“ จะยศพันตรี พันโทหรือ พันเอก ไอ้พวกเสธ.พวกนี้มันก็ไอ้เด็กวานซืนทั้งนั้น..”
จำได้แม่นว่านี่คือ บางคำพูดที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจ ตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการ “เกาะติดสถานการณ์” ทางวิทยุคลื่นสามัญประจำบ้าน 97.75 เมกะเฮิร์ตซ์ เมื่อไม่นานมานี้
คุณมนตรี จอมพันธ์ จากสถานีข่าวโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม นิวส์ 1 ที่มาร่วมจัดรายการกับผมถึงกับเผลอดีดนิ้วเป๊าะ ออกอาการสะใจ –ชื่นชม
กรณีมาเฟียโบ๊เบ๊ที่มีข่าวว่า มี 3 เสธ. คนสีเขียวของงไทยเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันอยู่ด้วย ถ้ามองกันแบบชาวบ้านๆ ไม่คิดอะไรมาก การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดึงเอาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาปะฉะดะ ถือว่า “โดนใจ”..
โดนใจเพราะคนทั่วไปเชื่อว่า จะกี่สิบเสธ.ก็ไม่เป็นไร ขอให้คู่ชนเป็น “เส” ที่ชื่อ “เสรีพิศุทธ์” ก็แล้วกัน..
เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า...ผู้คนไม่น้อยยังเชื่อและมั่นใจในตัวนายตำรวจดังที่ชื่อ “เสรี” หรือ “เสรีพิศุทธ์”
ความจริงภารกิจลุยมาเฟียโบ๊เบ๊ มาเฟียเมืองหลวง ไม่ใช่งานชิ้นแรกที่รัฐบาลทักษิณ “ใช้บริการ” เพราะก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.พิศุทธ์ได้รับมอบหมายให้สอบทุจริตกรณีอื่นๆ รวมทั้งกรณีลำไยอบแห้งมาก่อนแล้ว..
ในสภาพการณ์ที่ดูเหมือนว่าผู้คนแทบจะสิ้นหวัง ไม่เชื่อน้ำยาของรัฐบาลที่จะปราบทุจริตโกงกินสักเท่าใดนัก การได้ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นประธานสอบทุจริตด้วยตนเอง มันก็พอจะช่วยยืดความรู้สึกที่เป็นเสมือนต้นไม้ที่รอวันแห้งตายไปได้บ้าง...
ทั้งๆ ที่รูปการณ์ผลการสอบสวนที่ออกมา ก็พอจะคาดหมายได้ว่า อย่างเก่งตัวใหญ่ที่จะโดนเล่นงานก็น่าจะเป็นเพียง “คน”หรือ “เด็ก”ของนักการเมืองบางรายเท่านั้น..!!
ครับ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ - -นายตำรวจผู้ที่มีภาพลักษณ์ดี เป็นตงฉิน ประวัติการต่อสู้โชกโชน
0 0 0 0 0
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 24 รุ่นพี่พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปี เดิมชื่อ “เสรี เตมียเวส” สมัยรับราชการอยู่ที่นครพนม ต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้นจนได้รับการยกย่องเป็น “วีรบุรุษนาแก”
เคยเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ในสมัยรัฐบาลชาติชาย โดยสนิทสนมกับพล.ต.มนูญ รูปขจร ที่พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ใช้เป็นอาวุธลับทางการเมืองอยู่ในขณะนั้น (2531 -34)
แต่ก็เป็นผู้การกองปราบแค่ในช่วงสั้นๆ เพราะเดือนก.พ.2534 รัฐบาลชาติชายถูกรัฐประหารโดยคณะรสช. กลับมามีบทบาทในตำแหน่งหลักตำแหน่งสำคัญอีกครั้งก็ในช่วง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คุมกระทรวงมหาดไทย และพล.ต.มนูญ รูปขจร เป็นที่ปรึกษา..
กาลต่อมา พล.ต.มนูญเปลี่ยนชื่อเป็น “มนูญกฤต” และคล้อยหลังได้ไม่นานพล.ต.อ.เสรี เตมียเวส เปลี่ยนเป็น ชื่อ –สกุลเป็น “เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส”...ดังที่เห็น
ถ้าย้อนไปเมื่อประมาณ 10 -15 ปีก่อน ใครต่อใครเชื่อกันว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะต้องไปถึงดวงดาวในตำแหน่งผบ.ตร.อย่างแน่นอน แต่หากมองความจริง ณ เมื่อ 2- 3 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่า..ยากมากหรือไม่มีทางเป็นไปได้...เพราะเงื่อนเวลาการเกษียณและการจัดวางตัวบุคคล.....
