xs
xsm
sm
md
lg

สิงคโปร์แผ่อิทธิพลกุมอสังหาฯโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – สิงคโปร์ ประเทศที่มีพื้นที่น้อยแต่ร่ำรวยเงินทอง กำลังกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของโลก โดยกว้านซื้อทุกสิ่งทุกอย่างนับตั้งแต่อพาร์ตเมนต์ในญี่ปุ่นไปจนถึงห้างสรรพสินค้าในอังกฤษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนระยะยาว

การซื้อกิจการต่างๆนี้ถูกขับเคลื่อนจากกัฟเวอร์เมนต์ ออฟ สิงคโปร์ อินเวสต์เมนต์ คอร์ป (จีไอซี) ซึ่งเป็นผู้ดูแลเงินสำรองต่างประเทศกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์

การซื้อกิจการครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน จีไอซีได้ร่วมมือกับมอร์แกน สแตนเลย์ วาณิชธนกิจชั้นนำของโลก เข้าซื้อ “ชิฟเลย์ ทาวเวอร์ แอนด์ พลาซา” ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นอ่าวซิดนีย์และโอเปรา เฮาส์ ตลอดจน “รอยัล ไพน์ส รีสอร์ต” ย่านโกลด์ โคสต์อีกด้วย

ชิฟเลย์ ทาวเวอร์ แอนด์ พลาซา ประกอบด้วยพื้นที่สำนักงาน 40 ชั้น และร้านค้าปลีกต่างๆ ขณะที่รอยัล ไพน์ส รีสอร์ต ประกอบด้วยโรงแรมขนาด 330 ห้อง ห้องประชุม สนามกอล์ฟขนาด 27 หลุม และแหล่งสันทนาการอื่น

กระนั้นก็ดี ยังไม่มีการเปิดเผยราคาซื้อขายดังกล่าว ทว่าออสเตรเลียน ไฟแนนเชียล รีวิว อ้างคำกล่าวของบรรดานักวิเคราะห์ว่า มูลค่าการซื้อขายอาจสูงเกือบ 600 ล้านดอลลาร์

ซีกงีฮัต กรรมการผู้จัดการจีไอซี เรียล เอสเตท บอกว่า “พวกเราเชื่อว่า พื้นฐานตลาดจะเกื้อหนุนการขยายตัวของค่าเช่า”

อย่างไรก็ตาม โฆษกของจีไอซีไม่ได้ตอบข้อถามที่ว่า ขนาดของพอร์ตการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกของจีไอซีมีมูลค่าเท่าไร ทว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จีไอซีและบริษัทหุ้นส่วนอื่นได้ประกาศการซื้อกิจการมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์

แต่มูลค่าดังกล่าวยังไม่รวมถึงการซื้อกิจการที่ไม่มีการประกาศออกมา เนื่องจากจีไอซีไม่มีการเปิดเผยบัญชีต่อสาธารณะ เพราะการกระทำดังกล่าวอาจกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์

นอกเหนือจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แล้ว จีไอซียังลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ ผลิตภัณฑ์ในตลาดเงิน และการลงทุนพิเศษประเภทอื่น ทั้งนี้จีไอซีมองตัวเองว่าเป็นบริษัทบริหารเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ลีเอ็กเทียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ของจีไอซี ระบุในเว็บไซต์ว่า พันธกิจของจีไอซีคือ “การบรรลุผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวโดยการลงทุนระหว่างประเทศที่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยง”

ฉัวฮักบิน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำภูมิภาคของดีบีเอส แบงก์ในสิงคโปร์ กล่าวว่า “ที่ดินส่วนใหญ่เหล่านี้อยู่ในเมืองสำคัญๆของประเทศที่พัฒนาแล้ว และเป็นที่ดินที่มีคุณภาพดีเยี่ยม”

เขาเสริมว่า “ในขณะเดียวกัน ที่ดินเหล่านี้ค่อนข้างมีความเสี่ยงต่ำ และสร้างกระแสเงินสดและผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง จากหลักการดังกล่าวถือได้ว่าการลงทุนนี้เป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล”

ฉัวกล่าวต่อว่า จีไอซียังใช้วิธีการที่ถูกต้องโดยการกระจายการลงทุน “ประเด็นคือคุณมีเงินทุนมหาศาล คุณต้องการจำกัดเงินเหล่านี้เพียงเพื่อซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเท่านั้นหรือ”

อนึ่ง จีไอซีก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยเป็นหนึ่งในสองหน่วยงานสำหรับการลงทุนของรัฐบาล และมีประธานกรรมการคือ ลีกวนยิว อดีตนายกรัฐมนตรีแดนลอดช่อง นอกจากนี้จีไอซียังมีสำนักงานในนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ลอนดอน ปักกิ่ง และโตเกียว

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีไอซีได้ซื้ออพาร์ตเมนต์ 3 แห่งในเขตที่อยู่อาศัยกรุงโตเกียวเป็นมูลค่ากว่า 111 ล้านดอลลาร์ ถัดมาไม่นานจีไอซีได้ซื้อหุ้น 17.5% ของห้างสรรพสินค้าเมืองผู้ดี โดยกลายเป็นหุ้นส่วนกิจการมูลค่า 637 ล้านดอลลาร์กับยูไนต์ กรุ๊ป เจ้าของที่ดินรายใหญ่ของอังกฤษ

ขณะที่หน่วยการลงทุนอีกแห่งคือ เทมาเสค โฮลดิ้งส์ ดูแลพอร์ตการลงทุนมูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ อาทิ สิงคโปร์ แอร์ไลนส์, สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชันส์ และบริษัทต่างชาติสำคัญรายอื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น