xs
xsm
sm
md
lg

GMยกเครื่องใหญ่-ปลด 25,000คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ – จีเอ็มเผยแผนการยกเครื่องธุรกิจครั้งใหญ่ สั่งเลย์ออฟพนักงานและปิดโรงงานบางแห่ง โดยตั้งเป้าพลิกฟื้นศักยภาพการทำกำไรของบริษัทในฐานะผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของโลก เพื่อแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง

ริก วาโกเนอร์ ประธานกรรมการและประธานบริหารของเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ประกาศในที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีที่รัฐเดลาแวร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (7) ว่า จะปลดพนักงานในสหรัฐฯ อย่างน้อย 25,000 คนภายในปี 2005-2008 และจะปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์จำนวนหนึ่งลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตามแผนการยกเครื่องปฏิบัติการในอเมริกาเหนือ ซึ่งคาดว่า จะลดค่าใช้จ่ายได้ 2,500 ล้านดอลลาร์ต่อปี

“ประเด็นในการปฏิบัติการที่ท้าทายและสำคัญที่สุดที่เรากำลังเผชิญอยู่ก็คือ การทำให้จีเอ็มสาขาอเมริกาเหนือซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเรา ฟื้นตัวและกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง” เขากล่าว

อนึ่ง จีเอ็มขาดทุนถึง 1,100 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกปี 2005 และกำลังประสบวิกฤตทางการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 1 ทศวรรษ ทั้งนี้จีเอ็มได้ดำเนินการปิดโรงงานมาแล้วหลายแห่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งปรับลดศักยภาพการประกอบรถยนต์ประจำปีในอเมริกาเหนือจาก 6 ล้านคันในปี 2002 เหลือ 5 ล้านคันในปลายปีนี้ด้วย

รายงานประจำปีของฮาร์เบอร์ คอนซัลติ้ง ออฟ ทรอยจากมิชิแกนเกี่ยวกับปฏิบัติการการผลิตในอเมริกาเหนือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้จัดให้จีเอ็มอยู่ในอันดับท้ายสุดในบรรดาผู้ผลิตรถชั้นนำในด้านอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์ โดยปี 2004 จีเอ็มใช้ศักยภาพของโรงงานในอเมริกาเหนือเพียง 85% เมื่อเทียบกับ 107% ของโตโยต้า มอเตอร์

กระนั้นก็ดี แถลงการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึง แรงผลักดันครั้งใหม่ของจีเอ็มที่จะปรับปรุงปฏิบัติการในสหรัฐฯ เพื่อเผชิญหน้ากับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่สูญเสียให้กับผู้ผลิตจากเอเชีย

วาโกเนอร์ยอมรับว่า จีเอ็มได้รับแรงกดดันเรื่องค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ รวมถึงด้านสาธารณสุขที่เพิ่มมากขึ้น ตลอดจนยอดขายรถยนต์อเนกประสงค์ที่หล่นลง แต่ระบุว่า จีเอ็มจะปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนขึ้นเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในอเมริกาเหนือ และคาดว่าจะยังคงระดับนี้ต่อไปจนถึงปี 2006

นอกจากนี้ วาโกเนอร์กล่าวว่า ส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งของแผนการครั้งนี้ยังรวมไปถึง “การสร้างความชัดเจนและการมุ่งเน้น” บทบาทของแบรนด์รถ 8 ยี่ห้อในเครือจีเอ็ม ซึ่งหมายถึง “การเจาะตลาดด้วยแบรนด์จำนวนไม่มากนักแต่แข็งแกร่ง” นับตั้งแต่รถปอนเตียกไปจนถึงบูอิก

ด้านจอห์น ชาลเลนเจอร์ ซีอีโอแห่งชาลเลนเจอร์ เกรย์ แอนด์ คริสต์มาสชี้ว่า ความเคลื่อนไหวของจีเอ็มครั้งนี้ถือเป็นการประกาศปลดพนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ นับแต่เคมาร์ทประกาศลอยแพพนักงาน 37,000 คนในเดือนมกราคม 2003

เขาทิ้งท้ายว่า “คำประกาศนี้อาจไม่ใช่การปลดพนักงานครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในปีนี้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตอเมริกันรายอื่นๆ ยังพยายามดิ้นรนที่จะสร้างผลกำไร ท่ามกลางค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการตัดสินใจเช่นเดียวกับจีเอ็ม เว้นเสียแต่ว่าบริษัทต่างๆจะสามารถลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลงได้”
กำลังโหลดความคิดเห็น