รอยเตอร์ – ฮาร์เจ โยฮัสสัน หนุ่มสวีเดนวัย 33 ปี รอดพ้นจากคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมขณะที่กำลังดำน้ำแถวหาดป่าตองของภูเก็ต
ทั้งนี้สึนามิไม่ทำให้เขาเข็ดขยาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ในทางตรงกันข้ามกลับชักนำให้เขากลับมาอีกครั้ง “มันยากที่จะอธิบายกับคนในประเทศผมว่ามันเป็นอย่างไร ขณะที่ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและเข้าใจความรู้สึกของคุณ” โยฮัสสันบอกขณะที่กลับมาเยือนภูเก็ตพร้อมกับแม่ น้องชาย และหลานๆ
จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากหายนะครั้งนี้ยังคงปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ของยุโรปเหนือ โดยตัวเลขผู้สูญหายและเสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วมีดังนี้ ชาวสวีเดน 540 คน ฟินแลนด์ 180 คน เดนมาร์ก 40 คน และ นอร์เวย์ 80 คน
กระนั้นก็ดี 6 เดือนหลังจากหายนะดังกล่าวซึ่งคร่าชีวิตผู้คนรอบมหาสมุทรอินเดียราว 230,000 คน ชาวนอร์ดิกยังคงหลงใหลเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างยิ่ง
กล่าวได้ว่า ชาวสแกนดิเนเวียซึ่งหลบอากาศหนาวเหน็บอันยาวนานในภูมิภาคของตน เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 3 ทศวรรษก่อน นอกจากนี้ความเย้ายวนของแสงแดด อาหารเลิศรส มิตรภาพของผู้คน และค่าใช้จ่ายราคาย่อมเยา ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
กระทั่งเดี๋ยวนี้ แม้ว่าพวกเขาอาจเลี่ยงบริเวณที่ประสบภัย ทว่าพวกเขายังไม่ถอดใจกับภูมิภาคนี้ มาร์ติน สเวนส์สัน วัย 30 ปีกล่าวว่า “แน่นอนว่า คุณมองภาพชายหาดในมุมมองที่เปลี่ยนไปหลังจากสึนามิ แต่ผมก็ยังรู้สึกโอเคที่จะไปนะ”
แม้ยอดการจองเที่ยวบินมายังไทยลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้วซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวยังคงคาดหวังว่าเครื่องบินจะเต็มไปด้วยผู้โดยสารเมื่อถึงช่วงฤดูท่องเที่ยวซึ่งเริ่มเดือนตุลาคม
ลอตตี้ นัตสัน จากฟริทิเดรสเซอร์ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสวีเดนในไทยกล่าวว่า “พวกเรายังหวังว่า จะมีคนมาเที่ยวมากเหมือนเดิม”
ขณะที่เลนา ปีเตอร์สันจากสตาร์ ทัวร์ ของนอร์เวย์บอกว่า “พวกเราได้เพิ่มศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวนี้” พร้อมเสริมว่า “ความต้องการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยของคนนอร์เวย์แข็งแกร่งมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และพวกเราก็ไม่สามารถรองรับได้หมด สถานการณ์ของปีนี้ไม่ดีเหมือนปีก่อน แต่มันยังอยู่ในเกณฑ์ดี”
ด้านสายการบินไทยเปิดเผยว่า ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินขาออกและขาเข้าสแกนดิเนเวีย โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เพิ่มเที่ยวบินระหว่างสตอกโฮล์ม-กรุงเทพฯจาก 4 เที่ยวเป็น 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มเป็น 6 เที่ยวต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาว
เช่นเดียวกับเส้นทางโคเปนเฮเกน-กรุงเทพฯ จะให้บริการทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม จากปัจจุบันที่ให้บริการ 6 วันต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่ประสบภัยสึนามิทุกแห่งไม่ได้ฟื้นตัวเร็วเหมือนในไทย กล่าวคือ ทางชายฝั่งตอนใต้ของศรีลังกา การฟื้นตัวภาคธุรกิจยังคงเชื่องช้า
วาย.พี. ราวี จากแกล ฟอร์ต โฮเทล กล่าวว่า “10 วันมานี้ พวกเราไม่มีแขกมาพักเลย นับตั้งแต่สึนามิ ก็มีแต่นักข่าวและนักการทูตเท่านั้น”
นอกจากนี้ การขอวีซ่านักท่องเที่ยวของคนสวีเดนมายังศรีลังกาลดลงเกือบครึ่ง โดยเหลือเพียง 1,500 ในเดือนม.ค.-เม.ย. เช่นเดียวกับจำนวนการขอวีซ่าของคนฟินแลนด์และเดนมาร์กที่ลดลง
