บทความวันนี้ไม่เกี่ยวกับตัวละครในวรรณคดีพระอภัยมณีที่มีชื่อว่าย่องตอดแต่ประการใด เพราะย่องตอดในพระอภัยมณีนั้นถึงอย่างไรก็นับว่าเป็นคนดี เป็นคนซื่อต่อเจ้า ไม่คดไม่โกงใคร ตั้งใจทำหน้าที่การงานด้วยความสัตย์สุจริต เพียงแต่ชื่อว่าย่องตอดนั้นทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่านั้น
ดังนั้นบางทีชื่อคนหรือภาพลักษณ์ของคนที่เห็นภายนอกก็อาจจะเชื่อถือเอาเป็นแก่นสารสาระอะไรไม่ได้
คนไทยเข้าใจภาพลักษณ์ย่องตอดผิด ๆ ก็เพราะคำว่าย่องตอดนั้นเป็นอาการของปลาที่แอบตอดเหยื่อหรือสิ่งที่เห็นว่าเป็นเหยื่อ โดยที่ไม่มีความรับผิดชอบอะไร เพราะย่องไปตอดแล้วก็หนีไป
เหมือนกับการกระทำบางอย่างของคนในสถานทูตอเมริกา ในกรณีการแถลงเกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดว่าไม่พบการทุจริต ซึ่งทำแบบปกปิดลับ ๆ ล่อ ๆ และไม่รับผิดชอบอะไร พฤติกรรมเช่นนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมย่องตอด
ตอนแรก ๆ ก็บอกว่าจะมีบุคคลระดับสูงในสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยแถลงข่าวสำคัญเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด นักข่าวก็พากันสนใจ
พอเอาเข้าจริงปรากฏว่าทูตอเมริกาประจำประเทศไทยซึ่งมีศักดิ์ฐานะและอำนาจหน้าที่โดยตรงในการกระทำการแทนและในนามสถานทูตและประเทศอเมริกาตลอดจนรัฐบาลอเมริกากลับไม่ได้เป็นผู้แถลง
พูดง่าย ๆ ก็คือว่าตัวแทนของประเทศและรัฐบาลอเมริกาหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ที่แท้จริงของสถานทูตอเมริกาในประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้แถลง
ดังนั้นใครอย่าเที่ยวไปอ้างให้ผู้คนเขาหัวเราะเยาะเล่นเอาได้ว่ากรณีนี้เป็นการแถลงโดยสถานทูตอเมริกา เพราะยิ่งอ้างเช่นนั้นก็ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าถูกหลอกอีกแล้วและจะไม่เป็นผลดีอะไรขึ้นมาเลย
บุคคลที่มีตำแหน่งเป็นทูตไม่ได้แถลงก็ยังพอทำเนา แม้ผู้มีตำแหน่งเป็นอุปทูตหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ใด ๆ ของสถานทูตก็ไม่ได้เป็นผู้แถลง ผู้มีตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ที่อาจได้รับการมอบหมายหรือที่อาจถือได้ว่าเป็นผู้แทนสถานทูตซึ่งมีอยู่หลายคนก็ไม่ได้เป็นผู้แถลง
ผู้แถลงจริง ๆ เป็นไอ้โม่งคนหนึ่ง จะมีชื่อเสียงเรียงนามใด ๆ ก็ไม่ยอมเปิดเผย อ้างแต่ว่าเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ที่สำคัญคือฐานะของการแถลงนั้นเป็นเงื่อนงำให้สงสัยว่าแถลงแทนใครกันแน่ คือแถลงแทนบริษัทผู้ขายหรือว่าแถลงแทนรัฐบาลอเมริกา
ยิ่งกว่านั้นการแถลงก็ผิดธรรมเนียมการแถลงข่าวทั่วไป คือไม่ยอมให้ถ่ายภาพผู้แถลงเพื่อให้ปรากฏต่อสาธารณชนว่าผู้แถลงเป็นใคร มีตำแหน่งหน้าที่อย่างไร ทำราวกับว่าเป็นโจรปล้นสวาทที่ถูกตำรวจจับได้แล้วต้องปกปิดหน้าตาเวลาแถลงข่าวฉะนั้น
พฤติกรรมเช่นนี้จึงต้องถือว่าเป็นพฤติกรรมย่องตอดและเชื่อถืออะไรไม่ได้ ใช้เป็นที่พึ่งเป็นหลักฐานอ้างอิงอะไรไม่ได้ และเพราะเหตุนี้คนทั้งปวงจึงไม่ให้ความเชื่อถือต่อการแถลงเช่นนั้น
ใครขืนเชื่อถือยึดโยงอ้างอิงเอาถ้อยคำของคนจำพวกย่องตอดมาเป็นเกราะกำบังตัวก็ดี มาเป็นข้ออ้างของความสัตย์สุจริตก็ดี หรือเพื่อทำให้ผู้คนเชื่อถือว่าไม่มีการทุจริตก็ดี ย่อมต้องระมัดระวังให้จงหนัก
เพราะสักวันหนึ่งอาจจะมีใครพูดขึ้นมาหรือปรากฏข้อเท็จจริงขึ้นมาว่านายย่องตอดคนนั้นไม่ได้กระทำในนามของรัฐบาลอเมริกา หรือประเทศอเมริกา แม้กระทั่งอาจมีการกล่าวอ้างว่าเป็นการพูดจาแทนบริษัทผู้ขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ก็จะยิ่งฉิบหายกันใหญ่
ตรงนี้แหละจะต้องระวังให้ดี เพราะถึงวันนี้ก็เริ่มมีคนพูดกันแล้วว่าคนที่แถลงนั้นได้รับมอบหมายมาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของอเมริกาให้มาเป็นผู้แถลง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการอ้างอิงเอาคำแถลงเช่นนี้ไปแก้ต่างเรื่องความสุจริตหรือไม่สุจริตก็มีแต่จะเป็นมลทินมัวหมองหนักเข้าไปอีก
มาใคร่ครวญดูว่าทำไมผู้คนจึงยังคงระแวงแคลงใจในเรื่องการทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้เกิดเป็นข่าวมาร่วมเดือนแล้ว และดูเหมือนว่ายิ่งนานวันไปผู้คนกลับยิ่งเชื่อว่ามีการทุจริตมากขึ้นทุกที
ก็พบว่าการที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากผู้ที่ตรวจสอบพบเรื่องนี้คือกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา หรือที่เรียกว่า กลต.ของอเมริกา จึงทำให้ได้รับความเชื่อถือจากคนทั้งปวง เพราะเชื่อถือในความเป็นอิสระอย่างหนึ่ง และเชื่อถือในมาตรฐานทางบัญชีที่เป็นมาตรฐานโลกอีกอย่างหนึ่ง
ที่ซ้ำหนักขึ้นไปก็คือผู้ต้องหารับสารภาพ และมีการฟ้องคดีต่อศาลตามคำรับสารภาพนั้น ศาลตัดสินจนคดีถึงที่สุดแล้ว และจำเลยต้องเสียค่าปรับถึง 800,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยร่วม 32 ล้านบาท หากไม่ผิดตามข้อกล่าวหา ไหนเลยจะยอมเสียค่าปรับมากมายขนาดนั้น!
ผู้คนเขาเชื่อกระบวนการยุติธรรมของอเมริกา ดังนั้นเมื่อกระทรวงยุติธรรมเขาออกประกาศสาธารณะเช่นนั้นจึงเกิดความเชื่อถือทั่วไป ไม่ว่าที่ไหน ๆ ในโลก
แล้วจะหักล้างความน่าเชื่อถือนั้นอย่างไร?
