xs
xsm
sm
md
lg

นักท่องเที่ยวหดกระทบบาคาร์ดี ปรับแผนเล็งเพิ่มลูกค้าคนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟินแลนเดีย ยืมมือบาร์เทนเดอร์บูมตลาดวอดก้า เร่งสร้างความสัมพันธ์หวังตีท้ายครัวเข้ายึดหัวหาดสถานบันเทิงลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟ 20 แห่งสิ้นปีนี้ หลังตลาดแข่งดุสินค้าคู่แข่งลุยยึดร้านค้าไปแล้วเพียบ ล่าสุดปรับแผนลดความเสี่ยง รับมือตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศหด เบนเข็มขยายฐานลูกค้าคนไทยเพิ่ม สิ้นปีกวาดแชร์ 15%

นายภาวิน พงศ์พันธุ์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมส่งเสริมการขาย บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายฟินแลนเดีย วอดก้า โดยบริษัท บราวน์-ฟอร์แมน เป็นผู้นำเข้า เปิดเผยว่า ตลาดวอดก้านำเข้ามูลค่า 70,000 ลัง หรือคิดเป็น 1-2% จากมูลค่าเหล้านำเข้า เริ่มมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางออนพรีมิสหรือสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่งโดยมากการทำตลาดของกลุ่มผู้ประกอบการจะเป็นลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟ หรือมีสัญญาร่วมกับทางร้านเพียงแบรนด์เดียวเท่านั้น ทำให้บริษัทต้องหันมาให้ความสำคัญกับการขยายร้านค้าในลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันบริษัทมีสถานบันเทิง ในลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟเพียง 5 แห่ง ประกอบด้วย คิวบาร์ ข้าวสารเซ็นเตอร์ ฯลฯ

ล่าสุดได้เตรียมจัดกิจกรรม” Finlandia Fresh Style Flair Asia Pacific Cooktail 2005” เพื่อค้นหาสุดยอดแฟลร์บาร์เทนเดอร์ของประเทศไทย เข้าร่วมแข่งขันในรูปแบบของสมาพันธ์บาร์เทนเดอร์นานาชาติ ที่ ประเทศสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม นี้ ซึ่งคาดว่ากิจกรรมดังกล่าวยังทำให้ผู้ประกอบการอาชีพบาร์เทนเดอร์หันมาสนใจตัวสินค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันยังคาดว่าจากกิจกรรมในครั้งนี้ จะช่วยขยายสถานบันเทิงระดับบีขึ้นไปในลักษณะเอ็กซ์คูลซีฟเพิ่มเป็น 10-20แห่งในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้การประกวดในครั้งนี้ บริษัทยังฝึกอบรมบาร์เทนเดอร์เพิ่มเติม เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดวอดก้าระดับพรีเมียมราคา 500-600 บาทให้มีอัตราการเติบโตมากขึ้น จากปัจจุบันบาร์เทนเดอร์ส่วนใหญ่จะใช้วอดก้าระดับอีโคโนมี ราคา 100-200 บาทในการผสมเหล้าคอลเทล ส่งผลให้แนวโน้มวอดก้าระดับล่างมีอัตราการขยายตัวสูง ส่วนวอดก้าระดับสแตนดาร์ด 300-400 บาท และซูเปอร์พรีเมียม 800-1,000 บาท ตลาดก็ยังไม่ขยายตัวมากนัก

“วิธีการกระตุ้นตลาดวอดก้าให้มีอัตราการเติบโตได้ ในขั้นตอนแรก คือ ต้องให้ความรู้และอบรมผ่านบาร์เทนเดอร์ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เป็นกระบอกเสียงได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตลาดไวท์ สปริต เองก็ยังกระตุ้นตลาดผ่านบาร์เทนเดอร์เช่นกัน นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมสร้างตลาดวอดก้า ด้วยการตอกย้ำชื่อแบรนด์ ฟินแลนเดียว่าคือวอดก้า จากเดิมพฤติกรรมการสั่งเครื่องดื่มจะเป็นในรูปแบบคอกเทล ซึ่งในคอกเทล ก็มีเครื่องดื่มหลายตัว เช่น ไวท์ สปริต ,รัม ฯลฯ”

ขณะเดียวกันปีนี้ บริษัทยังได้เตรียมขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนไทยมากขึ้น วางกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 20-40 ปี เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจ หลังจากเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญทางภาคใต้ โดยได้ปรับสัดส่วนเป็นชาวต่างประเทศ 70% เหลือ 50% คนไทย 30% เพิ่มเป็น 50% นอกจากนี้ยังได้หาตลาดทดแทนรายได้ที่หายไปในภาคใต้ ด้วยการรุกขยายตลาดในจ.พัทยา เชียงใหม่ เพิ่มมากขึ้น

ผลประกอบการปีที่ผ่านมา ฟินแลนเดีย วอดก้า มียอดขาย 10,000 ลัง ปีนี้ตั้งเป้าโต 15% ขณะที่ส่วนแบ่งตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% จากปัจจุบันมี 12-13% เป็นอันดับสองของตลาด ส่วนผู้นำตลาดเป็นสเมอร์นอฟ ครองส่วนแบ่ง 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น