นิวยอร์ก ไทมส์/รอยเตอร์ - วอร์เรน บัฟเฟตต์ เซ็นสัญญาซื้อบริษัทไฟฟ้า แปซิฟิกคอร์ป ด้วยวงเงิน 5,100 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 ปี แถมนักลงทุนรุ่นใหญ่ผู้นี้ยังแย้มว่า จะซื้อกิจการพลังงานเพิ่มในอนาคต
บัฟเฟตต์ หนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลก กล่าวเมื่อวันอังคาร (24) ว่าบริษัทพลังงานเหมาะสมกับเบิร์กไชร์ แฮธอะแวย์ของเขา ซึ่งต้องการเงินทุนและผลตอบแทนที่แน่นอน เขายังบอกว่า ขณะนี้ เบิร์กไชร์ แฮธอะเวย์มีเงินที่พร้อมลงทุนกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และตัวเขายินดีมองหาเป้าหมายนอกสหรัฐฯ
ข้อตกลงซื้อกิจการแปซิฟิกคอร์ปมูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมการรับโอนหนี้ 4,300 ล้านดอลลาร์ด้วยนั้น ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนับจากเบิร์กไชร์ซื้อบริษัทรับประกันภัยต่อ เจเนอรัล รีในปี 1998 ซึ่งนอกจากจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าดังหวังแล้ว ข้อตกลงในปี 2000 ระหว่างเจเนอรัล รีกับอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ยังเป็นที่เพ่งเล็งของผู้คุมกฎสหรัฐฯ ในประเด็นของธุรกรรมที่ทำให้สถานะการเงินของเอไอจีดีกว่าความเป็นจริง
ภายใต้ข้อตกลงนี้ซึ่งคาดว่าจะลุล่วงภายในต้นปีหน้า แปซิฟิกคอร์ป ซึ่งป้อนกระแสไฟฟ้าให้ลูกค้า 1.6 ล้านรายใน 6 รัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมิดอเมริกัน อิเนอร์จี้ โฮลดิ้งส์ บริษัทพลังงานของบัฟเฟตต์ที่ตั้งอยู่ที่รัฐไอโอวา และข้อตกลงนี้จะทำให้อิเนอร์จี้มีรายได้ต่อปี 10,000 ล้านดอลลาร์
บัฟเฟตต์กล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ลอนดอนว่า พลังงานจะเป็นอุตสาหกรรมสำคัญใน 10,20 และ 50 ปีนับจากนี้ และเบิร์กไชร์ แฮธอะเวย์หวังขยายการลงทุนในภาคนี้ โดยยินดีจะมองหาเป้าหมายทั่วโลก
อนึ่ง แปซิฟิกคอร์ปถือเป็นการลงทุนที่น่าผิดหวังสำหรับนักลงทุนของสก็อตติช พาวเวอร์ โดยบริษัท อังกฤษแห่งนี้ไม่สามารถทำให้แปซิฟิกคอร์ปมีรายได้เพิ่มได้ตามคาด จึงตัดสินใจขายให้กับบัฟเฟตต์ ซึ่งย้ำว่า แปซิฟิกคอร์ปเหมาะสมสำหรับนักลงทุนของแฮธอะเวย์ ที่ต้องการเห็นบริษัทนำกำไรไปลงทุนต่อมากกว่ารับเงินปันผล
นักวิเคราะห์บางคนอ่านเกมว่า การซื้อแปซิฟิกคอร์ปเป็นการส่งสัญญาณว่า บัฟเฟตต์เล็งซื้อพอร์ต แลนด์ เจเนรัล อิเล็กทริกในโอเรกอน ซึ่งเป็นของเอนรอนเป็นอันดับต่อไป เพราะแปซิฟิกคอร์ปก็อยูในพอร์ตแลนด์เช่นกัน ดังนั้น การควบรวมจึงจะช่วยลดต้นทุนอย่างมาก
บัฟเฟตต์ หนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลก กล่าวเมื่อวันอังคาร (24) ว่าบริษัทพลังงานเหมาะสมกับเบิร์กไชร์ แฮธอะแวย์ของเขา ซึ่งต้องการเงินทุนและผลตอบแทนที่แน่นอน เขายังบอกว่า ขณะนี้ เบิร์กไชร์ แฮธอะเวย์มีเงินที่พร้อมลงทุนกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ และตัวเขายินดีมองหาเป้าหมายนอกสหรัฐฯ
ข้อตกลงซื้อกิจการแปซิฟิกคอร์ปมูลค่า 5,100 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมการรับโอนหนี้ 4,300 ล้านดอลลาร์ด้วยนั้น ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดนับจากเบิร์กไชร์ซื้อบริษัทรับประกันภัยต่อ เจเนอรัล รีในปี 1998 ซึ่งนอกจากจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าดังหวังแล้ว ข้อตกลงในปี 2000 ระหว่างเจเนอรัล รีกับอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ยังเป็นที่เพ่งเล็งของผู้คุมกฎสหรัฐฯ ในประเด็นของธุรกรรมที่ทำให้สถานะการเงินของเอไอจีดีกว่าความเป็นจริง
ภายใต้ข้อตกลงนี้ซึ่งคาดว่าจะลุล่วงภายในต้นปีหน้า แปซิฟิกคอร์ป ซึ่งป้อนกระแสไฟฟ้าให้ลูกค้า 1.6 ล้านรายใน 6 รัฐทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมิดอเมริกัน อิเนอร์จี้ โฮลดิ้งส์ บริษัทพลังงานของบัฟเฟตต์ที่ตั้งอยู่ที่รัฐไอโอวา และข้อตกลงนี้จะทำให้อิเนอร์จี้มีรายได้ต่อปี 10,000 ล้านดอลลาร์
บัฟเฟตต์กล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ลอนดอนว่า พลังงานจะเป็นอุตสาหกรรมสำคัญใน 10,20 และ 50 ปีนับจากนี้ และเบิร์กไชร์ แฮธอะเวย์หวังขยายการลงทุนในภาคนี้ โดยยินดีจะมองหาเป้าหมายทั่วโลก
อนึ่ง แปซิฟิกคอร์ปถือเป็นการลงทุนที่น่าผิดหวังสำหรับนักลงทุนของสก็อตติช พาวเวอร์ โดยบริษัท อังกฤษแห่งนี้ไม่สามารถทำให้แปซิฟิกคอร์ปมีรายได้เพิ่มได้ตามคาด จึงตัดสินใจขายให้กับบัฟเฟตต์ ซึ่งย้ำว่า แปซิฟิกคอร์ปเหมาะสมสำหรับนักลงทุนของแฮธอะเวย์ ที่ต้องการเห็นบริษัทนำกำไรไปลงทุนต่อมากกว่ารับเงินปันผล
นักวิเคราะห์บางคนอ่านเกมว่า การซื้อแปซิฟิกคอร์ปเป็นการส่งสัญญาณว่า บัฟเฟตต์เล็งซื้อพอร์ต แลนด์ เจเนรัล อิเล็กทริกในโอเรกอน ซึ่งเป็นของเอนรอนเป็นอันดับต่อไป เพราะแปซิฟิกคอร์ปก็อยูในพอร์ตแลนด์เช่นกัน ดังนั้น การควบรวมจึงจะช่วยลดต้นทุนอย่างมาก