รัฐบาลอเมริกาไม่มีทางที่จะพูดจาหักล้างคำตัดสินของศาลได้ กระทรวงการต่างประเทศอเมริกาก็ไม่มีทางที่จะพูดจาหักล้างคำตัดสินของศาลได้ สถานทูตอเมริกาเป็นตัวแทนรัฐบาลอเมริกาและเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่มีทางที่จะให้คำรับรองใด ๆ ที่จะมีผลเป็นการหักล้างคำตัดสินของศาลอเมริกาได้
นี่คือหลักการ! ดังนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาจึงได้พูดอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมอเมริกา ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา
เขาพูดโต้ง ๆ ชัด ๆ อยู่เช่นนี้ว่าเขาไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีอำนาจหน้าที่ ไม่สามารถรับรองความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ของใครได้เลย แล้วยังไปยึดถือหรือมุ่งมั่นเอาถ้อยคำของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเป็นสรณะทำไม?
ทำให้ผู้คนเขารู้สึกว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งเกิดผลสะท้อนที่ไม่เป็นผลดีเลย ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะดึงดันไปอ้างอิงเอาคำรับรองของหน่วยงานหรือผู้คนที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาเป็นข้ออ้างเกี่ยวกับความสุจริตหรือไม่สุจริตอีก
เพราะถ้าจะหาคำรับรองจากอเมริกากันจริง ๆ แล้ว ก็ต้องเอาที่กระทรวงยุติธรรมหรือศาลยุติธรรมหรือ กลต.ของอเมริกา ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องโดยตรง ไม่ใช่ไปหาเอาจากแหล่งอื่นซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
ก็จะได้ดูกันว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และ กลต.ของอเมริกาจะกล้าพูด กล้ารับรอง ในสิ่งที่ขัดกับคำประกาศสาธารณะและขัดกับคำตัดสินของศาลหรือไม่?
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงสนุกแน่ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมและระบบการแถลงข้อมูลข่าวสารทั้งหลายของกระทรวงยุติธรรม ของศาลยุติธรรม และของ กลต.อเมริกา ก็จะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
และจะก่อให้เกิดสิทธิ์แก่บรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอากับกระทรวงยุติธรรมและ กลต.อเมริกาด้วย
เนื่องจากขณะนี้ผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งของบริษัทนั้นก็ได้ฟ้องร้องบริษัทว่ากระทำผิดกฎหมายต่อต้านการคอรัปชั่นข้ามชาติ จึงทำให้หุ้นราคาตก และคดีกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอเมริกา
ดังนั้นถ้าหากกระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และ กลต.อเมริกา ให้คำรับรองว่ากรณีเรื่องนี้ไม่พบการทุจริตก็จะขัดกับประกาศของกระทรวงยุติธรรมและผลการตรวจสอบของ กลต. ย่อมมีผลว่าการประกาศของกระทรวงยุติธรรมและการตรวจสอบของ กลต.อเมริกา ทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นได้รับความเสียหายและทำให้หุ้นตก เนื่องจากการประกาศนั้นทำให้นักลงทุนชิงชังรังเกียจ
จึงต้องคิดกันให้ดีว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และกลต.อเมริกา จะกล้ารับรองหรือพูดจาขัดกับประกาศสาธารณะของตน ซึ่งมีผลทำให้ระบบและกระบวนการยุติธรรมพังทลายไร้ความน่าเชื่อถืออีกต่อไป และจะกล้ารับความเสี่ยงที่จะถูกบรรดาผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นนักลงทุนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่
ก็พอจะเห็นคำตอบว่ายากที่เขาจะยอมทำลายระบบเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเขา ดังนั้นหากมีการถามไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาคงจะต้องยันกลับมาว่าเรื่องต้องเป็นไปตามคำตัดสินของศาล หรือไม่ก็ให้ถือเอาคำตัดสินของศาลนั่นแหละเป็นคำตอบ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะไม่สมประโยชน์ของการถาม มิหนำซ้ำยังทำให้ผู้คนยิ่งเชื่อมั่นหนักเข้าไปอีกว่ามีการทุจริต
ใครที่เล่นเกมนี้ก็ออกจะเสี่ยงพอตัว!
เว้นเสียแต่คาดหมายได้ล่วงหน้าแล้วว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และกลต.อเมริกา จะไม่ตอบ ซึ่งจะได้ผลในแง่การซื้อเวลา แต่ถ้าคิดเช่นนั้นก็จะเป็นการเข้าใจผิด เพราะเมื่อความเชื่อเกิดขึ้นต่อเนื่องยืดยาวไปแล้ว ก็จะฝังใจจนแก้ไม่ออก
หรือไม่ก็มีวิธีในการตั้งคำถามที่อาจทำให้ได้คำตอบคลุม ๆ เครือ ๆ แล้วมาตีความขยายเอาในภายหลัง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ผล เพราะผู้คนเริ่มจับตาและสงสัย จึงมีการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อความที่สอบถามไปนั้น
เพราะการตั้งข้อสอบถามเป็นนัยยะสำคัญของการได้คำตอบ เช่น ถ้าถามไปว่าศาลอเมริกาตัดสินโดยไม่มีการสืบพยานหรือดูพยานหลักฐานว่ามีการจ่ายสินบนหรือไม่ ก็จะได้คำตอบว่าใช่
แต่นั่นไม่ใช่คำรับรองว่าไม่มีการทุจริต และไม่ใช่คำรับรองว่ากรณีเรื่องนี้ได้กระทำโดยสุจริต เพราะเป็นการถามเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเนื้อหาของเรื่อง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ย่อมมีผู้รู้ออกมาอธิบายความหมาย แล้วจะทำให้คนทั้งปวงเห็นว่านอกจากไม่มุ่งหน้าแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ยังมีการปกปิดบิดเบือนให้กับการคอรัปชั่นเสียอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีอะไรเลย
ก็ได้แต่ภาวนาว่าหนังสือที่ถามไปยังกระทรวงยุติธรรมอเมริกาจะไม่มีลักษณะทำนองนี้ ซึ่งอีกไม่นานนักก็คงจะได้รู้ได้เห็นกัน
ดังนั้นบางทีชื่อคนหรือภาพลักษณ์ของคนที่เห็นภายนอกก็อาจจะเชื่อถือเอาเป็นแก่นสารสาระอะไรไม่ได้
คนไทยเข้าใจภาพลักษณ์ย่องตอดผิด ๆ ก็เพราะคำว่าย่องตอดนั้นเป็นอาการของปลาที่แอบตอดเหยื่อหรือสิ่งที่เห็นว่าเป็นเหยื่อ โดยที่ไม่มีความรับผิดชอบอะไร เพราะย่องไปตอดแล้วก็หนีไป
เหมือนกับการกระทำบางอย่างของคนในสถานทูตอเมริกา ในกรณีการแถลงเกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดว่าไม่พบการทุจริต ซึ่งทำแบบปกปิดลับ ๆ ล่อ ๆ และไม่รับผิดชอบอะไร พฤติกรรมเช่นนี้จึงเรียกได้ว่าเป็นพฤติกรรมย่องตอด
ตอนแรก ๆ ก็บอกว่าจะมีบุคคลระดับสูงในสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทยแถลงข่าวสำคัญเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตในการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด นักข่าวก็พากันสนใจ
พอเอาเข้าจริงปรากฏว่าทูตอเมริกาประจำประเทศไทยซึ่งมีศักดิ์ฐานะและอำนาจหน้าที่โดยตรงในการกระทำการแทนและในนามสถานทูตและประเทศอเมริกาตลอดจนรัฐบาลอเมริกากลับไม่ได้เป็นผู้แถลง
พูดง่าย ๆ ก็คือว่าตัวแทนของประเทศและรัฐบาลอเมริกาหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ที่แท้จริงของสถานทูตอเมริกาในประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้แถลง
