เอเอฟพี – อดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซียระบุ รถโปรตอนกำลังได้รับผลกระทบจากรถยนต์ต่างชาติที่นำเข้าประเทศมาขายในราคาถูก พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบใบอนุญาตนำเข้า
มหาเธร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับโปรตอน เรียกร้องวานนี้ (8) อีกว่า ควรมีการจำกัดสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อชดเชยกับความยากลำบากของโปรตอนในการเจาะตลาดแดนมังกร
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ได้กล่าวโทษจีน เพราะนี่เป็นนโยบายของเขา แต่หากว่าพวกเขาปกป้องสินค้าของตน พวกเราก็ต้องปกป้องด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้มหาเธร์ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบใบอนุญาตการนำเข้า (เอพี) หลายพันใบที่อนุมัติให้กับคนมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นใบเบิกทางให้คนกลุ่มนี้สามารถนำเข้ารถยนต์ต่างชาติในราคาถูก
เขาเสริมว่า ราคารถนั้นต่ำกว่าความเป็นจริง และราคาถูกเมื่อนำเข้ามาขายในมาเลเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของโปรตอน
“บางครั้ง รถนั้นมีราคาต่ำกว่าต้นทุนของวัตถุดิบเสียอีก ดังนั้นผมจึงร้องขอหลักฐานของแต่ละบุคคลที่ได้รับเอพี และประกาศให้สาธารณชนรับทราบ พวกเราก็จะรู้ว่า โปรตอนหรือรถยนต์ต่างชาติที่ได้รับการปกป้องกันแน่”
กระนั้นก็ดี ทางการเสือเหลืองระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะไม่เปิดเผยรายชื่อของผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้า ซึ่งมหาเธร์บอกว่ามีถึง 67,000 รายต่อปี
เมื่อแรกเริ่มนั้น การขอใบอนุญาตนั้นใช้เฉพาะการนำเข้ารถยนต์หรู ทว่าได้ขยายขอบเขตไปยังรถยนต์ราคาถูกจากผู้ผลิตในเอเชีย
ทั้งนี้มหาเธร์อธิบายว่า “รถบางคันนำเข้ามาในมาเลเซียด้วยราคา 11,000 ริงกิตต่อคัน (2,900 ดอลลาร์) ไม่มีทางที่โปรตอนจะสามารถแข่งขันได้” เนื่องจากรถโปรตอนที่ถูกที่สุดมีราคา 40,000 ริงกิต
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า “ส่วนแบ่งตลาดของโปรตอนลดลง ทว่ายอดขายในประเทศไม่ได้ลดลง” พร้อมเสริมว่า โปรตอนกำลังเพิ่มการผลิต
อนึ่ง โปรตอนได้รับการปกป้องจากภาษีอากรและภาษีขาเข้าค่อนข้างสูงที่เรียกเก็บกับรถต่างชาติ แต่ก็เผชิญกับสภาพการแข่งขันใหม่ภายใต้ข้อตกลงการค้าในภูมิภาคที่กำลังยกเลิกมาตรการการกีดกัน
ทั้งนี้โปรตอนตั้งเป้าว่า จะส่งออกรถยนต์อย่างน้อย 100,000 คันต่อปีภายในปี 2008 โดยเมื่อปี 2004 โปรตอนมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 17,000 คัน จาก 8,000 คันในปี 2003 และในปีนี้โปรตอนตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในต่างประเทศอีกเท่าตัว
ทว่า บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า โปรตอนยังไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถต่างชาติชั้นนำได้ เนื่องจากรถของโปรตอนยังขาดแคลนลูกเล่นที่เป็นมาตรฐานสำหรับรถปัจจุบัน
มหาเธร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับโปรตอน เรียกร้องวานนี้ (8) อีกว่า ควรมีการจำกัดสินค้านำเข้าจากจีนเพื่อชดเชยกับความยากลำบากของโปรตอนในการเจาะตลาดแดนมังกร
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไม่ได้กล่าวโทษจีน เพราะนี่เป็นนโยบายของเขา แต่หากว่าพวกเขาปกป้องสินค้าของตน พวกเราก็ต้องปกป้องด้วยเช่นกัน”
นอกจากนี้มหาเธร์ยังเรียกร้องให้มีการตรวจสอบใบอนุญาตการนำเข้า (เอพี) หลายพันใบที่อนุมัติให้กับคนมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีอิทธิพล เพราะเป็นใบเบิกทางให้คนกลุ่มนี้สามารถนำเข้ารถยนต์ต่างชาติในราคาถูก
เขาเสริมว่า ราคารถนั้นต่ำกว่าความเป็นจริง และราคาถูกเมื่อนำเข้ามาขายในมาเลเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของโปรตอน
“บางครั้ง รถนั้นมีราคาต่ำกว่าต้นทุนของวัตถุดิบเสียอีก ดังนั้นผมจึงร้องขอหลักฐานของแต่ละบุคคลที่ได้รับเอพี และประกาศให้สาธารณชนรับทราบ พวกเราก็จะรู้ว่า โปรตอนหรือรถยนต์ต่างชาติที่ได้รับการปกป้องกันแน่”
กระนั้นก็ดี ทางการเสือเหลืองระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะไม่เปิดเผยรายชื่อของผู้ได้รับใบอนุญาตนำเข้า ซึ่งมหาเธร์บอกว่ามีถึง 67,000 รายต่อปี
เมื่อแรกเริ่มนั้น การขอใบอนุญาตนั้นใช้เฉพาะการนำเข้ารถยนต์หรู ทว่าได้ขยายขอบเขตไปยังรถยนต์ราคาถูกจากผู้ผลิตในเอเชีย
ทั้งนี้มหาเธร์อธิบายว่า “รถบางคันนำเข้ามาในมาเลเซียด้วยราคา 11,000 ริงกิตต่อคัน (2,900 ดอลลาร์) ไม่มีทางที่โปรตอนจะสามารถแข่งขันได้” เนื่องจากรถโปรตอนที่ถูกที่สุดมีราคา 40,000 ริงกิต
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า “ส่วนแบ่งตลาดของโปรตอนลดลง ทว่ายอดขายในประเทศไม่ได้ลดลง” พร้อมเสริมว่า โปรตอนกำลังเพิ่มการผลิต
อนึ่ง โปรตอนได้รับการปกป้องจากภาษีอากรและภาษีขาเข้าค่อนข้างสูงที่เรียกเก็บกับรถต่างชาติ แต่ก็เผชิญกับสภาพการแข่งขันใหม่ภายใต้ข้อตกลงการค้าในภูมิภาคที่กำลังยกเลิกมาตรการการกีดกัน
ทั้งนี้โปรตอนตั้งเป้าว่า จะส่งออกรถยนต์อย่างน้อย 100,000 คันต่อปีภายในปี 2008 โดยเมื่อปี 2004 โปรตอนมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 17,000 คัน จาก 8,000 คันในปี 2003 และในปีนี้โปรตอนตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในต่างประเทศอีกเท่าตัว
ทว่า บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า โปรตอนยังไม่สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถต่างชาติชั้นนำได้ เนื่องจากรถของโปรตอนยังขาดแคลนลูกเล่นที่เป็นมาตรฐานสำหรับรถปัจจุบัน