เอเอฟพี – โปรตอน บริษัทรถยนต์แห่งชาติมาเลเซีย หวังลบภาพลักษณ์ “รถราคาถูก” พร้อมตั้งเป้าเพิ่มยอดขายต่างประเทศในปีนี้อีกเท่าตัว
โฆษกของโปรตอนกล่าววานนี้ (1 มิ.ย.) ว่า ได้ออกแคมเปญกระตุ้นยอดส่งออก และเตรียมรับมือกับสภาพแวดล้อมในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยในปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันจากต่างชาติในตลาดเสรีจะรุนแรงมากขึ้น พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องการลบภาพลักษณ์ของการขายรถยนต์ราคาถูก”
“พวกเราต้องการเสนอสินค้าและบริการที่มีมูลค่ามากขึ้น และนี่คือส่วนหนึ่งของความพยายามให้สินค้าและบริการของเราเป็นที่ยอมรับทั่วโลก”
ทั้งนี้โปรตอนหวังเจาะตลาดใหม่ในแอฟริกาและยุโรปตะวันออก รวมถึงเพิ่มยอดขายในตุรกีและซาอุดีอาระเบีย
เมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) โปรตอนประกาศว่า ผลกำไรสุทธิในปีที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 58.8% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อยู่ที่ 810.01 ล้านริงกิต (213 ล้านดอลลาร์) โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายที่ทะยานขึ้น 34%
ขณะที่โลตัส กรุ๊ป อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตรถสปอร์ตเมืองผู้ดีของโปรตอน มียอดขาดทุนก่อนหักภาษีที่ 47 ล้านริงกิต เนื่องจากข้อกำหนดเรื่องสิทธิประโยชน์ที่มากเกิน หลังการปรับองค์การภายในของธุรกิจวิศวกรรม
อนึ่ง โปรตอนซื้อกิจการของโลตัสเมื่อปี 1996 และเมื่อปลายปี 2004 ยังซื้อบริษัทผู้ผลิตและออกแบบรถจักรยานยนต์อิตาลี “อะกัสตา มอเตอร์ สปา”
รถยนต์แห่งชาติแดนเสือเหลืองเคยมียอดขายรถใหม่ 6 คันในทุกๆ 10 คันในมาเลเซีย ทว่าการแข่งขันจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้นกำลังบั่นทอนส่วนแบ่งตลาดของโปรตอน โดยลดลงเหลือ 44% ในปี 2004 จาก 48% ในปีก่อน
ทั้งนี้โปรตอนระบุในแถลงการณ์ว่า “เป็นที่คาดกันว่าอุตสาหกรรมรถในประเทศจะขยายตัวลดลง และอาจมีการรวมกลุ่มกันในปี 2005 หลังจากที่เติบโตราว 20% ในปี 2004” พร้อมเสริมว่า “ต้นทุนชิ้นส่วนที่แพงขึ้น และการแข่งขันอันดุเดือดจะมีผลกระทบด้านลบต่อกำไร”
กระนั้นก็ดี โปรตอนตั้งเป้าว่ายอดขายต่างประเทศอย่างน้อยจะอยู่ที่ 100,000 คัน ภายในปี 2008 โดยยอดส่งออกทะยานขึ้นเท่าตัวจาก 8,000 คันในปี 2003 เป็น 17,000 คันในปี 2004 และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดขายต่างประเทศอีกเท่าตัวในปี 2005”
ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนเสือเหลืองระบุอีกว่า “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว โปรตอนได้ริเริ่มโครงการเจาะตลาดใหม่ และจะขยายสู่ตลาด 36 ประเทศภายในสิ้นปีนี้”
อนึ่ง ปัจจุบัน รถโปรตอนวางจำหน่ายอยู่ใน 18 ประเทศ โดยตลาดส่งออกใหญ่สุดคือออสเตรเลียและอังกฤษ รวมถึงตะวันออกกลางและประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ชาติ
โฆษกของโปรตอนกล่าววานนี้ (1 มิ.ย.) ว่า ได้ออกแคมเปญกระตุ้นยอดส่งออก และเตรียมรับมือกับสภาพแวดล้อมในประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยในปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันจากต่างชาติในตลาดเสรีจะรุนแรงมากขึ้น พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องการลบภาพลักษณ์ของการขายรถยนต์ราคาถูก”
“พวกเราต้องการเสนอสินค้าและบริการที่มีมูลค่ามากขึ้น และนี่คือส่วนหนึ่งของความพยายามให้สินค้าและบริการของเราเป็นที่ยอมรับทั่วโลก”
ทั้งนี้โปรตอนหวังเจาะตลาดใหม่ในแอฟริกาและยุโรปตะวันออก รวมถึงเพิ่มยอดขายในตุรกีและซาอุดีอาระเบีย
เมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) โปรตอนประกาศว่า ผลกำไรสุทธิในปีที่สิ้นสุดเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 58.8% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ อยู่ที่ 810.01 ล้านริงกิต (213 ล้านดอลลาร์) โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายที่ทะยานขึ้น 34%
ขณะที่โลตัส กรุ๊ป อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตรถสปอร์ตเมืองผู้ดีของโปรตอน มียอดขาดทุนก่อนหักภาษีที่ 47 ล้านริงกิต เนื่องจากข้อกำหนดเรื่องสิทธิประโยชน์ที่มากเกิน หลังการปรับองค์การภายในของธุรกิจวิศวกรรม
อนึ่ง โปรตอนซื้อกิจการของโลตัสเมื่อปี 1996 และเมื่อปลายปี 2004 ยังซื้อบริษัทผู้ผลิตและออกแบบรถจักรยานยนต์อิตาลี “อะกัสตา มอเตอร์ สปา”
รถยนต์แห่งชาติแดนเสือเหลืองเคยมียอดขายรถใหม่ 6 คันในทุกๆ 10 คันในมาเลเซีย ทว่าการแข่งขันจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้นกำลังบั่นทอนส่วนแบ่งตลาดของโปรตอน โดยลดลงเหลือ 44% ในปี 2004 จาก 48% ในปีก่อน
ทั้งนี้โปรตอนระบุในแถลงการณ์ว่า “เป็นที่คาดกันว่าอุตสาหกรรมรถในประเทศจะขยายตัวลดลง และอาจมีการรวมกลุ่มกันในปี 2005 หลังจากที่เติบโตราว 20% ในปี 2004” พร้อมเสริมว่า “ต้นทุนชิ้นส่วนที่แพงขึ้น และการแข่งขันอันดุเดือดจะมีผลกระทบด้านลบต่อกำไร”
กระนั้นก็ดี โปรตอนตั้งเป้าว่ายอดขายต่างประเทศอย่างน้อยจะอยู่ที่ 100,000 คัน ภายในปี 2008 โดยยอดส่งออกทะยานขึ้นเท่าตัวจาก 8,000 คันในปี 2003 เป็น 17,000 คันในปี 2004 และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มยอดขายต่างประเทศอีกเท่าตัวในปี 2005”
ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนเสือเหลืองระบุอีกว่า “เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว โปรตอนได้ริเริ่มโครงการเจาะตลาดใหม่ และจะขยายสู่ตลาด 36 ประเทศภายในสิ้นปีนี้”
อนึ่ง ปัจจุบัน รถโปรตอนวางจำหน่ายอยู่ใน 18 ประเทศ โดยตลาดส่งออกใหญ่สุดคือออสเตรเลียและอังกฤษ รวมถึงตะวันออกกลางและประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ชาติ