กลุ่มคนร้ายใต้ยังเดินหน้าสร้างความไม่สงบรายวัน ลอบวางระเบิดอีก 2 อำเภอนราธิวาส"หน้าแบงก์กรุงเทพ-รถขนขยะเทศบาล"เจ้าหน้าที่ดับ 1 เจ็บ 4 กองบังคับการตำรวจสงขลาวิทยุด่วนเตือนตำรวจในพื้นที่ 6 อำเภอเพิ่มความระวังป้องกันบึ้ม "ชิดชัย"เต้นประณามโหดร้ายไร้มนุษยธรรม ขีดเส้นตาย จนท.ปรับแผนเชิงรุกสิ้นมิ.ย.นี้ หากไม่เกิดผลจะลงพื้นที่บัญชาเอง "ผบ.ทบ."ชี้เหตุบึ้มที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็กน้อย
กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ลด ละ เลิก ก่อความไม่สงบ เมื่อเวลา 05.00 น.วานนี้ (13 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกที่บริเวณ หน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ที่เลขที่ 189 ถนนสายแว้ง-สุไหงโก-ลก ห่างจาก สภ.อ.แว้ง 800 เมตร หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบว่าที่บริเวณกระบะปลูกต้นหมากแดงตรงทางบันไดขึ้นธนาคารมีดินกระจุยกระจายปะปนกับเศษวัตถุระเบิดจำนวนมาก นอกจากนี้ที่บริเวณฝ้าเพดานใต้ป้ายชื่อธนาคารยังถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายหลายแผ่น
ระเบิดดังกล่าวเป็นแบบแสวงเครื่องอีมัลชั่นพาวเวอร์เจล มีน้ำหนักประมาณ 2 ก.ก.มีอนุภาพทำลายรัศมีกว้าง 20 เมตร โดยคนร้ายได้นำมาประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก โดยต่อวงจรกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันความชื้นที่เจ้าหน้าที่มักเก็บกู้ด้วยการใช้รถดับเพลิงในการฉีดน้ำ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่น 2 คนขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดที่หน้าธนาคาร ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านรอขึ้นรถโดยสารเพื่อไปจ่ายตลาดใน อ.สุไหงโก-ลก หลังจากวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์พ้นไปไม่นานก็เกิดระเบิดขึ้น
ต่อมาเวลา 07.30 น.ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คนร้ายลอบวางระเบิดรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลปะลุรู ทะเบียน 80-4098 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่ข้างร้านขายกาแฟใน สภ.อ.สุไหงปาดี ประมาณ 10 เมตร เสียหายยับเยินและมีพนักงานเทศบาลเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล คือ นายเอี่ยม อำพันทอง อายุ 45 ปี และบาดเจ็บอีก 4 ราย คือ นายภาต อุปขวัญ พนักงานขับรถ, นายสมพงษ์ อุปขวัญ, นายอานนท์ พ้นภัย พนักงานเก็บขยะ และ ด.ต.มะนอ สะอิ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.อ.สุไหงปาดี ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี ได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ละมุล หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.447 บ้านเจาะวา มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ วันหะภิงค์ รอง ผบก.กองปราบปรามได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจสอบยังจุดที่เกิดเหตุร่วมกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ปรากฎพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือมีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมที่คนร้ายใส่ไว้ในถังน้ำยาเคมีดับเพลิงโดยแรงระเบิดทำให้กระจกของห้องพนักงานสอบสวน สภ.อ.สุไหงปาดี รวมทั้งผนังร้านกาแฟได้รับความเสียหาย
เวลา14.30 น.ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้รายงานวิทยุด่วนไปยัง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่,จะนะ,เทพา,สะบ้าย้อย,สะเดา และนาทวี ให้ระวังคนร้ายเข้ามาก่อสร้างสถานการณ์ โดยได้เน้นพิเศษในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทุกชุดประสานไปยังธนาคาร, ร้านทอง, ห้างสรรพสิน และโรงแรมต่างๆ ในเขตตัวเมืองให้ตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณหน้าร้านและตัวอาคาร หากเป็นไปได้ให้เคลียร์กระถางต้นไม้ออกเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
ขณะเดียวกันให้ตำรวจสายตรวจเฝ้าระหว่างรถยนต์และรถจักยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ หากจอดไว้จะต้องมีตำรวจเฝ้าดูแลและห้ามจอดทิ้งเพื่อป้องกันคนร้ายนำระเบิดไปวางเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน มาตรการดังกล่าวจะต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 14 -18 มิถุนายน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุร้าย
