ไทยรักไทยประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อเลือกคณะผู้บริหารพรรค และกรรมการจริยธรรม วันนี้ "แม้ว"โยนคณะกรรมการบริหารพรรคตัดสิน"ป๋าเหนาะ"อยู่หรือไป ปฏิเสธส่ง"พายัพ"เคลียร์ใจ ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ มั่นใจ ปัญหาเกาเหลา ไม่บานปลาย ระบุเรื่องแค่นี้ไม่จำเป็นต้องรบกวนแม่ยายนายกเป็นกาวใจ ด้าน"วังน้ำเย็น"เชื่อนายกฯไม่กล้าปลด"ป๋าเหนาะ"จากประธานที่ปรึกษาพรรค
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยนัดแรกในวันนี้(21 มิ.ย.)ว่า จะมีการตั้งคณะผู้บริหารพรรค 10 กว่าคน และตั้งคณะกรรมการจริยธรรมอีก 10 กว่าคน ส่วนนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค จะหลุดจากคณะผู้บริหารพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารจะประชุมกัน สำหรับกรณ๊ที่นายพายัพ ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ไปพบนายเสนาะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ใช้ให้ไป
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายเสนาะ ว่า เชื่อว่าถึงที่สุดแล้วทุกฝ่ายจะเข้าใจกัน เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเท่านั้น และในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ เพื่อเลือกคณะผู้บริหารพรรค ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการกันไป ส่วนใครจะได้รับ หรือไม่ได้รับตำแหน่งอะไร จะพอใจหรือไม่นั้น ก็ต้องเคารพมติที่ประชุม
"มีคนตั้งคำถามเยอะว่า ถ้าท่านเสนาะไม่ได้ตำแหน่งจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราบอกได้เพียงว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุม เนื่องจากคณะผู้บริหารพรรคชุดเก่าหมดวาระลง"
รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มั่นใจว่า อีกไม่นานทุกปัญหาจะยุติ และไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปรบกวนนางพจนีย์ ดามาพงศ์ มารดาคุณหญิงพจนมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี เพื่อมาเป็นกาวใจ เพราะเรื่องในพรรคสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง เช่นเดียวกับกรณีที่นายพายัพ ชินวัตร สส.เชียงใหม่ น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบนายเสนาะ ก็เป็นการแสดงออกของคนที่ต้องการให้เกิดความปรองดอง ซึ่งทุกฝ่ายก็มีความปรารถนาดี บรรยากาศเช่นนี้จะนำไปสู่ความกลมเกลียวในที่สุด
นายภิมุข สิมะโรจน์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคในวันนี้ว่า จะพิเศษกว่าปกติตรงที่ นอกจากจะทดลองย้ายไปประชุมที่ตึกไอเอฟซีที ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แทนอาคารชินวัตร 3 แล้ว ยังมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 119 คน ที่ผ่านการรับรองจาก กกต.เป็นครั้งแรก สำหรับกำหนดการ เริ่มจากเวลา 13.00น. เป็นการประชุม ส.ส.ตามรายภาค จากนั้นเวลา 14.30 น. ประชุมรวม กระทั่งเวลา 16.30 น. จึงเป็นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยวาระการประชุมมีด้วยกัน 4 เรื่อง คือ 1.ประธานแจ้งให้ทราบ คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะพูดถึงเรื่องที่ทำการใหม่ของพรรค 2.แจ้งวาระรับรองรายงานการประชุม 3.วาระพิจารณาโครงสร้างพรรค โดยที่น่าสนใจมี 2 เรื่อง คือ เรื่องโครงสร้างผู้บริหารพรรค ซึ่งตามระเบียบพรรคกำหนดไว้ 19 คน ขณะที่ปัจจุบันมี 13 คน และเรื่องโครงสร้างคณะกรรมการจริยธรรมพรรค ที่ปัจจุบันมี 5 คน มี นายสมชาย สุนทรวัฒน์ เป็นประธาน ทั้ง 2 เรื่องจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือไม่ จะลดหรือเพิ่มตำแหน่งใด ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก
