ศูนย์ข่าวภูเก็ต - " บริษัท ไลฟ์สไตล์ พร็อพเพอร์ตี้"กลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกา สนใจพัฒนามารีนา ที่อ่าวฉลอง นำเสนอโครงการพัฒนาทั้งบนบกและมารีนาในทะเล ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท เผยมีทุนแล้ว 30-40% ของโครงการ ผู้ว่าฯตอบรับทันที เพราะตรงสเปกจังหวัดที่วางแผนไว้ เตรียมเสนอรัฐบาลให้เอกชนเช่าพื้นที่ลงทุนแทนการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน
นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยภายหลังตัวแทนด้านวิศวกรรม จากบริษัท ไลฟ์สไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)กลุ่มทุนใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีคนไทยและแคนาดา ร่วมเป็นผู้ถือหุ้น เข้าพบ เพื่อนำเสนอโครงการพัฒนามารีนา ที่บริเวณอ่าวฉลอง ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต วานนี้ (31 พ.ค.) ว่า
ตามที่จังหวัดภูเก็ตมีโครงการที่จะพัฒนาอ่าวฉลอง ให้เป็นมารีนาหรือที่จอดเรือยอชต์เรือสำราญสาธารณะ เพื่อให้เรือยอชต์ต่างๆ ที่จอดอยู่บริเวณอ่าวฉลอง เข้ามาจอดอย่างเป็นระเบียบในจุดที่กำหนดไว้นั้น วันนี้ตัวแทนของบริษัท ไลฟ์สไตล์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาด้านเรียลเอสเตท ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต 3-4 โครงการ ได้นำเสนอโครงการที่จะเข้ามาพัฒนาบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง
โครงการพัฒนาที่บริษัทเอกชนรายดังกล่าวนำเสนอ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ส่วน คือ การพัฒนาพื้นที่บนบกบริเวณริมทะเล เป็นที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สามารถลงทะเลได้เลย โดยจะใช้ที่ดินบริเวณท่าเรืออ่าวฉลอง ซึ่งอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งการพัฒนาส่วนนี้ จะนำทรายและดินจากการขุดลอกร่องน้ำเพื่อทำมารีนามาดำเนินการ
การพัฒนาส่วนที่ 2 คือ มารีนาในน้ำ จะมีทั้งมารีนาสาธารณะและมารีนาที่เป็นส่วนตัว พร้อมทั้งมีสถานที่ให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลควบคุมเรือยอชต์อีกด้วย ซึ่งดูจากรายละเอียดของโครงการแล้ว คิดว่าต้องใช้เงินลงทุนไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
"จากการพูดคุยกับตัวแทนของบริษัท เขาไม่มีปัญหาในเรื่องของเงินลงทุน โดยแจ้งว่าขณะนี้มีเงินลงทุนอยู่แล้วประมาณ 30-40% ของโครงการและหากทางภาคราชการ ให้พัฒนาพื้นที่บนบกได้ ก็จะนำโครงการไปนำเสนอขายและนำเงินมาลงทุน มั่นใจว่าโครงการในลักษณะดังกล่าว สามารถที่จะขายได้อย่างแน่นอน เพราะเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติอยู่แล้ว และบริษัทดังกล่าว ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาที่ดินที่เป็นโครงใหญ่ รวมทั้งที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมยังมีประสบการณ์ในการจัดทำมารีนาในหลายประเทศ เช่น ดูไบ ฮ่องกง ออสเตรเลีย เป็นต้น
นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต เห็นชอบในหลักการการนำเสนอโครงการลงทุนของบริษัทดังกล่าว เพราะตรงกับความต้องการของจังหวัด ในการพัฒนาอ่าวฉลองเป็นที่จอดเรือยอชต์อยู่แล้ว และหลังจากนี้จะนำเสนอโครงการดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และรัฐบาลในการดำเนินการให้โครงการเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เพราะเท่าที่ดูจากการนำเสนอโครงการของบริษัทเอกชน เป็นการลงทุนที่ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งเอกชนและรัฐ ซึ่งจังหวัดอาจจะให้บริษัทเช่าพื้นที่เพื่อลงทุนในระยะเวลา 30 ปีหรือ 60 ปี ตามที่กฎหมายไทยกำหนด โดยการจ่ายผลตอบแทนให้แก่ภาครัฐ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นได้ในภูเก็ต แต่จะไม่ใช้กฎหมายในการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน เพราะไม่เคยมีโครงการใดประสบความสำเร็จ
ส่วนประชาชนในบริเวณนั้นจะเห็นด้วยหรือไม่ จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์อีกครั้งหนึ่ง หากประชาชาไม่รับโครงการก็คงต้องยกเลิกไป แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวได้แนะนำให้บริษัทดังกล่าว หาผู้ร่วมทุนที่เป็นคนไทยด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการลงทุนจากชาวต่างชาติทั้งหมด 100%
สำหรับในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ขณะนี้มีมารีนาที่ให้บริการแล้ว 2 แห่ง คือ ภูเก็ตโบ๊ทลากูน ที่บริเวณเกาะแก้ว และยอช์ทเฮเว่น ที่ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ส่วนที่กำลังก่อสร้างและใกล้จะเปิดให้บริการในเร็วๆนี้ คือ รอยัล ภูเก็ต มารีนา ที่ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ใกล้กับภูเก็ต โบ๊ท ลากูน และเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมานักลงทุนจากกรุงเทพฯได้เปิดตัวโครงการ ภูเก็ต มารีนา เรสซิเดนท์ ที่บริเวณเกาะสิเหร่ สามารถจอดเรือได้ 68 ลำ และก็มีกระแสข่าวว่า เอกชนสนใจที่จะลงทุนมารีนาที่บริเวณ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ตอีกหนึ่งด้วย ทั้งนี้เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการลงทุนด้านมารีนาที่ภูเก็ต เพื่อดึงดูดให้เรือยอชต์จากทั่วโลกเดินทางมาภูเก็ต เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มเรือยอชต์เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง