ผู้จัดการรายวัน –โออิชิคาดการณ์ 3 ปีตลาดชาเขียวใหญ่เทียบเท่าตลาดน้ำอัดลมที่มีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท เผยแคมเปญ “รวยฟ้าผ่า พลิกฝาโออิชิ 30 ฝา 30 ล้าน” กระแสแรงเกินคาด ส่งผลให้ยอดขายพุ่งสูง 67% และขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดด้วยแชร์ 62% ล่าสุดเพิ่มงบ 250 ล้านบาทสั่งเครื่องจักรเพิ่ม 2 เครื่อง สิ้นปีเตรียมเปิดตัวชาเขียวรสชาติใหม่และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ พร้อมรุกตลาดภูธรและส่งออกมากขึ้น
นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวโออิชิกรีนที เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจากกระแสคนห่วงใยสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชาเขียวมีอัตราการเติบโตสูง โดยปัจจุบันชาเขียวมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โออิชิมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 5 พันล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลเอซีนีลเส็นจะสำรวจเฉพาะโมเดิร์นเทรด และระบุว่าตลาดรวมชาเขียวปี 2547 มีมูลค่า 6,500 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้นายตันคาดการณ์ว่าอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดชาเขียวจะมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทเทียบเท่ากับมูลค่าตลาดรวมของน้ำอัดลมที่มีการทำตลาดมานานกว่า 50 ปี จากการที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดมากทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ซึ่งขณะนี้ในตลาดมีผู้ประกอบการชาเขียวกว่า 40 แบรนด์
นายตันกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มประมาณ 250 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักรใหม่อีก 2 เครื่อง เพื่อขยายกำลังผลิตชาเขียวเพิ่มจากเดิมผลิตได้ 30 ล้านขวดต่อเดือน แต่หลังจากได้เครื่องจักรใหม่ 2 ตัวคาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มเป็น 45 ล้านขวดต่อเดือน ทั้งนี้เครื่องจักรตัวใหม่จะมาถึงภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะนำไปตั้งไว้ใกล้กับโรงงานเป่าขวดเขตบางนา เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในด้านการขนส่ง
ประกอบกับในเดือนกรกฎาคมโออิชิเตรียมดำเนินการผลิตโออิชิ กรีนทีแบบกล่องขนาดบรรจุภัณฑ์ 1 ลิตรออกมาทำตลาดหลังจากชะลอแผนไประยะหนึ่ง เนื่องจากผลิตสินค้าแบบขวดเพ็ทไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ขณะที่ช่วงปลายไตรมาส 3 นี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโออิชิกรีนทีรสชาติใหม่ 1 รายการ ปัจจุบันชาเขียวโออิชิมี 5 รสชาติได้แก่ รสต้นตำรับ มียอดขายดีสุด , รสน้ำผึ้งผสมมะนาว,รสข้าวญี่ปุ่น,สูตรไร้น้ำตาล และซีจี สลิม รวมถึงมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ในช่วงสิ้นปีนี้บริษัทฯยังจะให้ความสำคัญในการทำตลาดชาเขียวในต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันช่องทางการขายในต่างจังหวัดโออิชิยังเป็นรองคู่แข่ง เนื่องจากมีทีมขายสินค้าที่ยังกระจายไม่ครอบคลุมเช่นปัจจุบันมีที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เพชรบุรี โคราช ชลบุรี ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทฯจะมีการทำตลาดมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนน้อยคิดเป็น 2% ของยอดขายทั้งหมด ขณะนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายตลาดยังประเทศเวียดนาม โดยเป็นลักษณะของการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย เพื่อดูแลในเรื่องของการทำตลาดและการจำหน่ายสินค้า จากเดิมที่มีการส่งสินค้าไปจำหน่ายแล้วใน 3 ประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และพม่า ประมาณเดือนละ 1 หมื่นลัง
สำหรับงบทางการตลาดปีนี้ใช้กว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมากขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้ 250 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญใหญ่ “รวยฟ้าผ่า พลิกฝาโออิชิ 30 ฝา 30 ล้าน” ที่จัดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย ส่งผลให้ยอดขายของเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิในช่วงแคมเปญนี้ เพิ่มสูงขึ้น 67% และมีส่วนแบ่งตลาดชาเขียวในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 62% เป็นผู้นำตลาด ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง ยูนิฟ ที่มีส่วนแบ่ง 27% และเซนชะ 6%
นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวโออิชิกรีนที เปิดเผยว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจากกระแสคนห่วงใยสุขภาพที่มาแรง ส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชาเขียวมีอัตราการเติบโตสูง โดยปัจจุบันชาเขียวมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท โออิชิมีส่วนแบ่งตลาดกว่า 5 พันล้านบาท
ขณะที่ข้อมูลเอซีนีลเส็นจะสำรวจเฉพาะโมเดิร์นเทรด และระบุว่าตลาดรวมชาเขียวปี 2547 มีมูลค่า 6,500 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้นายตันคาดการณ์ว่าอีก 3 ปีข้างหน้าตลาดชาเขียวจะมีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาทเทียบเท่ากับมูลค่าตลาดรวมของน้ำอัดลมที่มีการทำตลาดมานานกว่า 50 ปี จากการที่มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดมากทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ซึ่งขณะนี้ในตลาดมีผู้ประกอบการชาเขียวกว่า 40 แบรนด์
นายตันกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มประมาณ 250 ล้านบาทในการซื้อเครื่องจักรใหม่อีก 2 เครื่อง เพื่อขยายกำลังผลิตชาเขียวเพิ่มจากเดิมผลิตได้ 30 ล้านขวดต่อเดือน แต่หลังจากได้เครื่องจักรใหม่ 2 ตัวคาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มเป็น 45 ล้านขวดต่อเดือน ทั้งนี้เครื่องจักรตัวใหม่จะมาถึงภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะนำไปตั้งไว้ใกล้กับโรงงานเป่าขวดเขตบางนา เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณในด้านการขนส่ง
ประกอบกับในเดือนกรกฎาคมโออิชิเตรียมดำเนินการผลิตโออิชิ กรีนทีแบบกล่องขนาดบรรจุภัณฑ์ 1 ลิตรออกมาทำตลาดหลังจากชะลอแผนไประยะหนึ่ง เนื่องจากผลิตสินค้าแบบขวดเพ็ทไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ขณะที่ช่วงปลายไตรมาส 3 นี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวโออิชิกรีนทีรสชาติใหม่ 1 รายการ ปัจจุบันชาเขียวโออิชิมี 5 รสชาติได้แก่ รสต้นตำรับ มียอดขายดีสุด , รสน้ำผึ้งผสมมะนาว,รสข้าวญี่ปุ่น,สูตรไร้น้ำตาล และซีจี สลิม รวมถึงมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ในช่วงสิ้นปีนี้บริษัทฯยังจะให้ความสำคัญในการทำตลาดชาเขียวในต่างจังหวัดมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันช่องทางการขายในต่างจังหวัดโออิชิยังเป็นรองคู่แข่ง เนื่องจากมีทีมขายสินค้าที่ยังกระจายไม่ครอบคลุมเช่นปัจจุบันมีที่ ภูเก็ต เชียงใหม่ เพชรบุรี โคราช ชลบุรี ส่วนตลาดต่างประเทศบริษัทฯจะมีการทำตลาดมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนน้อยคิดเป็น 2% ของยอดขายทั้งหมด ขณะนี้บริษัทฯมีแผนจะขยายตลาดยังประเทศเวียดนาม โดยเป็นลักษณะของการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย เพื่อดูแลในเรื่องของการทำตลาดและการจำหน่ายสินค้า จากเดิมที่มีการส่งสินค้าไปจำหน่ายแล้วใน 3 ประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และพม่า ประมาณเดือนละ 1 หมื่นลัง
สำหรับงบทางการตลาดปีนี้ใช้กว่า 400 ล้านบาท ซึ่งมากขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้ 250 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญใหญ่ “รวยฟ้าผ่า พลิกฝาโออิชิ 30 ฝา 30 ล้าน” ที่จัดขึ้นระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินคาดหมาย ส่งผลให้ยอดขายของเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิในช่วงแคมเปญนี้ เพิ่มสูงขึ้น 67% และมีส่วนแบ่งตลาดชาเขียวในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็น 62% เป็นผู้นำตลาด ทิ้งห่างคู่แข่งอย่าง ยูนิฟ ที่มีส่วนแบ่ง 27% และเซนชะ 6%