นายสุพร อัตถาวงศ์ ส.ส.นครราชสีมา กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนจะเสนอต่อที่ประชุม ถึงมาตรการดูแลส.ส.ที่มีพฤติกรรมสร้างความเสื่อมเสียหายให้พรรค โดยจะเน้นย้ำให้กรรมการด้านจริยธรรมที่พรรคตั้งขึ้นมาใหม่ ต้องออกกฎข้อบังคับและมาตรการควบคุมส.ส.ทุกคนอย่างเข้มงวด และโดยเท่าเทียม ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้อาวุโส หรือเด็ก เพราะในเมื่อทุกคนเป็นผู้แทนก็ย่อมเท่าเทียมเหมือนกันหมด ขณะนี้พรรคกำลังขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง ตนไม่ยอมเด็ดขาดให้ใครมาสร้างความแตกแยกและสร้างความเสื่อมเสียต่อพรรคอีก หากใครไม่ทำตามมติ หรือมีท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ร่วมกับพรรคอีกต่อไป ก็สมควรออกไปจากพรรคไทยรักไทย แล้วไปหาพรรคอื่นที่เห็นว่ามีอุดมการณ์เดียวกับตัวเองอยู่แทน
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง ยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้านพัก โดยไม่มี ส.ส.คนใดเข้าพบ ขณะที่นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภริยานายเสนาะ ก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งขอร้องผู้สื่อข่าวอย่ามาทำข่าวที่บ้านอีก
รายงานข่าวจากกลุ่มวังน้ำเย็น เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ส.ส.ในกลุ่มประมาณ 10 กว่าคนได้นัดหารือเพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์ถึงเรื่องการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อ นายเสนาะ โดยส.ส.ในกลุ่มจะจับตาประชุมดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ก็เชื่อว่านายกฯจะไม่บรรจุวาระขับไล่นายเสนาะออกจากพรรค หรือลดตำแหน่งอย่างแน่นอน แต่หากมีกรรมการบริหารพรรคคนใดเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ทางกลุ่มก็ยังมั่นใจว่า การกระทำของนายเสนาะ ที่ลุกขึ้นอภิปรายในสภาในวันประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ไม่ได้กระทำผิดข้อกฎบังคับของพรรค เพราะเป็นการใช้เอกสิทธิ์ในฐานะส.ส. อีกทั้งในวันลงคะแนน นายเสนาะ ไม่ได้อยู่ใช้สิทธิโหวต จึงไม่ใช่การกระทำที่ขัดต่อมติพรรค ดังนั้นพรรคจะขับไล่นายเสนาะไม่ได้ ส่วนเหตุการณ์ใน มสธ. ที่นายเสนาะ พูดถึงนายกฯด้วยคำพูดรุนแรง ทางกลุ่มไม่ค่อยวิตกในเรื่องนี้ โดยเห็นว่านายเสนาะและนายกฯ จะทำความเข้าใจกันได้เอง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยนัดแรกในวันนี้(21 มิ.ย.)ว่า จะมีการตั้งคณะผู้บริหารพรรค 10 กว่าคน และตั้งคณะกรรมการจริยธรรมอีก 10 กว่าคน ส่วนนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค จะหลุดจากคณะผู้บริหารพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารจะประชุมกัน สำหรับกรณ๊ที่นายพายัพ ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย ไปพบนายเสนาะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ใช้ให้ไป
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีความขัดแย้งระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายเสนาะ ว่า เชื่อว่าถึงที่สุดแล้วทุกฝ่ายจะเข้าใจกัน เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันเท่านั้น และในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ เพื่อเลือกคณะผู้บริหารพรรค ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการกันไป ส่วนใครจะได้รับ หรือไม่ได้รับตำแหน่งอะไร จะพอใจหรือไม่นั้น ก็ต้องเคารพมติที่ประชุม
"มีคนตั้งคำถามเยอะว่า ถ้าท่านเสนาะไม่ได้ตำแหน่งจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราบอกได้เพียงว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติของที่ประชุม เนื่องจากคณะผู้บริหารพรรคชุดเก่าหมดวาระลง"
รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย มั่นใจว่า อีกไม่นานทุกปัญหาจะยุติ และไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปรบกวนนางพจนีย์ ดามาพงศ์ มารดาคุณหญิงพจนมาน ชินวัตร ภริยานายกรัฐมนตรี เพื่อมาเป็นกาวใจ เพราะเรื่องในพรรคสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง เช่นเดียวกับกรณีที่นายพายัพ ชินวัตร สส.เชียงใหม่ น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าพบนายเสนาะ ก็เป็นการแสดงออกของคนที่ต้องการให้เกิดความปรองดอง ซึ่งทุกฝ่ายก็มีความปรารถนาดี บรรยากาศเช่นนี้จะนำไปสู่ความกลมเกลียวในที่สุด
นายภิมุข สิมะโรจน์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคในวันนี้ว่า จะพิเศษกว่าปกติตรงที่ นอกจากจะทดลองย้ายไปประชุมที่ตึกไอเอฟซีที ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ แทนอาคารชินวัตร 3 แล้ว ยังมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคทั้ง 119 คน ที่ผ่านการรับรองจาก กกต.เป็นครั้งแรก สำหรับกำหนดการ เริ่มจากเวลา 13.00น. เป็นการประชุม ส.ส.ตามรายภาค จากนั้นเวลา 14.30 น. ประชุมรวม กระทั่งเวลา 16.30 น. จึงเป็นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยวาระการประชุมมีด้วยกัน 4 เรื่อง คือ 1.ประธานแจ้งให้ทราบ คาดว่า พ.ต.ท.ทักษิณน่าจะพูดถึงเรื่องที่ทำการใหม่ของพรรค 2.แจ้งวาระรับรองรายงานการประชุม 3.วาระพิจารณาโครงสร้างพรรค โดยที่น่าสนใจมี 2 เรื่อง คือ เรื่องโครงสร้างผู้บริหารพรรค ซึ่งตามระเบียบพรรคกำหนดไว้ 19 คน ขณะที่ปัจจุบันมี 13 คน และเรื่องโครงสร้างคณะกรรมการจริยธรรมพรรค ที่ปัจจุบันมี 5 คน มี นายสมชาย สุนทรวัฒน์ เป็นประธาน ทั้ง 2 เรื่องจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือไม่ จะลดหรือเพิ่มตำแหน่งใด ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นหลัก
นายสุพร อัตถาวงศ์ ส.ส.นครราชสีมา กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนจะเสนอต่อที่ประชุม ถึงมาตรการดูแลส.ส.ที่มีพฤติกรรมสร้างความเสื่อมเสียหายให้พรรค โดยจะเน้นย้ำให้กรรมการด้านจริยธรรมที่พรรคตั้งขึ้นมาใหม่ ต้องออกกฎข้อบังคับและมาตรการควบคุมส.ส.ทุกคนอย่างเข้มงวด และโดยเท่าเทียม ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นผู้อาวุโส หรือเด็ก เพราะในเมื่อทุกคนเป็นผู้แทนก็ย่อมเท่าเทียมเหมือนกันหมด ขณะนี้พรรคกำลังขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง ตนไม่ยอมเด็ดขาดให้ใครมาสร้างความแตกแยกและสร้างความเสื่อมเสียต่อพรรคอีก หากใครไม่ทำตามมติ หรือมีท่าทีชัดเจนว่าไม่อยากอยู่ร่วมกับพรรคอีกต่อไป ก็สมควรออกไปจากพรรคไทยรักไทย แล้วไปหาพรรคอื่นที่เห็นว่ามีอุดมการณ์เดียวกับตัวเองอยู่แทน
ด้านนายเสนาะ เทียนทอง ยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้านพัก โดยไม่มี ส.ส.คนใดเข้าพบ ขณะที่นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภริยานายเสนาะ ก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งขอร้องผู้สื่อข่าวอย่ามาทำข่าวที่บ้านอีก
รายงานข่าวจากกลุ่มวังน้ำเย็น เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ ส.ส.ในกลุ่มประมาณ 10 กว่าคนได้นัดหารือเพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์ถึงเรื่องการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าจะมีท่าทีอย่างไรต่อ นายเสนาะ โดยส.ส.ในกลุ่มจะจับตาประชุมดังกล่าวอย่างใกล้ชิด แต่ก็เชื่อว่านายกฯจะไม่บรรจุวาระขับไล่นายเสนาะออกจากพรรค หรือลดตำแหน่งอย่างแน่นอน แต่หากมีกรรมการบริหารพรรคคนใดเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ทางกลุ่มก็ยังมั่นใจว่า การกระทำของนายเสนาะ ที่ลุกขึ้นอภิปรายในสภาในวันประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ไม่ได้กระทำผิดข้อกฎบังคับของพรรค เพราะเป็นการใช้เอกสิทธิ์ในฐานะส.ส. อีกทั้งในวันลงคะแนน นายเสนาะ ไม่ได้อยู่ใช้สิทธิโหวต จึงไม่ใช่การกระทำที่ขัดต่อมติพรรค ดังนั้นพรรคจะขับไล่นายเสนาะไม่ได้ ส่วนเหตุการณ์ใน มสธ. ที่นายเสนาะ พูดถึงนายกฯด้วยคำพูดรุนแรง ทางกลุ่มไม่ค่อยวิตกในเรื่องนี้ โดยเห็นว่านายเสนาะและนายกฯ จะทำความเข้าใจกันได้เอง