เวลา 16.00 น.ได้เกิดเหตุ 2 คนร้ายใช้ปืนอาก้าตามประกบยิงนายทวีพงษ์ หวานจิตต์ และนายทวีวัฒน์ หวานจิตต์ สองพี่น้องฝาแฝด ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพสายบุรี จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพักเลขที่ 24 หมู่ 5 ต.แป้น อ.สายบุรี กระสุนถูกนายทวีพงษ์ เข้าที่ศีรษะเสียชีวิต ส่วนนายทวีวัฒน์ กระสุนถูกบริเวณลำตัวบาดเจ็บ และถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนว่าเป็นเหตุก่อความไม่สงบหรือไม่ เนื่องจากกรณีทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาวัยรุ่นจนมีการฆ่ากันตายยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่นี้
ขณะที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร หัวหน้าสถานีตำรวจ ให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ต่อไปการปราบปรามจะมีการเพิ่มมาตรการเชิงรุก ทั้งการปราบปราม การติดตามคนร้ายและระมัดระวังป้องกันปัญหา จากที่ผ่านมา ที่เน้นตั้งรับกันมานาน สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในหน่วยราชการนั้น เห็นว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไม่คำนึงถึงความสูญเสีย คิดว่าขณะนี้คนไทยมีความรู้สึกร่วมกันแล้ว
พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวด้วยว่า จะให้เวลาเจ้าหน้าที่ปรับการทำงานเชิงรุกภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้หลังจากนั้น จะลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อติดตามการทำงานเป็นรายอำเภอโดยตั้งใจว่าจะลงไปนอนค้างเป็นรายอำเภอ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเพราะในอดีตเจ้าหน้าที่ไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายมากนัก เพราะกลัวเสียงานมวลชน ซึ่งต่อไปจะมีการติดตามดูแลการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงการประสานงานและเพิ่มศักยภาพของเจ้าหน้าที่ เพราะแม้จะมีการพัฒนาด้านการข่าวออกมาดีแล้วแต่ยังมีปัญหาเรื่องศักยภาพในการประสานงาน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ.กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ว่า ส่วนใหญ่เป็นกรณีเล็กๆ น้อยๆและจากที่ได้รับรายงานจาก พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.สสส.จชต.บอกว่าสามารถตรวจค้นการลอบวางระเบิดได้หลายแห่ง ซึ่งจะต้องขยายผลต่อไป ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของผู้ก่อความไม่สงบต้องการก่อกวน แต่ก็มั่นใจว่าความวุ่นวายเหล่านี้จะลดน้อยลงไปหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการดำเนินการ
กลุ่มคนร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังไม่ลด ละ เลิก ก่อความไม่สงบ เมื่อเวลา 05.00 น.วานนี้ (13 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นอีกที่บริเวณ หน้าธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ตั้งอยู่ที่เลขที่ 189 ถนนสายแว้ง-สุไหงโก-ลก ห่างจาก สภ.อ.แว้ง 800 เมตร หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ปรีชา กิ่มเกลี้ยง หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบว่าที่บริเวณกระบะปลูกต้นหมากแดงตรงทางบันไดขึ้นธนาคารมีดินกระจุยกระจายปะปนกับเศษวัตถุระเบิดจำนวนมาก นอกจากนี้ที่บริเวณฝ้าเพดานใต้ป้ายชื่อธนาคารยังถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายหลายแผ่น
ระเบิดดังกล่าวเป็นแบบแสวงเครื่องอีมัลชั่นพาวเวอร์เจล มีน้ำหนักประมาณ 2 ก.ก.มีอนุภาพทำลายรัศมีกว้าง 20 เมตร โดยคนร้ายได้นำมาประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก โดยต่อวงจรกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อป้องกันความชื้นที่เจ้าหน้าที่มักเก็บกู้ด้วยการใช้รถดับเพลิงในการฉีดน้ำ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่น 2 คนขับรถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดที่หน้าธนาคาร ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านรอขึ้นรถโดยสารเพื่อไปจ่ายตลาดใน อ.สุไหงโก-ลก หลังจากวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์พ้นไปไม่นานก็เกิดระเบิดขึ้น
ต่อมาเวลา 07.30 น.ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส คนร้ายลอบวางระเบิดรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลปะลุรู ทะเบียน 80-4098 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่ข้างร้านขายกาแฟใน สภ.อ.สุไหงปาดี ประมาณ 10 เมตร เสียหายยับเยินและมีพนักงานเทศบาลเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล คือ นายเอี่ยม อำพันทอง อายุ 45 ปี และบาดเจ็บอีก 4 ราย คือ นายภาต อุปขวัญ พนักงานขับรถ, นายสมพงษ์ อุปขวัญ, นายอานนท์ พ้นภัย พนักงานเก็บขยะ และ ด.ต.มะนอ สะอิ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.อ.สุไหงปาดี ทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เติม อินทะสะระ ผกก.สภ.อ.สุไหงปาดี ได้ประสานไปยัง ร.ต.อ.ชัยณรงค์ ละมุล หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.447 บ้านเจาะวา มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ วันหะภิงค์ รอง ผบก.กองปราบปรามได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาตรวจสอบยังจุดที่เกิดเหตุร่วมกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ปรากฎพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือมีน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมที่คนร้ายใส่ไว้ในถังน้ำยาเคมีดับเพลิงโดยแรงระเบิดทำให้กระจกของห้องพนักงานสอบสวน สภ.อ.สุไหงปาดี รวมทั้งผนังร้านกาแฟได้รับความเสียหาย
เวลา14.30 น.ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้รายงานวิทยุด่วนไปยัง 6 อำเภอของ จ.สงขลา ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่,จะนะ,เทพา,สะบ้าย้อย,สะเดา และนาทวี ให้ระวังคนร้ายเข้ามาก่อสร้างสถานการณ์ โดยได้เน้นพิเศษในเขตตัวเมืองหาดใหญ่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทุกชุดประสานไปยังธนาคาร, ร้านทอง, ห้างสรรพสิน และโรงแรมต่างๆ ในเขตตัวเมืองให้ตรวจสอบสิ่งผิดปกติบริเวณหน้าร้านและตัวอาคาร หากเป็นไปได้ให้เคลียร์กระถางต้นไม้ออกเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
ขณะเดียวกันให้ตำรวจสายตรวจเฝ้าระหว่างรถยนต์และรถจักยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ หากจอดไว้จะต้องมีตำรวจเฝ้าดูแลและห้ามจอดทิ้งเพื่อป้องกันคนร้ายนำระเบิดไปวางเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่จอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน มาตรการดังกล่าวจะต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 14 -18 มิถุนายน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุร้าย
เวลา 16.00 น.ได้เกิดเหตุ 2 คนร้ายใช้ปืนอาก้าตามประกบยิงนายทวีพงษ์ หวานจิตต์ และนายทวีวัฒน์ หวานจิตต์ สองพี่น้องฝาแฝด ซึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพสายบุรี จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์จะกลับบ้านพักเลขที่ 24 หมู่ 5 ต.แป้น อ.สายบุรี กระสุนถูกนายทวีพงษ์ เข้าที่ศีรษะเสียชีวิต ส่วนนายทวีวัฒน์ กระสุนถูกบริเวณลำตัวบาดเจ็บ และถูกนำส่งโรงพยาบาลปัตตานี สาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนว่าเป็นเหตุก่อความไม่สงบหรือไม่ เนื่องจากกรณีทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษาวัยรุ่นจนมีการฆ่ากันตายยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่นี้
ขณะที่ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร หัวหน้าสถานีตำรวจ ให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น ต่อไปการปราบปรามจะมีการเพิ่มมาตรการเชิงรุก ทั้งการปราบปราม การติดตามคนร้ายและระมัดระวังป้องกันปัญหา จากที่ผ่านมา ที่เน้นตั้งรับกันมานาน สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในหน่วยราชการนั้น เห็นว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไม่คำนึงถึงความสูญเสีย คิดว่าขณะนี้คนไทยมีความรู้สึกร่วมกันแล้ว
พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวด้วยว่า จะให้เวลาเจ้าหน้าที่ปรับการทำงานเชิงรุกภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้หลังจากนั้น จะลงพื้นที่ด้วยตนเองเพื่อติดตามการทำงานเป็นรายอำเภอโดยตั้งใจว่าจะลงไปนอนค้างเป็นรายอำเภอ ทั้งนี้ ยอมรับว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเพราะในอดีตเจ้าหน้าที่ไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายมากนัก เพราะกลัวเสียงานมวลชน ซึ่งต่อไปจะมีการติดตามดูแลการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับปรุงการประสานงานและเพิ่มศักยภาพของเจ้าหน้าที่ เพราะแม้จะมีการพัฒนาด้านการข่าวออกมาดีแล้วแต่ยังมีปัญหาเรื่องศักยภาพในการประสานงาน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผบ.ทบ.กล่าวถึงเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น ว่า ส่วนใหญ่เป็นกรณีเล็กๆ น้อยๆและจากที่ได้รับรายงานจาก พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการ กอ.สสส.จชต.บอกว่าสามารถตรวจค้นการลอบวางระเบิดได้หลายแห่ง ซึ่งจะต้องขยายผลต่อไป ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายของผู้ก่อความไม่สงบต้องการก่อกวน แต่ก็มั่นใจว่าความวุ่นวายเหล่านี้จะลดน้อยลงไปหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการดำเนินการ