เอเชียไทมส์ออนไลน์-ทิศทางใหม่ในแวดวงธุรกิจเอาต์ซอร์ส บรรดาผู้ซื้อบริการเช่นนี้จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกไม่พอใจผู้ให้บริการซึ่งอยู่ในต่างประเทศ และกระทั่งถึงขั้นบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทซึ่งแสดงความไม่สบอารมณ์เหล่านี้จำนวนมาก กลับยังคงวางแผนเพิ่มการเอาต์ซอร์สมากขึ้น ทั้งนี้เป็นผลการวิจัยล่าสุดของ ไดมอนด์คลัสเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทที่ปรึกษาการบริหารระดับโลก
รายงานการศึกษาเอาต์ซอร์สซิ่งแวดวงไอทีทั่วโลกปี 2005 ของไดมอนด์คลัสเตอร์ระบุว่า จำนวนผู้ซื้อบริการที่บอกเลิกข้อตกลงเอาต์ซอร์สก่อนกำหนด มีถึง 51% เพิ่มเป็น 2 เท่าตัวจากการสำรวจคราวก่อน ขณะเดียวกับที่จำนวนผู้ซื้อซึ่งแสดงความพอใจในผู้ให้บริการที่อยู่นอกประเทศ ก็ลดต่ำลงจาก 79% เหลือ 62%
ทว่า ทอม วีกแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายให้คำปรึกษาด้านเอาต์ซอร์สซิ่งของไดมอนด์คลัสเตอร์ ชี้ว่า เรื่องนี้จะโทษผู้ให้บริการแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะเมื่อนับถึงปัจจุบัน ผู้ซื้อจำนวนมากต่างมีประสบการณ์ใช้บริการเอาต์ซอร์สมาหลายปีแล้ว แต่ที่ยังต้องตัดสัมพันธ์กันกลางคัน เนื่องจากพวกเขายังคงไม่ได้วางมาตรการซึ่งมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้วัดความสำเร็จในแผนงานเอาต์ซอร์สของพวกเขา
การวิจัยของไดมอนด์คลัสเตอร์คราวนี้ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้ว ยังกลายเป็นปีแรกที่เกิดมีผู้ซื้อแจ้งว่ากำลังวางแผนลดการใช้จ่ายด้านเอาต์ซอร์ส กล่าวคือ ประมาณ 7% บอกว่าจะลดการเอาต์ซอร์สที่ให้แก่ผู้ให้บริการภายในประเทศ และราว 5% จะลดการเอาต์ซอร์สซึ่งให้แก่ผู้ให้บริการในต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงผลประโยชน์ของการใช้บริการเอาต์ซอร์ส ปรากฏว่าผู้ซื้อจำนวนท่วมท้นคือ 83% บอกว่า มันช่วยให้สามารถจัดสรรกำลังทรัพยากรภายในบริษัทกันใหม่ เพื่อทุ่มให้แก่ภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งกว่าได้มากขึ้น โดยที่เรื่องการลดต้นทุน ซึ่งเป็นเหตุผลข้อที่มักเข้าใจกันว่าสำคัญที่สุดนั้น กลับได้คะแนนตามมาเป็นอันดับสอง
"ผลวิจัยนี้บ่งบอกหลายๆ อย่างที่เรากำลังมองเห็นว่าเกิดขึ้นในตลาด" วีกแลนด์ชี้ "บริษัทต่างๆ กำลังเรียนรู้ว่า ที่พวกให้บริการเอาต์ซอร์สชอบสัญญาว่าจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนได้อย่างมหาศาลนั้น เอาเข้าจริงก็ยากนักที่จะเกิดผลดังกล่าวขึ้นมาได้ แต่ขณะเดียวกัน บริษัทเหล่านี้ก็กำลังเรียนรู้มากขึ้นถึงต้นทุนของการต้องเสียคนดีๆ ไป และมูลค่าของความรู้เชิงสถาบันของมือดีเหล่านี้"
รายงานการศึกษาล่าสุดของไดมอนด์คลัสเตอร์ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
*40% ของผู้ซื้อบริการคาดหมายว่าจะเอาต์ซอร์สภาระงานด้านไอทีบางส่วนไปให้จีนในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพิ่มพรวดจากระดับ 8% ในการสำรวจปีที่แล้ว ส่วนประเทศซึ่งได้รับความนิยมที่จะไปใช้บริการเอาต์ซอร์สลดน้อยลง ได้แก่ อิสราเอล และ รัสเซีย
*88% ของผู้ซื้อบริการ ยังคงกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาในทางลบของพนักงานลูกจ้างของบริษัท แต่ความวิตกเรื่องจะมีการออกกฎหมายต่อต้านการเอาต์ซอร์สและจะถูกแรงกดดันทางการเมืองกลับลดน้อยลง
*ผู้ซื้อบริการแจ้งว่า ความเสี่ยงสำคัญที่สุดของการใช้บริการเอาต์ซอร์ส ได้แก่ การบริหารจัดการความสัมพันธ์แบบนี้กำลังเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ , ประสิทธิภาพเชิงการดำเนินงานจากการใช้บริการเอาต์ซอร์สกำลังลดต่ำลง, และคุณภาพผลงานจากผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สกำลังย่ำแย่ลง
รายงานการศึกษาเอาต์ซอร์สซิ่งแวดวงไอทีทั่วโลกปี 2005 ของไดมอนด์คลัสเตอร์ จัดทำขึ้นจากการสำรวจและการอภิปรายในเชิงลึกกับผู้บริหารอาวุโสด้านไอที 210 คนในบริษัทระดับโลก 1,000 แห่ง และกับผู้บริหารอาวุโส 242 คนในบริษัทให้บริการเอาต์ซอร์สทั้งในสหรัฐฯ, อินเดีย และประเทศอื่นๆ
รายงานการศึกษาเอาต์ซอร์สซิ่งแวดวงไอทีทั่วโลกปี 2005 ของไดมอนด์คลัสเตอร์ระบุว่า จำนวนผู้ซื้อบริการที่บอกเลิกข้อตกลงเอาต์ซอร์สก่อนกำหนด มีถึง 51% เพิ่มเป็น 2 เท่าตัวจากการสำรวจคราวก่อน ขณะเดียวกับที่จำนวนผู้ซื้อซึ่งแสดงความพอใจในผู้ให้บริการที่อยู่นอกประเทศ ก็ลดต่ำลงจาก 79% เหลือ 62%
ทว่า ทอม วีกแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายให้คำปรึกษาด้านเอาต์ซอร์สซิ่งของไดมอนด์คลัสเตอร์ ชี้ว่า เรื่องนี้จะโทษผู้ให้บริการแต่ฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะเมื่อนับถึงปัจจุบัน ผู้ซื้อจำนวนมากต่างมีประสบการณ์ใช้บริการเอาต์ซอร์สมาหลายปีแล้ว แต่ที่ยังต้องตัดสัมพันธ์กันกลางคัน เนื่องจากพวกเขายังคงไม่ได้วางมาตรการซึ่งมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้วัดความสำเร็จในแผนงานเอาต์ซอร์สของพวกเขา
การวิจัยของไดมอนด์คลัสเตอร์คราวนี้ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้ว ยังกลายเป็นปีแรกที่เกิดมีผู้ซื้อแจ้งว่ากำลังวางแผนลดการใช้จ่ายด้านเอาต์ซอร์ส กล่าวคือ ประมาณ 7% บอกว่าจะลดการเอาต์ซอร์สที่ให้แก่ผู้ให้บริการภายในประเทศ และราว 5% จะลดการเอาต์ซอร์สซึ่งให้แก่ผู้ให้บริการในต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน เมื่อพูดถึงผลประโยชน์ของการใช้บริการเอาต์ซอร์ส ปรากฏว่าผู้ซื้อจำนวนท่วมท้นคือ 83% บอกว่า มันช่วยให้สามารถจัดสรรกำลังทรัพยากรภายในบริษัทกันใหม่ เพื่อทุ่มให้แก่ภาระหน้าที่อันสำคัญยิ่งกว่าได้มากขึ้น โดยที่เรื่องการลดต้นทุน ซึ่งเป็นเหตุผลข้อที่มักเข้าใจกันว่าสำคัญที่สุดนั้น กลับได้คะแนนตามมาเป็นอันดับสอง
"ผลวิจัยนี้บ่งบอกหลายๆ อย่างที่เรากำลังมองเห็นว่าเกิดขึ้นในตลาด" วีกแลนด์ชี้ "บริษัทต่างๆ กำลังเรียนรู้ว่า ที่พวกให้บริการเอาต์ซอร์สชอบสัญญาว่าจะช่วยให้ประหยัดต้นทุนได้อย่างมหาศาลนั้น เอาเข้าจริงก็ยากนักที่จะเกิดผลดังกล่าวขึ้นมาได้ แต่ขณะเดียวกัน บริษัทเหล่านี้ก็กำลังเรียนรู้มากขึ้นถึงต้นทุนของการต้องเสียคนดีๆ ไป และมูลค่าของความรู้เชิงสถาบันของมือดีเหล่านี้"
รายงานการศึกษาล่าสุดของไดมอนด์คลัสเตอร์ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
*40% ของผู้ซื้อบริการคาดหมายว่าจะเอาต์ซอร์สภาระงานด้านไอทีบางส่วนไปให้จีนในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เพิ่มพรวดจากระดับ 8% ในการสำรวจปีที่แล้ว ส่วนประเทศซึ่งได้รับความนิยมที่จะไปใช้บริการเอาต์ซอร์สลดน้อยลง ได้แก่ อิสราเอล และ รัสเซีย
*88% ของผู้ซื้อบริการ ยังคงกังวลเกี่ยวกับปฏิกิริยาในทางลบของพนักงานลูกจ้างของบริษัท แต่ความวิตกเรื่องจะมีการออกกฎหมายต่อต้านการเอาต์ซอร์สและจะถูกแรงกดดันทางการเมืองกลับลดน้อยลง
*ผู้ซื้อบริการแจ้งว่า ความเสี่ยงสำคัญที่สุดของการใช้บริการเอาต์ซอร์ส ได้แก่ การบริหารจัดการความสัมพันธ์แบบนี้กำลังเพิ่มความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ , ประสิทธิภาพเชิงการดำเนินงานจากการใช้บริการเอาต์ซอร์สกำลังลดต่ำลง, และคุณภาพผลงานจากผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สกำลังย่ำแย่ลง
รายงานการศึกษาเอาต์ซอร์สซิ่งแวดวงไอทีทั่วโลกปี 2005 ของไดมอนด์คลัสเตอร์ จัดทำขึ้นจากการสำรวจและการอภิปรายในเชิงลึกกับผู้บริหารอาวุโสด้านไอที 210 คนในบริษัทระดับโลก 1,000 แห่ง และกับผู้บริหารอาวุโส 242 คนในบริษัทให้บริการเอาต์ซอร์สทั้งในสหรัฐฯ, อินเดีย และประเทศอื่นๆ