ทั้งนี้สึนามิไม่ทำให้เขาเข็ดขยาดการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ในทางตรงกันข้ามกลับชักนำให้เขากลับมาอีกครั้ง “มันยากที่จะอธิบายกับคนในประเทศผมว่ามันเป็นอย่างไร ขณะที่ทุกคนที่นี่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและเข้าใจความรู้สึกของคุณ” โยฮัสสันบอกขณะที่กลับมาเยือนภูเก็ตพร้อมกับแม่ น้องชาย และหลานๆ
จำนวนยอดผู้เสียชีวิตจากหายนะครั้งนี้ยังคงปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ของยุโรปเหนือ โดยตัวเลขผู้สูญหายและเสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันแล้วมีดังนี้ ชาวสวีเดน 540 คน ฟินแลนด์ 180 คน เดนมาร์ก 40 คน และ นอร์เวย์ 80 คน
กระนั้นก็ดี 6 เดือนหลังจากหายนะดังกล่าวซึ่งคร่าชีวิตผู้คนรอบมหาสมุทรอินเดียราว 230,000 คน ชาวนอร์ดิกยังคงหลงใหลเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างยิ่ง
กล่าวได้ว่า ชาวสแกนดิเนเวียซึ่งหลบอากาศหนาวเหน็บอันยาวนานในภูมิภาคของตน เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ 3 ทศวรรษก่อน นอกจากนี้ความเย้ายวนของแสงแดด อาหารเลิศรส มิตรภาพของผู้คน และค่าใช้จ่ายราคาย่อมเยา ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย
กระทั่งเดี๋ยวนี้ แม้ว่าพวกเขาอาจเลี่ยงบริเวณที่ประสบภัย ทว่าพวกเขายังไม่ถอดใจกับภูมิภาคนี้ มาร์ติน สเวนส์สัน วัย 30 ปีกล่าวว่า “แน่นอนว่า คุณมองภาพชายหาดในมุมมองที่เปลี่ยนไปหลังจากสึนามิ แต่ผมก็ยังรู้สึกโอเคที่จะไปนะ”
แม้ยอดการจองเที่ยวบินมายังไทยลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อปีที่แล้วซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวยังคงคาดหวังว่าเครื่องบินจะเต็มไปด้วยผู้โดยสารเมื่อถึงช่วงฤดูท่องเที่ยวซึ่งเริ่มเดือนตุลาคม
ลอตตี้ นัตสัน จากฟริทิเดรสเซอร์ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวสวีเดนในไทยกล่าวว่า “พวกเรายังหวังว่า จะมีคนมาเที่ยวมากเหมือนเดิม”
ขณะที่เลนา ปีเตอร์สันจากสตาร์ ทัวร์ ของนอร์เวย์บอกว่า “พวกเราได้เพิ่มศักยภาพการรองรับนักท่องเที่ยวในฤดูหนาวนี้” พร้อมเสริมว่า “ความต้องการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยของคนนอร์เวย์แข็งแกร่งมากในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และพวกเราก็ไม่สามารถรองรับได้หมด สถานการณ์ของปีนี้ไม่ดีเหมือนปีก่อน แต่มันยังอยู่ในเกณฑ์ดี”
ด้านสายการบินไทยเปิดเผยว่า ได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินขาออกและขาเข้าสแกนดิเนเวีย โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เพิ่มเที่ยวบินระหว่างสตอกโฮล์ม-กรุงเทพฯจาก 4 เที่ยวเป็น 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มเป็น 6 เที่ยวต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาว
เช่นเดียวกับเส้นทางโคเปนเฮเกน-กรุงเทพฯ จะให้บริการทุกวันนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม จากปัจจุบันที่ให้บริการ 6 วันต่อสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวที่ประสบภัยสึนามิทุกแห่งไม่ได้ฟื้นตัวเร็วเหมือนในไทย กล่าวคือ ทางชายฝั่งตอนใต้ของศรีลังกา การฟื้นตัวภาคธุรกิจยังคงเชื่องช้า
วาย.พี. ราวี จากแกล ฟอร์ต โฮเทล กล่าวว่า “10 วันมานี้ พวกเราไม่มีแขกมาพักเลย นับตั้งแต่สึนามิ ก็มีแต่นักข่าวและนักการทูตเท่านั้น”
นอกจากนี้ การขอวีซ่านักท่องเที่ยวของคนสวีเดนมายังศรีลังกาลดลงเกือบครึ่ง โดยเหลือเพียง 1,500 ในเดือนม.ค.-เม.ย. เช่นเดียวกับจำนวนการขอวีซ่าของคนฟินแลนด์และเดนมาร์กที่ลดลง