วานนี้( 24 พ.ค.)พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและทรัพยากรธรรมชาติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และกำลังตำรวจ กว่า 100 นาย เข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารที่พัก "บีชคลับ รีสอร์ต" ของนายนิโรจน์ เชื้อแก้ว บริเวณเขาด้านหลังชายหาดตาแหวน ชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นอาคาร คสล.ขนาด 4 คูณ 4 เมตรจำนวน 8 หลัง ตามคำสั่งศาลให้รื้อถอน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้นำหนังสือแจ้งนายนิโรจน์ เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารบุกรุกดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ดำเนินการ ดังนั้นตนจึงเดินทางมากำกับดูแลการรื้อถอน ด้วยตนอง พร้อมทั้งได้กำชับให้เมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีของปัญหาบุกรุกที่สาธารณะในพื้นที่อื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้เปิดเผยรายชื่อนายทุนบุกรุกที่ดินชายหาดแสมบนเกาะล้านว่า ในขณะนี้ มีจำนวน12 ราย คือ นายชม ตั้งธรรมะ-สถิตย์ บุกรุกที่ดิน 42 ไร่ 5 งาน 225 ตารางวา ก่อสร้างบังกะโลและร้านอาหาร ,นายเลี่ยม วิเศษนคร บุกรุก 26 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา โดย ขุดกรวดทรายไปขายและก่อสร้างร้านค้า , นายวีรวัฒน์ ขวัญเมือง บุกรุก 17 ไร่ 95 ตารางวา นำกรวดทรายไปขาย , นายจำลอง เชื้อแก้ว บุกรุก 1 ไร่ 3 งาน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว , นายจำลอง ทองดี อดีตรองปลัดเมืองพัทยา บุกรุก 3 ไร่ สร้างร้านอาหารและบังกะโล , นายสุทธิพร แพทย์กละโทก บุกรุก 3 ไร่สร้างร้านอาหาร , นางหลง สันเมือง บุกรุก 7 ไร่ สร้างร้านอาหารและปลูกต้นยูคาลิปตัส
นายวิเชียร ชำเรือง บุกรุกที่ดินหาดเทียนและขายให้บริษัทเอกชนก่อสร้างร้านอาหารและที่พักรุกล้ำชายหาดแสม, นางชูศรี ฝงคร้าม ออกโฉนด ทับที่ดินที่ราชการ 12 ไร่ , นายทองเจือ จันทราสุข ออกโฉนดที่ดินทับที่ราชการ , ดร.วีระชัย เดชะวิจิตร ก่อสร้างอาคารบริเวณหาดตาแหวน และครอบครอง พื้นที่ภูเขาระหว่างหาดตาแหวนกับหาดทองหลาง 30 ไร่ และนายนิโรจน์ เชื้อแก้ว บุกรุกที่ดินภายใต้การดูแลของเมืองพัทยาก่อสร้างบังกะโล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีสถานที่ที่เข้าข่ายต้องทำการรื้อถอนทั้งหมด 31 แห่ง อยู่ที่บริเวณหาดตาแหวง 17 แห่ง และหาดแส 14 แห่ง โดยที่ดิน 3 จุดที่หาดแสมนั้นจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ และหลังจากมีการออกเอกสารสิทธิ์เพียงวันเดียวตั้งแต่ พ.ศ.2528 ก็มีการนำที่ดินดังกล่าวเข้าจำนองกับธนาคารและไม่มีการส่งและปล่อยให้ธนาคารยึดในที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลเมืองพัทยาได้ยื่นฟ้องในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้ประกาศแก่เจ้าของกิจการที่ละเมิดและบุกรุกที่ดินให้ทำการรื้อถอนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากเกินกำหนดแล้วทางเจ้าหน้าที่จะส่งชุดปฏิบัติการข้ารื้อถอนและเจ้าของกิจการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนพร้อมกับดำเนินคดีอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่เกาะล้าน ได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ หลายรายซึ่งจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนไว้และรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้นำหนังสือแจ้งนายนิโรจน์ เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนอาคารบุกรุกดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ดำเนินการ ดังนั้นตนจึงเดินทางมากำกับดูแลการรื้อถอน ด้วยตนอง พร้อมทั้งได้กำชับให้เมืองพัทยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนสอบสวนกรณีของปัญหาบุกรุกที่สาธารณะในพื้นที่อื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้เปิดเผยรายชื่อนายทุนบุกรุกที่ดินชายหาดแสมบนเกาะล้านว่า ในขณะนี้ มีจำนวน12 ราย คือ นายชม ตั้งธรรมะ-สถิตย์ บุกรุกที่ดิน 42 ไร่ 5 งาน 225 ตารางวา ก่อสร้างบังกะโลและร้านอาหาร ,นายเลี่ยม วิเศษนคร บุกรุก 26 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา โดย ขุดกรวดทรายไปขายและก่อสร้างร้านค้า , นายวีรวัฒน์ ขวัญเมือง บุกรุก 17 ไร่ 95 ตารางวา นำกรวดทรายไปขาย , นายจำลอง เชื้อแก้ว บุกรุก 1 ไร่ 3 งาน เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว , นายจำลอง ทองดี อดีตรองปลัดเมืองพัทยา บุกรุก 3 ไร่ สร้างร้านอาหารและบังกะโล , นายสุทธิพร แพทย์กละโทก บุกรุก 3 ไร่สร้างร้านอาหาร , นางหลง สันเมือง บุกรุก 7 ไร่ สร้างร้านอาหารและปลูกต้นยูคาลิปตัส
นายวิเชียร ชำเรือง บุกรุกที่ดินหาดเทียนและขายให้บริษัทเอกชนก่อสร้างร้านอาหารและที่พักรุกล้ำชายหาดแสม, นางชูศรี ฝงคร้าม ออกโฉนด ทับที่ดินที่ราชการ 12 ไร่ , นายทองเจือ จันทราสุข ออกโฉนดที่ดินทับที่ราชการ , ดร.วีระชัย เดชะวิจิตร ก่อสร้างอาคารบริเวณหาดตาแหวน และครอบครอง พื้นที่ภูเขาระหว่างหาดตาแหวนกับหาดทองหลาง 30 ไร่ และนายนิโรจน์ เชื้อแก้ว บุกรุกที่ดินภายใต้การดูแลของเมืองพัทยาก่อสร้างบังกะโล
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีสถานที่ที่เข้าข่ายต้องทำการรื้อถอนทั้งหมด 31 แห่ง อยู่ที่บริเวณหาดตาแหวง 17 แห่ง และหาดแส 14 แห่ง โดยที่ดิน 3 จุดที่หาดแสมนั้นจากการตรวจสอบพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะ และหลังจากมีการออกเอกสารสิทธิ์เพียงวันเดียวตั้งแต่ พ.ศ.2528 ก็มีการนำที่ดินดังกล่าวเข้าจำนองกับธนาคารและไม่มีการส่งและปล่อยให้ธนาคารยึดในที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางเทศบาลเมืองพัทยาได้ยื่นฟ้องในการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้ประกาศแก่เจ้าของกิจการที่ละเมิดและบุกรุกที่ดินให้ทำการรื้อถอนตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากเกินกำหนดแล้วทางเจ้าหน้าที่จะส่งชุดปฏิบัติการข้ารื้อถอนและเจ้าของกิจการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนพร้อมกับดำเนินคดีอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ทำการตรวจสอบในพื้นที่เกาะล้าน ได้มีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องต่าง ๆ หลายรายซึ่งจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ให้เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนไว้และรับปากว่าจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป