xs
xsm
sm
md
lg

ดันสินค้าถูกยึดขายผ่อนมือสอง ซิงเกอร์ไทยแม่แบบธุรกิจใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซิงเกอร์ไทยเป็นแม่แบบธุรกิจใหม่ ต่างชาติเริ่มศึกษา ล่าสุดเปิดร้าน สมาร์ทซีเล็ค ขายสินค้าเดโมและสินค้ามือสอง เผยสินค้าถูกยึด 17% นำมาขายในร้านนี้ วางเป้าเปิด 5 สาขาปีนี้ ประเดิมไปแล้ว 2 สาขา หวังผลรายได้ 2 ล้านบาทต่อเดือนต่อสาขา ยอมรับไม่ชำนาญค้าปลีก ปิดทิ้งซิงเกอร์พลัสเรียบร้อยแล้ว
นายยงยุทธ บุญเปกข์ตระกูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้ ตลาดสินค้าเงินผ่อนยังสามารถไปได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดน้อยลง แต่มีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น และไม่จำเป็นที่ต้องซื้อสินค้ามือหนึ่งเสมอไป โดยสังเกตจากยอดขายของบริษัทฯในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมามีการเติบโตถึง 25% แต่ยอมรับว่าลูกค้าที่มีปัญหาทางด้านการเงินและไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ตามปรกติก็มีเช่นกันประมาณ 17-18% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มาก ขณะที่สินค้าประเภทมอเตอร์ไซค์นั้นมียอดคืนหรือถูกยึดเฉลี่ย ใกล้เคียงกันหรือมากกว่า 1-2%
ทั้งนี้บริษัทฯได้เปิดร้านแนวคิดใหม่ที่ที่เรียกว่า สมาร์ท ซีเล็ค ชอป โดยเป็นร้านที่จำหน่ายสินค้าเดโมที่ตั้งโชว์ในร้านซิงเกอร์ และสินค้ามือสองที่ยึดมาจากลูกค้ามาตั้งขายในร้าน ซึ่งจะมีราคาที่ตำกวาปรกติประมาณ 30-60% ซึ่งถือว่าซิงเกอร์เป็นรายแรกทำตลาดสินค้ามือสองที่มีระบบ อีกทั้งยังมีการผ่อนสินค้ามือสองได้ด้วยนานที่สุด 40 เดือน โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.5-1.8% และยังมีการรับประกันสินค้านาน 3 เดือน ตลอดจนมีการรับประกันสินค้าถูกโจรกรรมสูญหายหรือได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติด้วย
การเปิดร้านแนวคิดใหม่นี้ เป็นผลมาจากการศึกษาความเหมาะสมของตลาด ความเชี่ยวชาญในการจำหน่ายสินค้าเงินผ่อนของบริษัทฯ ประกอบกับบทเรียนจากการรุกธุรกิจค้าปลีกของบริษัทที่เปิดร้าน ซิงเกอร์พลัส เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะไม่มีความเชี่ยวชาญทางด้านค้าปลีกเหมือนกับคู่แข่งที่เป็นเชนสโตร์มีเครือข่ายจำนวนมากมีความได้เปรียบมากกว่า จึงตัดสินใจล้มเลิกร้านซิงเกอร์พลัสไปแล้ว หลังจากที่เปิดมาได้ประมาณ 9 สาขา
ขณะนี้ร้านสมาร์ทซีเล็คเริ่มเปิดบริการแล้ว 2 สาขาที่ รามคำแหงและศรีนครินทร์ และวางแผนที่จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 3 แห่งในปีนี้เช่นที่ โคราช เชียงใหม่ และต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ เงินลงทุนต่อสาขาไม่มากเพียง 1 ล้านบาทเท่านั้น ตั้งเป้ายอดขาย 2 ล้านบาทต่อสาขาต่อเดือนสำหรับร้านสมาร์ทซีเล็คชอป ซึ่งหลังจากที่เปิดทดลองมานานกว่า 6 เดือนแล้วพบว่า มีแนวโน้มธุรกิจที่ดี โดยพบว่าสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 5,000 บาทจะได้รับการตอบรับที่ดี
ทั้งนี้สัดส่วนยอดขายในร้านสมาร์ทซีเล็คนี้คาดว่าจะประกอบด้วย มอเตอร์ไซค์ 35% เครื่องใช้ไฟฟ้า 30% เครื่องเสียง 30% จักรเย็บผ้า 5%
อย่างไรก็ตาม ร้านสมาร์ทซีเล็คจะแตกต่างจากร้านซิงเกอร์ไดเร็คต์ ตรงที่ว่า สมาร์ทซีเล็คจะขายแต่สินค้ามือสองและสินค้าเดโมเท่านั้น เน้นหนักที่แบรนด์ซิงเกอร์เป็นหลัก และมีมอเตอร์ไซค์ด้วย ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะมีการตรวจสภาพและทำให้ดีเรียบร้อย อีกทั้งจะมีการแบ่งเกรดโดยบอกผู้บริโภคที่เข้ามาในร้านว่า สินค้าตัวใดอยู่ในเกรดอะไร
ส่วนร้านซิงเกอร์ไดเร็คต์ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 246 สาขา ตั้งเป้าเปิดสิ้นปีเป็น 260 สาขา ซึ่งปีนี้ได้เปิดไปแล้วประมาณ 15 สาขา โดยได้กำหนดระยะทางในการเปิดให้ห่างกัน 80 กิโลเมตร เพื่อจะได้ไม่ซ้ำซ้อนกัน โดยเน้นกระจายในต่างจังหวัดเป็นหลัก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เคยมีสาขาของซิงเกอร์ไดเร็คต์มากถึง 330 แห่ง แต่ได้ปิดไปลดเหลือ 230 แห่ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เขากล่าวด้วยว่า การที่ซิงเกอร์ประเทศไทยเปิดร้านซิงเกอร์พลัสที่ผ่านมา รวมทั้งขณะนี้ได้เปิดธุรกิจใหม่คือ สมาร์ทซีเล็ค หรือแม้แต่การนำเอารถมอเตอร์ไซค์มาขาย อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นแห่งแรกในโลกของซิงเกอร์ก็ว่าได้ และไทยยังเป็นแม่แบบใหม่ ซึ่งต่างประเทศเริ่มมีการศึกษาถึ
งรูปแบบเหล่านี้กันบ้างแล้วด้วย
สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯในช่วงที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นเช่น ปี 2543 รายได้ 3,824 ล้านบาท ปี 2544 เท่ากับ 3,844 ล้านบาท ปี 2545 เท่ากับ 3,902 ล้านบาท ปี 2546 เท่ากับ 4,549 ล้านบาท และเมื่อปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 4,500 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายมีรายได้เพิ่มขึ้น ประมาณ 10-15%
กำลังโหลดความคิดเห็น