ตำรวจเตรียมดำเนินคดีรุ่นพี่ปอมปอมเชียร์ ม.บูรพา หลังรุ่นน้องตกกระแทกพื้น อาการขั้นโคม่า สกอ.เตรียมยกเครื่องกิจกรรมนักศึกษาทุกประเภทให้ปลอดภัย มีมาตรฐานเดียวกันทุกมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีการหารือกันใน ทปอ.วันที่ 25 มิ.ย.นี้
วานนี้ ( 20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลชลบุรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดแถลงข่าว กรณีน.ส.สุพัตรา มหาอุดม อายุ 17 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปีที่ 1 พลัดตกลงมาศีรษะกระแทกพื้น ขณะต่อตัวในการฝึกซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ หรือ ปอมปอมเชียร์ กับรุ่นพี่และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี
พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นคดีอาญา ฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำให้เกิดเหตุการณ์ โดยต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะทราบจากพ่อ-แม่ว่า นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ต้องการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ แต่ถูกรุ่นพี่บังคับ
น.พ.ชาตรี ตันติยวรงศ์ ผอ.โรงพยาบาลชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้คนไข้ไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด โดยทางการแพทย์ถือว่า สมองตาย เนื่องจากเซลล์สมองช้ำและมีอาการบวม โดยไปกดทับส่วนประสาทของการหายใจ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ได้เพราะมีเครื่องช่วยหายใจประทังชีวิตไว้
นางสุมาลี มหาอุดม มารดาผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ตนและสามีเฝ้าดูอาการลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกสาวของตนฟื้นกลับคืนมา โดยมีอาจารย์ เพื่อนๆ และญาติหมุนเวียนมาเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และด้านคดีก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ด้าน ศ.สุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งเกิดจาก ม.บูรพา จะจัดงานครบรอบ 50 ปี และจัดแข่งขันอเมริกันเชียร์ระหว่างคณะ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงได้สั่งยกเลิกการแข่งขันแล้ว
ศ.พิเศษ ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า กิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยปัจจุบันมีความผาดโผนและรุนแรงมากขึ้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันกำหนดกติกาใหม่ให้ปลอดภัย และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะหารือกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและยกเครื่องการจัดกิจกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับนิสิตนักศึกษา สำหรับการเอาผิดกับมหาวิทยาลัยนั้น เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
ส่วนข้อเสนอที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ สกอ.จัดทำคู่มือการรับน้องนั้น วันที่ 25 มิ.ย.จะมีการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะเชิญอธิการบดีจากทั่วประเทศร่วมหารือถึงกรอบการจัดกิจกรรมรับน้อง เพื่อให้มีบรรทัดฐานเดียวกันทุกแห่ง พร้อมเสนอให้ตั้งคณะกรรมการยกร่างแนวทางการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ประกอบด้วยนายกสโมสรนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในทุกภูมิภาค และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามายกร่างกรอบกิจกรรม จากนั้นจะจัดประชาพิจารณ์ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการจัดกิจกรรมรับน้องในปีต่อๆ ไป ส่วนมาตรการการลงโทษกิจกรรมรับน้องรุนแรงขอให้แต่ละมหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณา โดยออกข้อบังคับตามความเหมาะสม
นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลปัญหาที่เกิดจากกิจกรรมรับน้องใหม่ โดยให้มีการแยกกิจกรรมที่เลวร้ายกับเรื่องดี ส่วนบางมหาวิทยาลัยยังรับน้องไม่เสร็จต้องการจัดต่อ ก็ให้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ต้องไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น
วันเดียวกัน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา กรณีนักศึกษา ปวส.ปี 2 คณะวิชาเครื่องกล แผนกวิชาช่างจักรกลหนัก จัดกิจกรรมรับน้องพิเรนทร์
ผศ.ชูชัย ต.ศิริวัฒนา หัวหน้าคณะวิชาเครื่องกล กล่าวว่า หลังจากดำเนินการสอบสวนรายละเอียดเรื่องทั้งหมดมหาวิทยาลัยฯ ได้ลงโทษรุ่นพี่ ปวส.ปี 2 จำนวน 90 คน ดังนี้ 1.ตัดคะแนนความประพฤติคนละ 10 คะแนน 2. ทำภาคทัณฑ์ไว้ 3.เชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อรับทราบความผิดที่เกิดขึ้น และประการสุดท้าย คือให้นักศึกษาทุกคนไถ่บาปโดยบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม หากทางจังหวัดนครราชสีมา หรือเทศบาลนครนครราชสีมา ต้องการให้นักศึกษาเหล่านี้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแจ้งเข้ามาได้ทันที โดยกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมนั้นจะให้รุ่นน้อง ปวส. ปี 1 เข้าร่วมด้วยเพื่อสร้างความสามัคคีให้กับนักศึกษา
ส่วนรุ่นพี่ ปวส. ปี 2 ที่เป็นแกนนำและเป็นต้นคิดในการจัดกิจกรรมรับน้องรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บนั้น มีทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ได้สั่งพักการเรียนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน ส่วนการลงโทษสถานหนักนั้น คณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้จะพิจารณาและเสนอต่อผู้บริหารอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการลงโทษจะคำนึงถึงอนาคตของนักศึกษาด้วย
วานนี้ ( 20 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลชลบุรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดแถลงข่าว กรณีน.ส.สุพัตรา มหาอุดม อายุ 17 ปี นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ชั้นปีที่ 1 พลัดตกลงมาศีรษะกระแทกพื้น ขณะต่อตัวในการฝึกซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ หรือ ปอมปอมเชียร์ กับรุ่นพี่และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรี
พล.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จ.ชลบุรี กล่าวว่า กรณีนี้เป็นคดีอาญา ฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพิสูจน์ได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำให้เกิดเหตุการณ์ โดยต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะทราบจากพ่อ-แม่ว่า นักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ต้องการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ แต่ถูกรุ่นพี่บังคับ
น.พ.ชาตรี ตันติยวรงศ์ ผอ.โรงพยาบาลชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้คนไข้ไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด โดยทางการแพทย์ถือว่า สมองตาย เนื่องจากเซลล์สมองช้ำและมีอาการบวม โดยไปกดทับส่วนประสาทของการหายใจ ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ได้เพราะมีเครื่องช่วยหายใจประทังชีวิตไว้
นางสุมาลี มหาอุดม มารดาผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ตนและสามีเฝ้าดูอาการลูกอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกสาวของตนฟื้นกลับคืนมา โดยมีอาจารย์ เพื่อนๆ และญาติหมุนเวียนมาเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง และด้านคดีก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ด้าน ศ.สุชาติ อุปถัมภ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งเกิดจาก ม.บูรพา จะจัดงานครบรอบ 50 ปี และจัดแข่งขันอเมริกันเชียร์ระหว่างคณะ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงได้สั่งยกเลิกการแข่งขันแล้ว
ศ.พิเศษ ภาวิช ทองโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวว่า กิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยปัจจุบันมีความผาดโผนและรุนแรงมากขึ้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันกำหนดกติกาใหม่ให้ปลอดภัย และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะหารือกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยและยกเครื่องการจัดกิจกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับนิสิตนักศึกษา สำหรับการเอาผิดกับมหาวิทยาลัยนั้น เห็นว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
ส่วนข้อเสนอที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ สกอ.จัดทำคู่มือการรับน้องนั้น วันที่ 25 มิ.ย.จะมีการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จะเชิญอธิการบดีจากทั่วประเทศร่วมหารือถึงกรอบการจัดกิจกรรมรับน้อง เพื่อให้มีบรรทัดฐานเดียวกันทุกแห่ง พร้อมเสนอให้ตั้งคณะกรรมการยกร่างแนวทางการจัดกิจกรรมรับน้องใหม่ ประกอบด้วยนายกสโมสรนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยในทุกภูมิภาค และรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษามายกร่างกรอบกิจกรรม จากนั้นจะจัดประชาพิจารณ์ เพื่อใช้เป็นหลักเกณฑ์ในการจัดกิจกรรมรับน้องในปีต่อๆ ไป ส่วนมาตรการการลงโทษกิจกรรมรับน้องรุนแรงขอให้แต่ละมหาวิทยาลัยเป็นผู้พิจารณา โดยออกข้อบังคับตามความเหมาะสม
นายอดิศัย โพธารามิก รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลปัญหาที่เกิดจากกิจกรรมรับน้องใหม่ โดยให้มีการแยกกิจกรรมที่เลวร้ายกับเรื่องดี ส่วนบางมหาวิทยาลัยยังรับน้องไม่เสร็จต้องการจัดต่อ ก็ให้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละมหาวิทยาลัย แต่ต้องไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น
วันเดียวกัน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครราชสีมา กรณีนักศึกษา ปวส.ปี 2 คณะวิชาเครื่องกล แผนกวิชาช่างจักรกลหนัก จัดกิจกรรมรับน้องพิเรนทร์
ผศ.ชูชัย ต.ศิริวัฒนา หัวหน้าคณะวิชาเครื่องกล กล่าวว่า หลังจากดำเนินการสอบสวนรายละเอียดเรื่องทั้งหมดมหาวิทยาลัยฯ ได้ลงโทษรุ่นพี่ ปวส.ปี 2 จำนวน 90 คน ดังนี้ 1.ตัดคะแนนความประพฤติคนละ 10 คะแนน 2. ทำภาคทัณฑ์ไว้ 3.เชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อรับทราบความผิดที่เกิดขึ้น และประการสุดท้าย คือให้นักศึกษาทุกคนไถ่บาปโดยบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม หากทางจังหวัดนครราชสีมา หรือเทศบาลนครนครราชสีมา ต้องการให้นักศึกษาเหล่านี้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแจ้งเข้ามาได้ทันที โดยกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมนั้นจะให้รุ่นน้อง ปวส. ปี 1 เข้าร่วมด้วยเพื่อสร้างความสามัคคีให้กับนักศึกษา
ส่วนรุ่นพี่ ปวส. ปี 2 ที่เป็นแกนนำและเป็นต้นคิดในการจัดกิจกรรมรับน้องรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บนั้น มีทั้งสิ้น 4 คน ซึ่งมหาวิทยาลัยฯ ได้สั่งพักการเรียนเป็นเวลา 1 ภาคเรียน ส่วนการลงโทษสถานหนักนั้น คณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้จะพิจารณาและเสนอต่อผู้บริหารอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการลงโทษจะคำนึงถึงอนาคตของนักศึกษาด้วย