ศูนย์ข่าวศรีราชา -โครงการอีสเทิร์นซีบอร์ดระส่ำ หลังน้ำในอ่างฯ ทุกแห่งแห้งขอด กรมชลฯ เผยมีใช้ได้นานที่สุดเพียง 60 วัน ขณะนี้รอธรรมชาติและฝนหลวงท่านั้น หากไม่มีฝนตกเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาทพินาศยับ
นายสุเมธ วัฒนญาณนนท์ หัวหน้าฝ่ายบริหารและจัดการน้ำ สำนักงานชลประทานที่ 9 จังหวัดชลบุรี ผู้ดูแลการใช้น้ำในภาคตะวันออก เผยถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆในภาคตะวันออก ว่า ปัจจุบันเกือบแห้งขอดทุกอ่างฯแล้ว เช่น อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัด ระยอง ซึ่งมีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้จริงประมาณ 11 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 25 วัน อ่างเก็บน้ำดอกกราย มีความจุที่ระดับกักเก็บ 71ล้านลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำใช้การได้จริงประมาณ 11 ล้านลบ.ม. ก็จะสามารถใช้ได้อีกเพียง 21 วันเท่านั้น
สำหรับในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่อ่างเก็บน้ำบางพระ มีความจุอ่างฯที่ระดับกักเก็บ 117 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้จริง 22 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 70 วัน อ่างเก็บน้ำหนองค้อ มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 21 ล้านลบ.ม.ปัจุบันมีน้ำใช้การได้จริง 2.92 ล้านลบ.ม.คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 40 วัน อ่างเก็บน้ำห้วยสะพาน มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 3.84 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้จริง 0.91 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 60 วัน อ่างเก็บน้ำหนองกลางดง มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 7.65 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้จริง 0.29 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 15 วัน
ส่วนที่อ่างเก็บน้ำห้วยขุนจิต มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 4.80 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำใช้การได้จริง 0.37ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 30 วัน อ่างเก็บน้ำมาบประชัน มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 16.60.ล้านลบ.ม. ปัจุบันมีน้ำใช้ได้จริง 2.26 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะใช้น้ำได้อีกเพียง 70 วัน และ อ่างเก็บน้ำชากนอก มีความจุอ่างที่ระดับกักเก็บ 7.03 ล้านลบ.ม. ปัจจุบันไม่มีน้ำใช้การได้แล้ว
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ปัญหาดังกล่าว ขณะนี้ทำได้ก็เพียงแค่ช่วยกันประหยัดน้ำ เพื่อประคองให้ถึงฤดูฝนใหญ่ที่จะมาถึงประมาณเดือนสิงหาคมนี้ แต่ในช่วงประคองตัวนี้ ก็จะต้องหาแหล่งน้ำเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2 ทางเท่านั้นคือการเร่งทำฝนหลวง และรอฝนธรรมชาติตกมาเอง แต่หากไม่มี คาดว่าน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน จังหวัดระยอง และชลบุรีจะอยู่ได้อย่างมากไม่เกิน 60 วันเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อโรงงานและโครงการต่างๆ โดยต้องหยุดชะงัก และส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินการลงทุนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
สำหรับปัญหาหลักที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เนื่องจากตามแผนโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด อ่างฯทุกอ่างฯจะต้องมีการต่อเชื่อมท่อส่งน้ำ เพื่อผันน้ำหากพื้นที่ใดที่ขาดแคลนน้ำก็จะผันน้ำให้กัน โดยที่ผ่านมาการวางท่อผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง มาที่อ่างเก็บน้ำหนองค้อ จังหวัด ชลบุรี จากนั้นก็ผันน้ำมาเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำบางพระ
ที่ผ่านมาบริษัท อีสท์วอเตอร์ ทำได้ครั้งเดียว ก็ยกเลิกโครงการ โดยอ้างว่าการผันน้ำมาเก็บไว้ในอ่างจะมีการสูญเสียของน้ำโดยการระเหยไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของการซื้อขายน้ำกับทางกรมชลฯ โดยอ้างว่า บริษัทเป็นผู้ผันน้ำมาไว้ในอ่างแล้วเวลาที่สูบน้ำไปใช้ จะยังต้องมาซื้อจากกรมชลฯอีก จึงยกเลิกและทำการส่งน้ำให้กับโรงงานอุตสาหกรรมโดยตรงโดยไม่มีการกักเก็บน้ำไว้
แหล่งข่าวจากนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังและมาบตาพุด กล่าวว่า ขณะนี้นิคมอุตสาหกรรมปรับลดการใช้น้ำลงอีก 40 % ซึ่งเป็นตัวเลข ที่สูงมากหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการปรับลดลงไปแล้ว ซึ่งจะต้องมีผลกระทบต่อกระบวนการผลิตอย่างแน่นอน และหากในอีกไม่กี่วันข้างนี้ไม่มีน้ำมาเพิ่มจากธรรมชาติและฝนหลวง ภาคอุตสาหกรรมในโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ซึ่งถือว่าเห็นหัวใจของการลงทุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศจะต้องเสียหาย มหาศาล นับแสนล้านแน่นอน ซึ่งในวันที่ 20 มิถุนายน ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะลงมาประชุมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดระยองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป