xs
xsm
sm
md
lg

“อายิโนะโมะโต๊ะ”ยาหอมไทย ต้นแบบสาขานอกแดนปลาดิบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รองประธานอายิโนะโมะโต๊ะ ประเทศญี่ปุ่น ยาหอมไทยมีศักยภาพสูงสุดในการขยายธุรกิจนอกแดนอาทิตย์อุทัย พร้อมยกให้เป็นต้นแบบการเปิดสาขาทั่วโลก ย้ำความพร้อมด้านวัตถุดิบ กำลังซื้อประชาชน การเมืองมั่นคง หากมีการลงทุนเพิ่ม จะพิจารณาไทยเป็นจุดแรก

นายสึโยชิ มิอุระ รองประธาน บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น กล่าวกับคณะสื่อมวลชนไทย ที่เดินทางไปดูงานที่สำนักงานใหญ่อายิโนะโมะโต๊ะ กรุงโตเกียว เมื่อเร็วๆ นี้ว่า อายิโนะโมะโต๊ะ ยังคงเป้าหมายเป็นผู้นำด้านธุรกิจอาหารในระดับโลกต่อไป โดยธุรกิจหลักของบริษัทนอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสรูปแบบต่างๆ แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ยา และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กรดอะมิโนเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน ที่บริษัทได้พัฒนาต่อยอดจากการค้นพบผงชูรสเมื่อเกือบ 100 ปีก่อน

ปัจจุบัน อายิโนะโมะโต๊ะ มีการลงทุนใน 23 ประเทศทั่วโลก จำนวน 124 บริษัท ในปีบัญชี 2547 ที่ผ่านมา มียอดขายทั่วโลกประมาณ 371,000 ล้านบาท มีกำไรประมาณ 25,000 ล้านบาท ยอดขายหลักมาจากตลาดในญี่ปุ่นกว่า 74 % ยุโรป 10 % เอเชีย 9.5 % ที่เหลือเป็นสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคอื่น

สำหรับในไทย อายิโนะโมะโต๊ะ มียอดขายในปี 2547 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท จากการจำหน่ายผงชูรส และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ ซุปก้อนรสดี กาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ชาเขียวเซนชะ ขนมขบเคี้ยวโอเซน

ทั้งนี้ อายิโนะโมะโต๊ะ มีบริษัทในเครือในประเทศไทยกว่า 10 บริษัท ทั้งการลงทุนจากบริษัทแม่ 100% และกิจการร่วมทุน โดยการลงทุนล่าสุด อายิโนะโมะโต๊ะได้ร่วมทุนกับบริษัทไฮคิว และยามาโมริ อิงค์ ตั้งโรงงานผลิตซอสถั่วเหลืองที่ จ.ฉะเชิงเทรา ในชื่อบริษัท เอ คิว วาย ซอส จำกัด เริ่มเดือนเครื่องผลิตเมื่อปลายปี 2547 นอกจากนั้นได้เปิดโรงงานผลิต “รสดี” ที่นิคมอุตสาหกรรมหนองแค จ.สระบุรี เพื่อเป็นฐานกระจายสินค้าไปสู่ตลาดต่างจังหวัด เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

รองประธาน อายิโนะโมะโต๊ะ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยนับเป็นศูนย์ธุรกิจใหญ่ที่สุดของอายิโนะโมะโต๊ะ รองจากญี่ปุ่น นับจากได้เปิดบริษัทลูกในไทยเมื่อปี 2503 พร้อมเปิดโรงงานผลิตผงชูรสนอกญี่ปุ่นเป็นแห่งแรกที่สมุทรปราการ จนปัจจุบันอายิโมะโต๊ะได้ยึดเอารูปแบบการทำธุรกิจในไทย เป็นแม่แบบของการเปิดสาขาในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และหากจะมีการลงทุนเพิ่มในระยะนี้ จะพิจารณาประเทศไทยเป็นจุดแรก

“ประเทศไทยมีวัตถุดิบที่สมบูรณ์ และปริมาณที่แน่นอน มีภาวะเศรษฐกิจในเกณฑ์ดี มีการส่งเสริมการลงทุนจากรัฐบาล ประชาชนมีกำลังซื้อสูง มีการเมืองมั่นคงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียแล้วเราสบายใจได้ และที่สำคัญ ไทยกับญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์กันมายาวไทยทั้งในระดับราชวงศ์และประชาชนทั้งสองประเทศ” รองประธานอายิโนะโมะโต๊ะ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น