กล่าวคือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน น่าจะอยู่ในตำแหน่งจนเกษียณในปี 2550 และจากนั้นผบ.ตร.คนต่อไปก็น่าจะตกเป็นของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. “พี่ภรรยา”ของนายกรัฐมนตรี...ผู้มีอายุราชการยาวนานถึงปี 2555 ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์จะเกษียณปี 2551..
มาถึงวันนี้...การที่รัฐบาลทักษิณให้บทบาท ให้ความสำคัญแก่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ทำให้ “วีรบุรุษนาแก” ผู้นี้มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง และหากมองความจริงหลังพล.ต.อ.โกวิทเกษียณในเกือนก.ย.2550 ก็เหลือเพียงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กับพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เท่านั้นที่อาวุโสสูงสุด...
บนสมมุติฐานว่ารัฐบาลทักษิณ2/1 อยู่ครบเทอม....แม้โอกาสจะน้อย แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์อาจจะถูกจัดวางให้เป็นผบ.ตร.ชั่วคราว(ปีเดียว) ก่อนเกษียณ..
0 0 0 0 0
เหลียวหน้าแลหลังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นคนที่ รับผิดชอบงาน และพร้อมถวายชีวิตให้หากได้รับความไว้วางใจหรือมอบตำแหน่งสำคัญให้...ไม่ว่างานนั้นจะพัวพันกับการเมืองหรือไม่ก็ตาม....
คงจำกันได้ว่าเลือกตั้งเมื่อปี 2535/2 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นี่แหละเป็นคนลุยทุจริตเลือกตั้งบุรีรัมย์จนเกิดกรณี “ยี่ห้อยร้อยยี่สิบ” นอกจากนี้ยังมีคดีดังอีกหลายคดีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ โดยหนึ่งในคดี ก็คือ คดีดับเครื่องชนกำนันเป๊าะ – สมชาย คุณปลื้ม กรณีจัดซื้อที่ดินจนถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็คงไม่ใช่ผ้าขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องไปทั้งผืน เพียงแต่หากจะ “ดมความสะอาด” กันเขาไม่น่าจะมีกลิ่นเหม็น หรือถ้าจะเหม็นก็เหม็นน้อยที่สุด
ทั้งหลายทั้งปวง..ก็อยู่ที่สถานการณ์ที่เป็นจริงในปี 2549 -50 เป็นสำคัญ ว่าบ้านเมืองจะเป็นเช่นไร รัฐบาล –พ.ต.ท.ทักษิณอยากจะให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เล่นบทไหน อย่างไร และที่สำคัญเจ้าตัวจะเล่นด้วยหรือไม่..?
ผมพยายามหลับตามอง สุดท้ายเส้นทางพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็น่าจะประมาณว่า..
1) เป็นรอง ผบ.ตร.หรือถูกหวย เป็นผบ.ตร.ก่อนเกษียณในปี 2551 โดยไม่ทำอะไรต่อ - -
2) ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในปี 2551 ภายใต้การเอื้ออาทรทางลึกของไทยรักไทย หรือพรรคการเมืองอื่น
3) รอสมัครส.ส.ในปี 2552 (หากรัฐบาลครบเทอม)..
หากให้เดาความรู้สึกนึกคิดของศูนย์อำนาจพรรคไทยรักไทย พรรคไทยรักไทยน่าจะปิ๊งกับข้อที่ 2 มากที่สุด เพราะนอกเหนือจะไม่เป็นสิ่งกีดขวางสำหรับเส้นทางของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ในการขึ้นสู่ตำแหน่งผบ.ตร.แล้ว ไทยรักไทยยังจะได้นกอีกตัวคือ ตัวเก็ง(ผู้สมัคร)ผู้ว่าฯ กทม...
“เพรียวพันธ์” ผบ.ตร. –“เสรีพิศุทธ์” ผู้ว่าฯ กทม. ... ผมได้ยินมาว่า นี่เป็นสูตรในฝันของไทยรักไทยบางปีก..
บางปีกที่ยังบรรเจิดฝัน...ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำอย่างไรให้รัฐบาลสลัดหลุดจากการติดหล่มCTX9000และนานาทุจริต !!
จำได้แม่นว่านี่คือ บางคำพูดที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจ ตอบคำถามระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการ “เกาะติดสถานการณ์” ทางวิทยุคลื่นสามัญประจำบ้าน 97.75 เมกะเฮิร์ตซ์ เมื่อไม่นานมานี้
คุณมนตรี จอมพันธ์ จากสถานีข่าวโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม นิวส์ 1 ที่มาร่วมจัดรายการกับผมถึงกับเผลอดีดนิ้วเป๊าะ ออกอาการสะใจ –ชื่นชม
กรณีมาเฟียโบ๊เบ๊ที่มีข่าวว่า มี 3 เสธ. คนสีเขียวของงไทยเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันอยู่ด้วย ถ้ามองกันแบบชาวบ้านๆ ไม่คิดอะไรมาก การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดึงเอาพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาปะฉะดะ ถือว่า “โดนใจ”..
โดนใจเพราะคนทั่วไปเชื่อว่า จะกี่สิบเสธ.ก็ไม่เป็นไร ขอให้คู่ชนเป็น “เส” ที่ชื่อ “เสรีพิศุทธ์” ก็แล้วกัน..
เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า...ผู้คนไม่น้อยยังเชื่อและมั่นใจในตัวนายตำรวจดังที่ชื่อ “เสรี” หรือ “เสรีพิศุทธ์”
ความจริงภารกิจลุยมาเฟียโบ๊เบ๊ มาเฟียเมืองหลวง ไม่ใช่งานชิ้นแรกที่รัฐบาลทักษิณ “ใช้บริการ” เพราะก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.พิศุทธ์ได้รับมอบหมายให้สอบทุจริตกรณีอื่นๆ รวมทั้งกรณีลำไยอบแห้งมาก่อนแล้ว..
ในสภาพการณ์ที่ดูเหมือนว่าผู้คนแทบจะสิ้นหวัง ไม่เชื่อน้ำยาของรัฐบาลที่จะปราบทุจริตโกงกินสักเท่าใดนัก การได้ทราบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นประธานสอบทุจริตด้วยตนเอง มันก็พอจะช่วยยืดความรู้สึกที่เป็นเสมือนต้นไม้ที่รอวันแห้งตายไปได้บ้าง...
ทั้งๆ ที่รูปการณ์ผลการสอบสวนที่ออกมา ก็พอจะคาดหมายได้ว่า อย่างเก่งตัวใหญ่ที่จะโดนเล่นงานก็น่าจะเป็นเพียง “คน”หรือ “เด็ก”ของนักการเมืองบางรายเท่านั้น..!!
ครับ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ - -นายตำรวจผู้ที่มีภาพลักษณ์ดี เป็นตงฉิน ประวัติการต่อสู้โชกโชน
0 0 0 0 0
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 24 รุ่นพี่พ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปี เดิมชื่อ “เสรี เตมียเวส” สมัยรับราชการอยู่ที่นครพนม ต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างเข้มข้นจนได้รับการยกย่องเป็น “วีรบุรุษนาแก”
เคยเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ในสมัยรัฐบาลชาติชาย โดยสนิทสนมกับพล.ต.มนูญ รูปขจร ที่พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ใช้เป็นอาวุธลับทางการเมืองอยู่ในขณะนั้น (2531 -34)
แต่ก็เป็นผู้การกองปราบแค่ในช่วงสั้นๆ เพราะเดือนก.พ.2534 รัฐบาลชาติชายถูกรัฐประหารโดยคณะรสช. กลับมามีบทบาทในตำแหน่งหลักตำแหน่งสำคัญอีกครั้งก็ในช่วง พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ คุมกระทรวงมหาดไทย และพล.ต.มนูญ รูปขจร เป็นที่ปรึกษา..
กาลต่อมา พล.ต.มนูญเปลี่ยนชื่อเป็น “มนูญกฤต” และคล้อยหลังได้ไม่นานพล.ต.อ.เสรี เตมียเวส เปลี่ยนเป็น ชื่อ –สกุลเป็น “เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส”...ดังที่เห็น
ถ้าย้อนไปเมื่อประมาณ 10 -15 ปีก่อน ใครต่อใครเชื่อกันว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะต้องไปถึงดวงดาวในตำแหน่งผบ.ตร.อย่างแน่นอน แต่หากมองความจริง ณ เมื่อ 2- 3 ปีที่ผ่านมาต้องบอกว่า..ยากมากหรือไม่มีทางเป็นไปได้...เพราะเงื่อนเวลาการเกษียณและการจัดวางตัวบุคคล.....
กล่าวคือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.คนปัจจุบัน น่าจะอยู่ในตำแหน่งจนเกษียณในปี 2550 และจากนั้นผบ.ตร.คนต่อไปก็น่าจะตกเป็นของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผบ.ตร. “พี่ภรรยา”ของนายกรัฐมนตรี...ผู้มีอายุราชการยาวนานถึงปี 2555 ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์จะเกษียณปี 2551..
มาถึงวันนี้...การที่รัฐบาลทักษิณให้บทบาท ให้ความสำคัญแก่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ทำให้ “วีรบุรุษนาแก” ผู้นี้มีความโดดเด่นขึ้นมาอีกครั้ง และหากมองความจริงหลังพล.ต.อ.โกวิทเกษียณในเกือนก.ย.2550 ก็เหลือเพียงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กับพล.ต.อ.เพรียวพันธ์เท่านั้นที่อาวุโสสูงสุด...
บนสมมุติฐานว่ารัฐบาลทักษิณ2/1 อยู่ครบเทอม....แม้โอกาสจะน้อย แต่ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์อาจจะถูกจัดวางให้เป็นผบ.ตร.ชั่วคราว(ปีเดียว) ก่อนเกษียณ..
0 0 0 0 0
เหลียวหน้าแลหลังพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็พอจะอนุมานได้ว่าเป็นคนที่ รับผิดชอบงาน และพร้อมถวายชีวิตให้หากได้รับความไว้วางใจหรือมอบตำแหน่งสำคัญให้...ไม่ว่างานนั้นจะพัวพันกับการเมืองหรือไม่ก็ตาม....
คงจำกันได้ว่าเลือกตั้งเมื่อปี 2535/2 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์นี่แหละเป็นคนลุยทุจริตเลือกตั้งบุรีรัมย์จนเกิดกรณี “ยี่ห้อยร้อยยี่สิบ” นอกจากนี้ยังมีคดีดังอีกหลายคดีที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ โดยหนึ่งในคดี ก็คือ คดีดับเครื่องชนกำนันเป๊าะ – สมชาย คุณปลื้ม กรณีจัดซื้อที่ดินจนถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว
อย่างไรก็ตามพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็คงไม่ใช่ผ้าขาวบริสุทธิ์ผุดผ่องไปทั้งผืน เพียงแต่หากจะ “ดมความสะอาด” กันเขาไม่น่าจะมีกลิ่นเหม็น หรือถ้าจะเหม็นก็เหม็นน้อยที่สุด
ทั้งหลายทั้งปวง..ก็อยู่ที่สถานการณ์ที่เป็นจริงในปี 2549 -50 เป็นสำคัญ ว่าบ้านเมืองจะเป็นเช่นไร รัฐบาล –พ.ต.ท.ทักษิณอยากจะให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เล่นบทไหน อย่างไร และที่สำคัญเจ้าตัวจะเล่นด้วยหรือไม่..?
ผมพยายามหลับตามอง สุดท้ายเส้นทางพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็น่าจะประมาณว่า..
1) เป็นรอง ผบ.ตร.หรือถูกหวย เป็นผบ.ตร.ก่อนเกษียณในปี 2551 โดยไม่ทำอะไรต่อ - -
2) ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ในปี 2551 ภายใต้การเอื้ออาทรทางลึกของไทยรักไทย หรือพรรคการเมืองอื่น
3) รอสมัครส.ส.ในปี 2552 (หากรัฐบาลครบเทอม)..
หากให้เดาความรู้สึกนึกคิดของศูนย์อำนาจพรรคไทยรักไทย พรรคไทยรักไทยน่าจะปิ๊งกับข้อที่ 2 มากที่สุด เพราะนอกเหนือจะไม่เป็นสิ่งกีดขวางสำหรับเส้นทางของพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ในการขึ้นสู่ตำแหน่งผบ.ตร.แล้ว ไทยรักไทยยังจะได้นกอีกตัวคือ ตัวเก็ง(ผู้สมัคร)ผู้ว่าฯ กทม...
“เพรียวพันธ์” ผบ.ตร. –“เสรีพิศุทธ์” ผู้ว่าฯ กทม. ... ผมได้ยินมาว่า นี่เป็นสูตรในฝันของไทยรักไทยบางปีก..
บางปีกที่ยังบรรเจิดฝัน...ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะทำอย่างไรให้รัฐบาลสลัดหลุดจากการติดหล่มCTX9000และนานาทุจริต !!