xs
xsm
sm
md
lg

USขาดดุลไตรมาสแรก$195.1 พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเมืองลุงแซมไตรมาสแรกของปีนี้ทำสถิติสูงสุดที่ 195,100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดหนี้ต่างชาติของสหรัฐฯยิ่งเพิ่มมากขึ้น

รายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (17) สะท้อนถึงตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาสแรกซึ่งสูงกว่าวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 190,000 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็น 6.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ยอดขาดดุลดังกล่าวยังสูงกว่าตัวเลขขาดดุลเมื่อไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้วที่ 188,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับเพิ่มจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 187,900 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ดุลบัญชีเดินสะพัดที่โป่งพองมากขึ้นยิ่งตอกย้ำความวิตกของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ว่า คนอเมริกันกำลังใช้จ่ายมากเกินกว่าที่พวกเขาผลิตได้ รวมถึงแรงกดดันที่มีต่อค่าเงินดอลลาร์

เมื่อพิจารณาถึงยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐฯที่ทุบสถิติที่ 413,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่ผ่านมา “การขาดดุลคู่” ทำให้ต่างชาติต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่สหรัฐฯในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน

ผู้เชี่ยวชาญบางรายวิตกว่า ความไร้สมดุลเหล่านี้ไม่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน และต่างชาติอาจลดการถือครองดอลลาร์ในอนาคตได้ ซึ่งจะผลักดันให้อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯทะยานขึ้นและทำลายระบบการเงินโลก

อัลลัน เซย์ชัค นักเศรษฐศาสตร์จากอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เกตส์กล่าวว่า “สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ทิศทางที่ตลาดคาดหวังจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ”

ดรูว์ มาทัส นักเศรษฐศาสตร์จากเลห์แมน บราเธอร์ส บอกว่า “โดยรวมแล้ว ข้อมูลดังกล่าวมุ่งประเด็นไปที่ปัญหาเรื้อรังเรื่องความต้องการสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ และสะท้อนว่า แดนอินทรียังมีความต้องการด้านการเงินเพื่อใช้จ่ายด้านอุปโภคบริโภค”

ยิ่งไปกว่านั้น นักวิเคราะห์บางรายไม่เชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในภาวะที่การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

โรเบิร์ต บรัสกา จากเอฟเอโอ อิโคโนมิกส์ บอกว่า “หากเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ และนำเข้าสินค้าตามปกติในอัตรา 2 เท่าของการขยายตัวของสหรัฐฯแล้ว การส่งออกจะสามารถรับมือกับการนำเข้าได้ดี กระนั้นก็ดี สหรัฐฯกำลังพยายามกระตุ้นการส่งออกในสภาพแวดล้อมโลกที่เปราะบาง”

มารี-ปิแอร์ ไรเพิร์ต จากไอเอ็กซ์ไอเอส คอร์ปอเรต แอนด์ อินเวสต์เมนต์ แบงก์ ซึ่งเคยคาดการณ์ว่ายอดขาดดุลการค้าปี 2006 จะเพิ่มจาก 760,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2005 เป็น 830,000 ล้านดอลลาร์ เชื่อว่า “ยอดขาดดุลการค้าในอีกหลายไตรมาสข้างหน้าจะเลวร้ายกว่านี้”

อย่างไรก็ตาม เจย์ ไบร์สัน นักเศรษฐศาสตร์จากวาโชเวียบอกว่า “การปราศจากความผันผวนรายไตรมาสสะท้อนว่า ความสนใจสินทรัพย์สหรัฐฯของต่างชาติยังคงแข็งแกร่ง”
กำลังโหลดความคิดเห็น