นิวยอร์ก ไทมส์/เอเอฟพี – เอไอจีซึ่งถูกสอบสวนเรื่องการลงบัญชี เปิดเผยรายงานทางการเงินที่ผัดผ่อนมาหลายครั้ง โดยปรับลดผลกำไรตลอด 5 ปีที่ผ่านมาลง 3,900 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10%
รายงานการเงินประจำปีของอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ได้ปรับลดผลกำไรปี 2004 ลง 12% หรือ 1,320 ล้านดอลลาร์ พร้อมปรับลดรายได้จาก 11,100 ล้านดอลลาร์ในรายงานเดือนกุมภาพันธ์ เหลือ 9,730 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เอไอจี บริษัทประกันรายใหญ่สุดของโลกในแง่มูลค่าตลาด ยังปรับเพิ่มเงินสำรองการอ้างสิทธิ์ด้านสิ่งแวดล้อมก่อนภาษีในปี 2004 ขึ้นอีก 850 ล้านดอลลาร์ โดยรวมแล้ว เอไอจีปรับลดรายได้สุทธิ 4 ปีจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และลดมูลค่าสุทธิของบริษัทลง 2,260 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.7% ทั้งนี้มูลค่าสุทธิของเอไอจีปลายปี 2004 อยู่ที่ 83,000 ล้านดอลลาร์
มาร์ติน เจ. ซัลลิแวน ประธานบริหารบริษัทเชื่อว่าจะไม่มีการปรับรายงานทางการเงินอีก โดยระบุระหว่างการประชุมกับบรรดานักลงทุนว่า “การเงินของพวกเรายังแข็งแกร่ง เครือข่ายทั่วโลกมีลักษณะพิเศษ และอนาคตก็สดใสมาก”
หลังจากเลื่อนการยื่นรายงานมาแล้ว 3 ครั้ง เจย์ เกลป์ นักวิเคราะห์จากเลห์แมน บราเธอร์สระบุว่า การยื่นรายงานประจำปีฉบับนี้ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เอสอีซี) เป็นความคืบหน้าสำคัญของบริษัทในการแก้ปัญหา “สิ่งต่อไปที่เราคาดหวังจากเอไอจีคือ การบรรลุข้อตกลงประเด็นทางกฎหมาย และความเป็นไปได้ในระยะยาวเรื่องการคืนเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น”
อย่างไรก็ตาม เอไอจียังอยู่ภายใต้การตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เอไอจี พร้อมด้วยมอริซ อาร์. กรีนเบิร์ก อดีตประธานบริหาร และโฮเวิร์ด ไอ. สมิธ อดีตประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ถูกอัยการสูงสุดและผู้ดูแลด้านประกันรัฐนิวยอร์ก ยื่นฟ้องฐานแทรกแซงจัดการรายงานทางการเงิน และทำให้ผู้คุมกฎและนักลงทุนเข้าใจผิด ขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรมและเอสอีซีกำลังดำเนินการสอบสวนบริษัท และพนักงานอีกหลายราย
อนึ่ง ราคาหุ้นของเอไอจีเมื่อวันอังคาร (31) ร่วงลง 85 เซ็นต์ อยู่ที่ 55.55 ดอลลาร์ โดยราคาหุ้นดิ่งลงไปราว 22% ตั้งแต่ที่เอไอจีเปิดเผยว่าได้รับหมายศาลจากเอสอีซีและอัยการรัฐนิวยอร์กเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้เอไอจีกล่าวโทษการปรับรายงานทางการเงินว่า เป็นความพยายามของฝ่ายบริหารชุดก่อนที่ต้องการให้ผลประกอบการออกมาดีเกินจริง
กระนั้นก็ดี ในวันเดียวกัน กรีนเบิร์ก ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม ระบุในแถลงการณ์ปกป้องตนเองว่า “การบริหารงานระดับสูงของเอไอจีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในความเห็นของนักบัญชีของบริษัทซึ่งหลายคนก็ยังทำงานอยู่ที่นี่ รวมถึงความเห็นของผู้ตรวจบัญชีของเอไอจีอย่าง ไพรซวอเตอร์เฮ้าส์ คูเปอร์ส”
รายงานการเงินประจำปีของอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ได้ปรับลดผลกำไรปี 2004 ลง 12% หรือ 1,320 ล้านดอลลาร์ พร้อมปรับลดรายได้จาก 11,100 ล้านดอลลาร์ในรายงานเดือนกุมภาพันธ์ เหลือ 9,730 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ เอไอจี บริษัทประกันรายใหญ่สุดของโลกในแง่มูลค่าตลาด ยังปรับเพิ่มเงินสำรองการอ้างสิทธิ์ด้านสิ่งแวดล้อมก่อนภาษีในปี 2004 ขึ้นอีก 850 ล้านดอลลาร์ โดยรวมแล้ว เอไอจีปรับลดรายได้สุทธิ 4 ปีจากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และลดมูลค่าสุทธิของบริษัทลง 2,260 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.7% ทั้งนี้มูลค่าสุทธิของเอไอจีปลายปี 2004 อยู่ที่ 83,000 ล้านดอลลาร์
มาร์ติน เจ. ซัลลิแวน ประธานบริหารบริษัทเชื่อว่าจะไม่มีการปรับรายงานทางการเงินอีก โดยระบุระหว่างการประชุมกับบรรดานักลงทุนว่า “การเงินของพวกเรายังแข็งแกร่ง เครือข่ายทั่วโลกมีลักษณะพิเศษ และอนาคตก็สดใสมาก”
หลังจากเลื่อนการยื่นรายงานมาแล้ว 3 ครั้ง เจย์ เกลป์ นักวิเคราะห์จากเลห์แมน บราเธอร์สระบุว่า การยื่นรายงานประจำปีฉบับนี้ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เอสอีซี) เป็นความคืบหน้าสำคัญของบริษัทในการแก้ปัญหา “สิ่งต่อไปที่เราคาดหวังจากเอไอจีคือ การบรรลุข้อตกลงประเด็นทางกฎหมาย และความเป็นไปได้ในระยะยาวเรื่องการคืนเงินให้แก่ผู้ถือหุ้น”
อย่างไรก็ตาม เอไอจียังอยู่ภายใต้การตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน เอไอจี พร้อมด้วยมอริซ อาร์. กรีนเบิร์ก อดีตประธานบริหาร และโฮเวิร์ด ไอ. สมิธ อดีตประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ถูกอัยการสูงสุดและผู้ดูแลด้านประกันรัฐนิวยอร์ก ยื่นฟ้องฐานแทรกแซงจัดการรายงานทางการเงิน และทำให้ผู้คุมกฎและนักลงทุนเข้าใจผิด ขณะเดียวกัน กระทรวงยุติธรรมและเอสอีซีกำลังดำเนินการสอบสวนบริษัท และพนักงานอีกหลายราย
อนึ่ง ราคาหุ้นของเอไอจีเมื่อวันอังคาร (31) ร่วงลง 85 เซ็นต์ อยู่ที่ 55.55 ดอลลาร์ โดยราคาหุ้นดิ่งลงไปราว 22% ตั้งแต่ที่เอไอจีเปิดเผยว่าได้รับหมายศาลจากเอสอีซีและอัยการรัฐนิวยอร์กเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้เอไอจีกล่าวโทษการปรับรายงานทางการเงินว่า เป็นความพยายามของฝ่ายบริหารชุดก่อนที่ต้องการให้ผลประกอบการออกมาดีเกินจริง
กระนั้นก็ดี ในวันเดียวกัน กรีนเบิร์ก ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม ระบุในแถลงการณ์ปกป้องตนเองว่า “การบริหารงานระดับสูงของเอไอจีขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งเชื่อมั่นในความเห็นของนักบัญชีของบริษัทซึ่งหลายคนก็ยังทำงานอยู่ที่นี่ รวมถึงความเห็นของผู้ตรวจบัญชีของเอไอจีอย่าง ไพรซวอเตอร์เฮ้าส์ คูเปอร์ส”