ผู้จัดการรายวัน –ยูเอ็นคาดความต้องการพลังงานโลกปี 2020 พุ่งเกือบทะลุ 10,000 ล้านตัน เร่งจัดตั้งสถาบันการเงินใหม่รองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
คิมฮัก-ซู เลขาธิการคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมสหประชาชาติประจำเอเชีย-แปซิฟิกกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างงานเอเชีย คอร์ปอเรท คอนเฟอเรนซ์ที่จัดโดยเอเชีย โซไซตี้วานนี้ (9) ว่า ดีมานด์การใช้พลังงานทั่วโลกทั้งหมดในปี 2020 จะอยู่ที่ 9,754 ล้านตัน โดยดีมานด์ในเอเชีย-แปซิฟิกสูงถึง 4,153 ล้านตัน
ทั้งนี้เขาระบุว่า ดีมานด์พลังงานที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเดินตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2020 เอเชียอาคเนย์จะต้องการใช้พลังงานราว 573 ล้านตัน
ด้านความต้องการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานในช่วงปี 2000-2020 ของทั่วโลกจะอยู่ที่ 10,161 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความต้องการการลงทุน 693 พันล้านดอลลาร์
เขาระบุว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญมี 2 ส่วนคือ ด้านพลังงานและการคมนาคม ซึ่งการคมนาคมนั้นประกอบด้วยถนน ระบบราง โทรคมนาคม
คิมกล่าวต่อว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระหว่างปี 2006-2010 ของเอเชียตะวันออกทั้งหมดอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และเฉพาะการขนส่งในเอเชียอาคเนย์จะอยู่ที่ 60,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากประเด็นเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้ว การจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนาดังกล่าวก็เป็นเรื่องสำคัญ กล่าวคือ ความต้องการเงินทุนต่อปีอยู่ที่ 200-300 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มีเงินทุนสำหรับทั้งภูมิภาคเพียง 50 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
สาเหตุสำคัญของการขาดแคลนเงินทุนคือ สถาบันการเงินที่มีอยู่ไม่มีศักยภาพการปล่อยเงินกู้ การไม่ยอมเสี่ยง และการที่ไม่มีเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้เขาเสนอให้มีการตั้งสถาบันการเงินใหม่สำหรับภูมิภาคเพื่อใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างปัจจัยพื้นฐาน หรือที่เรียกว่า เอเชียน อินเวสต์เมนต์ แบงก์ (เอไอบี)
คิมอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องมีสถาบันการเงินดังกล่าวคือ เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการลงทุนข้ามพรมแดนหลากหลายโครงการ ตลอดจนตลาดทุนเอเชียมีข้อจำกัดสำหรับโครงการใหม่ๆ อีกทั้งยังไม่มีสถาบันการเงินในภูมิภาค และการมีเอไอบีช่วยเพิ่มศักยภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ อนันต์ สิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสของฝ่ายกลยุทธ์บริษัทและการพัฒนาของปตต.กล่าวว่า มีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากการบริโภคเพิ่มมากขึ้น
เขาบอกว่า ไทยผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 30% ของการบริโภคทั้งหมดแต่ก็ยังต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ พร้อมเสริมว่า อีก 10 ปี ราคาน้ำมันจะทะยานขึ้น 3 เท่าตัว
ด้านสตีเฟน กรีน ประธานกรรมการยูโนแคล ประเทศไทยกล่าวว่า ความต้องการน้ำมันจะยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อีกทั้งระบุว่า หากดีมานด์กับซัปพลายอยู่ในระดับใกล้เคียงกันเช่นนี้ ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาราคาได้
อนึ่ง เอเชีย โซไซตี้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1956 เป็นสถาบันชั้นนำของอเมริกาที่ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับเอเชีย และการสื่อสารระหว่างคนอเมริกันกับคนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งนี้เอเชีย โซไซตี้เป็นสื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์และความหลากหลายของเอเชียไปยังคนอเมริกันผ่านทางนิทรรศการศิลปะ ภาพยนตร์ การบรรยาย สัมมนา และการประชุม
คิมฮัก-ซู เลขาธิการคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมสหประชาชาติประจำเอเชีย-แปซิฟิกกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างงานเอเชีย คอร์ปอเรท คอนเฟอเรนซ์ที่จัดโดยเอเชีย โซไซตี้วานนี้ (9) ว่า ดีมานด์การใช้พลังงานทั่วโลกทั้งหมดในปี 2020 จะอยู่ที่ 9,754 ล้านตัน โดยดีมานด์ในเอเชีย-แปซิฟิกสูงถึง 4,153 ล้านตัน
ทั้งนี้เขาระบุว่า ดีมานด์พลังงานที่เพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเดินตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2020 เอเชียอาคเนย์จะต้องการใช้พลังงานราว 573 ล้านตัน
ด้านความต้องการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานในช่วงปี 2000-2020 ของทั่วโลกจะอยู่ที่ 10,161 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่เอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีความต้องการการลงทุน 693 พันล้านดอลลาร์
เขาระบุว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญมี 2 ส่วนคือ ด้านพลังงานและการคมนาคม ซึ่งการคมนาคมนั้นประกอบด้วยถนน ระบบราง โทรคมนาคม
คิมกล่าวต่อว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระหว่างปี 2006-2010 ของเอเชียตะวันออกทั้งหมดอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ และเฉพาะการขนส่งในเอเชียอาคเนย์จะอยู่ที่ 60,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากประเด็นเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแล้ว การจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนาดังกล่าวก็เป็นเรื่องสำคัญ กล่าวคือ ความต้องการเงินทุนต่อปีอยู่ที่ 200-300 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่มีเงินทุนสำหรับทั้งภูมิภาคเพียง 50 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
สาเหตุสำคัญของการขาดแคลนเงินทุนคือ สถาบันการเงินที่มีอยู่ไม่มีศักยภาพการปล่อยเงินกู้ การไม่ยอมเสี่ยง และการที่ไม่มีเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน
ทั้งนี้เขาเสนอให้มีการตั้งสถาบันการเงินใหม่สำหรับภูมิภาคเพื่อใช้ในการลงทุนด้านโครงสร้างปัจจัยพื้นฐาน หรือที่เรียกว่า เอเชียน อินเวสต์เมนต์ แบงก์ (เอไอบี)
คิมอธิบายถึงเหตุผลที่ต้องมีสถาบันการเงินดังกล่าวคือ เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการลงทุนข้ามพรมแดนหลากหลายโครงการ ตลอดจนตลาดทุนเอเชียมีข้อจำกัดสำหรับโครงการใหม่ๆ อีกทั้งยังไม่มีสถาบันการเงินในภูมิภาค และการมีเอไอบีช่วยเพิ่มศักยภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ อนันต์ สิริแสงทักษิณ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสของฝ่ายกลยุทธ์บริษัทและการพัฒนาของปตต.กล่าวว่า มีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากการบริโภคเพิ่มมากขึ้น
เขาบอกว่า ไทยผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 30% ของการบริโภคทั้งหมดแต่ก็ยังต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ พร้อมเสริมว่า อีก 10 ปี ราคาน้ำมันจะทะยานขึ้น 3 เท่าตัว
ด้านสตีเฟน กรีน ประธานกรรมการยูโนแคล ประเทศไทยกล่าวว่า ความต้องการน้ำมันจะยังเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ อีกทั้งระบุว่า หากดีมานด์กับซัปพลายอยู่ในระดับใกล้เคียงกันเช่นนี้ ก็จะเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาราคาได้
อนึ่ง เอเชีย โซไซตี้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1956 เป็นสถาบันชั้นนำของอเมริกาที่ตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับเอเชีย และการสื่อสารระหว่างคนอเมริกันกับคนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งนี้เอเชีย โซไซตี้เป็นสื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์และความหลากหลายของเอเชียไปยังคนอเมริกันผ่านทางนิทรรศการศิลปะ ภาพยนตร์ การบรรยาย สัมมนา และการประชุม