xs
xsm
sm
md
lg

คนรวย-ชนชั้นกลางUSใจตรงกัน กลัวลูกลำบากด้านการเงินมากที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Agencies – ผลสำรวจเผย คนรวยและชนชั้นกลางแดนมะกันมีความกังวลใจในเรื่องเดียวกัน โดยอันดับ 1 คือ ฐานะทางการเงินของลูกๆในอนาคต อันดับต่อมาคือ การก่อการร้ายซึ่งครองอันดับ 1 ในปีที่แล้ว และอันดับ 3 คือ ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาที่เพิ่มสูงลิบลิ่ว

ผลสำรวจครั้งที่ 24 ของยู.เอส. ทรัสต์ บริษัทบริหารจัดการความมั่งคั่งจากสหรัฐฯ ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (7) พบว่า สำหรับเรื่องอนาคตวัยเกษียณ ราว 57% ของคนอเมริกันที่ร่ำรวยวางแผนที่จะทำงานพาร์ตไทม์ ส่วน 26% ตั้งใจที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ ขณะที่การศึกษาอื่นๆ บ่งชี้ว่า ชาวอเมริกันฐานะปานกลางก็จะทำงานเมื่อถึงวัยเกษียณเช่นกัน เนื่องจากเหตุผล 2 ประการคือ ต้องการทำงานและจำเป็นต้องทำ

พอล เค. นาโปลิ รองประธานบริหารและหัวหน้าฝ่ายการบริหารจัดการความมั่งคั่งส่วนบุคคลในนิวยอร์กชี้ว่า “ไม่น่าประหลาดใจที่คน 2 กลุ่มนี้มีความกังวลใจและเป้าหมายลักษณะเดียวกัน เนื่องจากคนร่ำรวยเหล่านี้สร้างฐานะตนเองขึ้นมาจากชนชั้นกลาง ด้วยการทำงานหนักและประสบความสำเร็จ ดังนั้นพวกเขาจึงมีความรู้สึกเกี่ยวกับลูกและคนรุ่นต่อไปในสังคมเช่นเดียวกัน”

อย่างไรก็ดี คนรวยที่มีรายได้สุทธิมากกว่า 300,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 5.9 ล้านดอลลาร์ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆ แตกต่างไปจากคนฐานะปานกลาง

ตัวอย่างเช่น การลดลงของทัศนคติในแง่บวกเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยนาโปลิแจงว่า เรื่องดังกล่าวสะท้อนถึงทางเลือกในการลงทุนที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ในช่วงทศวรรษ 1990 ที่ตลาดหุ้นเฟื่องฟูสุดขีด คนรวยเก็บเงิน 2 ใน 3 ที่มีในรูปของหุ้น แต่เมื่อฟองสบู่ด้านเทคโนโลยีในช่วงต้นปี 2000 แตกและมีผลให้ตลาดหุ้นเริ่มตกต่ำ ทำให้นักลงทุนเหล่านี้มีความระวังระไวมากขึ้นในการลงทุนในหุ้น

ดังนั้นผลสำรวจล่าสุดจึงพบว่า การลงทุนของคนร่ำรวยในตราสารหุ้นภายในประเทศจึงมีอยู่เพียง 36% และ เงินลงทุน 17% อยู่ในรูปของเงินสดหรือการถือครองทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูง ขณะที่ 19% อยู่ในรูปของหุ้นกู้ และส่วนที่เหลือคือ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจส่วนตัว การร่วมลงทุน และเฮดจ์ฟันด์

นอกจากนี้ คนรวยส่วนใหญ่วางแผนที่จะเกษียณเมื่ออายุ 63 ปี โดย 3 ใน 4 กล่าวว่า พวกเขามีที่อยู่อาศัยยามปลดเกษียณแล้ว และเกือบ 2 ใน 3 มีแผนที่จะคงจำนวนที่อยู่อาศัยที่มีอยู่มากกว่า 1 แห่งต่อไป

อนึ่ง ผลสำรวจครั้งนี้ได้จากการสัมภาษณ์ครัวเรือนที่มีฐานะมั่งคั่งมากกว่า 150 ครัวเรือนเป็นเวลา 30 นาทีในช่วงระหว่างกลางเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น