xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐีเงินหนาเล็งเพิ่มผลตอบแทน สร้างดีมานด์“การลงทุนทางเลือก”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฮรัลด์ ทรีบูน – เฮดจ์ฟันด์เคยถูกเปรียบเป็นโรลส์รอยซ์ของการลงทุน และแหล่งสะสมผลประโยชน์ของคนร่ำรวย กระนั้นก็ดี บรรดาผู้คุมกฎในหลายประเทศตัดสินใจว่า เฮดจ์ฟันด์ควรเปิดกว้างสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่มีเงินไม่กี่พันดอลลาร์

ทั้งนี้เฮดจ์ฟันด์ รีเสิร์ชเปิดเผยว่า มีเฮดจ์ฟันด์กว่าพันรายเริ่มดำเนินการเมื่อปลายปีที่แล้ว และกองทุนใหม่ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยผู้เล่นหน้าใหม่

คริส คอตเทรลล์ ผู้จัดการความมั่งคั่งในลอนดอนกล่าวว่า บรรดาผู้จัดการใหม่เหล่านี้ก่อให้เกิด “ช่วงความสามารถพิเศษในวงกว้าง” กว่าในอดีต

กระนั้นก็ดี ผลตอบแทนของกองทุนได้ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา และรายงานยอดขาดทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมเฮดจ์ฟันด์ก็ทะยานสูงกว่าเมื่อไตรมาสก่อนหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ นอกเหนือจากเหตุการณ์ที่สร้างความตื่นตระหนกอย่าง ผลกระทบที่เกิดกับกองทุนหุ้น-หุ้นกู้จากการปรับลดอันดับหุ้นกู้ของเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ผู้เชี่ยวชาญบางรายระบุว่า ผลตอบแทนที่อยู่ในระดับต่ำส่วนใหญ่สะท้อนถึงความผันผวนในตลาดที่ลดลง มากกว่าการเพิ่มขึ้นของกองทุน

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางรายแย้งว่า ความสำเร็จของเฮดจ์ฟันด์ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา กล่าวคือ หากมีเม็ดเงินและผู้จัดการจำนวนมากเกินไปลงทุนเหมือนๆกัน ความแตกต่างด้านการกำหนดราคาซึ่งจูงใจให้พวกเขาเข้ามาในธุรกิจ ก็จะหมดไป

ถ้าเช่นนั้นแล้ว บรรดาเศรษฐีทั้งหลายจะเอาเงินของตนไปไว้ที่ไหน?

แบงก์เอกชนยังคงชี้นำบรรดาลูกค้าของตนให้ลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ โดยในบางประเทศซึ่งรวมถึงเยอรมนี กระแสเงินไหลเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเมื่อไม่นานมานี้อนุญาตให้คนร่ำรวยและคนทั่วไป สามารถลงทุนในกองทุนดังกล่าวได้เป็นครั้งแรก กระนั้นก็ดี ผู้จัดการความมั่งคั่งหลายรายบอกว่า ลูกค้ากำลังมองหาการลงทุนทางเลือกประเภทอื่นมากขึ้น

คอตเทรลล์ ประธานบริหารซากิตตา แอสเสต แมเนจเมนต์ ซึ่งรับจัดการลงทุนให้กับนักลงทุนรายย่อยที่มีเงิน 5 ล้านดอลลาร์ขึ้นไปกล่าวอีกว่า “ยังมีที่ว่างในพอร์ตการลงทุนของลูกค้าสำหรับเฮดจ์ฟันด์ แต่ก็รวมถึงการลงทุนทางเลือก อาทิ หุ้น อสังหาริมทรัพย์ น้ำมันและก๊าซ ไม้ และสินทรัพย์หลากหลายประเภทอื่นด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญซึ่งมีทักษะการซื้อขายและบริหารสินทรัพย์จากป่าไม้มีไม่มากนัก และ “สิ่งที่ยากลำบากคือ การหาผู้จัดการที่ดีมีความสามารถในสินทรัพย์ประเภทนี้อย่างแท้จริง” คอตเทรลล์เสริม

ทั้งนี้การลงทุนทางเลือกวิธีหนึ่งคือ การหาวิธีที่ไม่ธรรมดาในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ธรรมดานั้น ยกตัวอย่างเช่น เจพี มอร์แกน ไพรเวต แบงก์ กำลังทำธุรกิจที่เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์เชิงโครงสร้าง” อาทิ เครื่องมืออนุพันธ์ตามความต้องการ ซึ่งจำกัดความเสี่ยงของการขาดทุนในตลาด แต่ก็ลดผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับด้วย

เรน ฮอร์แกน ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเจพี มอร์แกนในลอนดอนกล่าวว่า “หากคุณมักถือครองหลักทรัพย์ในระยะยาว คุณก็มักเผชิญกับโอกาสเชิงบวกและลบทั้งหมด” พร้อมเสริมว่า “ผลิตภัณฑ์เชิงโครงสร้างช่วยให้ลูกค้าเสียสละโอกาสด้านบวกบางส่วนในสินทรัพย์นั้น ขณะที่ลดการเผชิญกับโอกาสด้านลบ”

ผลิตภัณฑ์เชิงโครงสร้างใช้กันแพร่หลายทั่วไปเพื่อกำหนดรูปแบบการเข้าถึงหุ้น ทว่ายังกำหนดวิธีการเข้าถึงตลาดที่ลึกลับซึ่งยากต่อการคาดการณ์ หรือป้องกันความเสี่ยงด้วยการลงทุนทั่วๆไป ฮอร์แกนยกตัวอย่างว่า ทางเจพี มอร์แกนมองว่า มีความต้องการธนบัตรที่เชื่อมโยงกับสกุลเงินเอเชียที่ไม่ใช่สกุลหลักเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้การจัดสรรการลงทุนทางเลือกนั้นแตกต่างกันไป กล่าวคือ ซากิตตาแบ่งสัดส่วน 50% ของพอร์ตการลงทุนของลูกค้าให้กับการลงทุนทางเลือก โดยส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่าง หุ้นและหุ้นกู้ ทว่าแบงก์ทั่วไปมักแนะนำให้จัดสัดส่วนที่น้อยกว่านี้

กระนั้นก็ดี สิ่งที่นายธนาคารแนะนำมักไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการ ฟิลิปเป โบนเนฟอย ที่ปรึกษาเฮดจ์ฟันด์ของคอมเมิร์ซแบงก์ คอร์ปอเรตส์ & มาร์เกตส์ในลอนดอนกล่าวว่า “ธนาคารหลายแห่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ในบางประเภทสินทรัพย์” พร้อมเสริมว่า “ดีมานด์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ผลตอบแทนแข็งแกร่ง เช่น เมื่อซัปพลายของผลิตภัณฑ์เหล่านี้หาได้ทั่วไป ในที่สุดแล้วการลงทุนที่แท้จริงจะเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้าในวงจรการกำหนดราคา” และนี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในสินทรัพย์ทางเลือกบางประเภทที่นักลงทุนผู้มั่งคั่งกำลังมองหาอยู่

ทว่า โบนเนฟอยมองว่า “นักลงทุนหลายรายลืมไปแล้วว่า ผลตอบแทนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ยังคงติดลบตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง 25% และดัชนีนิกเกอิในญี่ปุ่นยังคงลดต่ำกว่า 70% ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่บรรดานักลงทุนก็คิดว่า สินทรัพย์ทางเลือกยังมีความเสี่ยงสูง!”

เขากล่าวต่อว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาหรือนานกว่านั้น ผลตอบแทนจากเฮดจ์ฟันด์สูงกว่าหุ้นและหุ้นกู้ แต่ผลการดำเนินงานที่ไม่แน่นอนเมื่อไม่นานมานี้ทำให้แบงก์หลายแห่งชะลอการเข้าไปเล่นในเฮดจ์ฟันด์

กระนั้นก็ดี การชะลอตัวดังกล่าวอาจหมดไป เนื่องจากลูกค้าร่ำรวยยังจำได้ว่า ความไม่แน่นอนของการลงทุนปกติเป็นอย่างไร ทั้งนี้โบนเนฟอยทิ้งท้ายว่า “เนื่องจากผลตอบแทนจากหุ้นเริ่มลดลงและผลตอบแทนหุ้นกู้ยังอยู่ในระดับต่ำ ผมคาดว่าจะมีความต้องการการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์เพิ่มมากขึ้น”
กำลังโหลดความคิดเห็น