ก็จะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้แล้ว
ขณะที่ พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การแจ้งความเอาผิด พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายมานิตย์ เป็นไปตามสิทธิที่สามารถกระทำได้ ไม่ควรมอง เป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าทั้งสองฝ่ายไม่คว พยายาม ลดความน่าเชื่อถือต่อกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ซึ่งตำรวจ สน.บางขุนเทียน ไม่มีหน้าที่สรุปคดี เป็นหน้าที่ของตำรวจ สภ.อ.บางใหญ่ เจ้าของคดี ส่วนทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ควรออกมาพาดพิงตำรวจหากไม่มีหลักฐาน
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 3-4 วัน จะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายสุนทร ได้ โดยหากผลการสอบสวนเป็นการฆ่าตัวตาย พนักงานสอบสวนจะเสนอผลให้ ผู้ว่าราชการ จังหวัดนนทบุรี รับทราบ แต่หากเป็นการฆาตกรรมก็จะส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป
วานนี้ (21 มิ.ย.) พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิทยา สิงห์จานุสงค์ ร.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน ด.ต.บุญยัง เมืองกระจ่าง และ ส.ต.อ.สุธรรม ทีปรักษ์พันธุ์ ผบ.หมู่งานสืบสวนสอบสวน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายมานิตย์ สุธาพร รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาผ่านสื่อสาธารณะ
โดยระบุว่า นายมานิตย์ และ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการ ถอดรหัสของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี ออกอากาศเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า นายสุนทร วงษ์ดาว นักแม่นปืน เสียชีวิตเพราะถูกวิสามัญฆาตกรรม ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย การให้ ข้อมูลดังกล่าวทำให้ประชาชนที่ดูรายการ เข้าใจผิดว่าชุดสืบสวนของ สน.บางขุนเทียน เป็นผู้ลงมือวิสามัญฆาตกรรม ทั้งที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ชัดเจน ส่งผลให้ตน และผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 4 นาย ถูกตั้งกรรมการสอบเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายสุนทร
ทั้งนี้ การแจ้งความเอาผิดครั้งนี้ เพียงต้องการเรียกศักดิ์ศรี ความเป็นธรรม และให้ประชาชนเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
ด้าน นายมานิตย์ กล่าวว่าไม่ได้วิตกกังวลใจ หากศาลรับฟ้องก็จะไปให้การตามขั้นตอน ไม่มีปัญหาอะไร เพราะสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปชันสูตรศพนายสุนทร ตามที่ญาติของนายสุนทร ร้องขอต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ตรวจชันสูตรศพ และทุกอย่างทำตามหน้าที่และขั้นตอน เนื่องจากขณะนี้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยังไม่ได้สรุปว่า นายสุนทร ยิงตัวตายหรือถูกฆาตกรรม และยังรอผลการสอบสวนประเด็นอาวุธปืน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ส่งหลักฐานมาให้ สถาบันจึงตรวจสอบ จากพยานหลักฐานแวดล้อมอื่น ซึ่งถือว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะที่ผ่านมาหลายคดีตำรวจ ก็ไม่เคยส่งหลักฐานให้สถาบัน ก็สามารถทำได้ไม่มีปัญหา
“ทำไมตำรวจต้องรีบออกมาโวยวาย การแจ้งความของตำรวจถือว่าไม่มีกึ๋น เพราะการเข้าไปทำงานคดีดังกล่าวของกระทรวงยุติธรรม เป็นการเข้าไปตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความจริง ที่ประชาชนทั่วไป ชาวบ้านเขาสงสัย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำอย่างนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมหรือ สิ่งที่เคยทำกันมา นั้นน่าสงสัย ดูพฤติการณ์ตั้งแต่ต้น ทางเรา เคยส่งหนังสือเพื่อขอหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้ง อาวุธปืน ปลอกกระสุน ของกลาง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ”
นายมานิตย์กล่าวต่อว่า หากตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ถือกฎหมายอยู่ในมือ เชื่อว่า การกระทำของตัวเองถูกต้อง ก็ต้องพร้อมที่จะให้หน่วยงานอื่น เข้ามาตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความจริง ตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม แม้แต่กระบวนการของศาล อัยการเอง ก็ต้องให้โอกาสทุกฝ่ายพิสูจน์ตัวเอง โดยยึดหลักให้มีการพิสูจน์ความจริง จนสิ้นสงสัย จึงจะสามารถพิจารณาดำเนินคดีหรือลงโทษได้ หากไม่มีพยานหลักฐานยืนยันในกระบวนการยุติธรรม ก็จะไม่สามารถบอกได้ว่าใครผิด ใครถูก
“ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยพูดเลยว่าเป็นการฆาตกรรม และไม่ได้ให้ความสนใจกับเด็กอ่อนหัด มีความรู้งูๆปลาๆ เดี๋ยวจะถูกฟ้องกลับ”
ด้าน พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่าได้พิสูจน์การเสียชีวิต ของนายสุนทร ตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ และแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้ ยืนยันไม่เคยให้ข่าวว่า นายสุนทร ถูกวิสามัญฆาตกรรม หรือเสียชีวิตเพราะสาเหตุใด ข่าวที่ออกมาเพราะเข้าใจกันไปเอง ดังนั้น การถูกแจ้งความดำเนินคดีถือเป็นเรื่องปกติมากโดยไม่คิดฟ้องกลับ เพราะเชื่อว่า ใครทำอะไรก็จะได้สิ่งนั้นกลับคืน สำหรับความคืบหน้าการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ขณะนี้รอหลักฐานชิ้นสำคัญ ก็จะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงได้แล้ว
ขณะที่ พล.ต.อ.อำนวย เพชรศิริ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การแจ้งความเอาผิด พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ และนายมานิตย์ เป็นไปตามสิทธิที่สามารถกระทำได้ ไม่ควรมอง เป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าทั้งสองฝ่ายไม่คว พยายาม ลดความน่าเชื่อถือต่อกัน ขอให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ซึ่งตำรวจ สน.บางขุนเทียน ไม่มีหน้าที่สรุปคดี เป็นหน้าที่ของตำรวจ สภ.อ.บางใหญ่ เจ้าของคดี ส่วนทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ควรออกมาพาดพิงตำรวจหากไม่มีหลักฐาน
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 3-4 วัน จะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายสุนทร ได้ โดยหากผลการสอบสวนเป็นการฆ่าตัวตาย พนักงานสอบสวนจะเสนอผลให้ ผู้ว่าราชการ จังหวัดนนทบุรี รับทราบ แต่หากเป็นการฆาตกรรมก็จะส่งให้อัยการพิจารณาต่อไป