ดังนั้นใครอย่าเที่ยวไปอ้างให้ผู้คนเขาหัวเราะเยาะเล่นเอาได้ว่ากรณีนี้เป็นการแถลงโดยสถานทูตอเมริกา เพราะยิ่งอ้างเช่นนั้นก็ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าถูกหลอกอีกแล้วและจะไม่เป็นผลดีอะไรขึ้นมาเลย
บุคคลที่มีตำแหน่งเป็นทูตไม่ได้แถลงก็ยังพอทำเนา แม้ผู้มีตำแหน่งเป็นอุปทูตหรือผู้มีอำนาจหน้าที่ใด ๆ ของสถานทูตก็ไม่ได้เป็นผู้แถลง ผู้มีตำแหน่งและอำนาจหน้าที่ที่อาจได้รับการมอบหมายหรือที่อาจถือได้ว่าเป็นผู้แทนสถานทูตซึ่งมีอยู่หลายคนก็ไม่ได้เป็นผู้แถลง
ผู้แถลงจริง ๆ เป็นไอ้โม่งคนหนึ่ง จะมีชื่อเสียงเรียงนามใด ๆ ก็ไม่ยอมเปิดเผย อ้างแต่ว่าเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น ที่สำคัญคือฐานะของการแถลงนั้นเป็นเงื่อนงำให้สงสัยว่าแถลงแทนใครกันแน่ คือแถลงแทนบริษัทผู้ขายหรือว่าแถลงแทนรัฐบาลอเมริกา
ยิ่งกว่านั้นการแถลงก็ผิดธรรมเนียมการแถลงข่าวทั่วไป คือไม่ยอมให้ถ่ายภาพผู้แถลงเพื่อให้ปรากฏต่อสาธารณชนว่าผู้แถลงเป็นใคร มีตำแหน่งหน้าที่อย่างไร ทำราวกับว่าเป็นโจรปล้นสวาทที่ถูกตำรวจจับได้แล้วต้องปกปิดหน้าตาเวลาแถลงข่าวฉะนั้น
พฤติกรรมเช่นนี้จึงต้องถือว่าเป็นพฤติกรรมย่องตอดและเชื่อถืออะไรไม่ได้ ใช้เป็นที่พึ่งเป็นหลักฐานอ้างอิงอะไรไม่ได้ และเพราะเหตุนี้คนทั้งปวงจึงไม่ให้ความเชื่อถือต่อการแถลงเช่นนั้น
ใครขืนเชื่อถือยึดโยงอ้างอิงเอาถ้อยคำของคนจำพวกย่องตอดมาเป็นเกราะกำบังตัวก็ดี มาเป็นข้ออ้างของความสัตย์สุจริตก็ดี หรือเพื่อทำให้ผู้คนเชื่อถือว่าไม่มีการทุจริตก็ดี ย่อมต้องระมัดระวังให้จงหนัก
เพราะสักวันหนึ่งอาจจะมีใครพูดขึ้นมาหรือปรากฏข้อเท็จจริงขึ้นมาว่านายย่องตอดคนนั้นไม่ได้กระทำในนามของรัฐบาลอเมริกา หรือประเทศอเมริกา แม้กระทั่งอาจมีการกล่าวอ้างว่าเป็นการพูดจาแทนบริษัทผู้ขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ก็จะยิ่งฉิบหายกันใหญ่
ตรงนี้แหละจะต้องระวังให้ดี เพราะถึงวันนี้ก็เริ่มมีคนพูดกันแล้วว่าคนที่แถลงนั้นได้รับมอบหมายมาจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจวัตถุระเบิดของอเมริกาให้มาเป็นผู้แถลง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงการอ้างอิงเอาคำแถลงเช่นนี้ไปแก้ต่างเรื่องความสุจริตหรือไม่สุจริตก็มีแต่จะเป็นมลทินมัวหมองหนักเข้าไปอีก
มาใคร่ครวญดูว่าทำไมผู้คนจึงยังคงระแวงแคลงใจในเรื่องการทุจริตเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้เกิดเป็นข่าวมาร่วมเดือนแล้ว และดูเหมือนว่ายิ่งนานวันไปผู้คนกลับยิ่งเชื่อว่ามีการทุจริตมากขึ้นทุกที
ก็พบว่าการที่เป็นเช่นนั้นเนื่องจากผู้ที่ตรวจสอบพบเรื่องนี้คือกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของอเมริกา หรือที่เรียกว่า กลต.ของอเมริกา จึงทำให้ได้รับความเชื่อถือจากคนทั้งปวง เพราะเชื่อถือในความเป็นอิสระอย่างหนึ่ง และเชื่อถือในมาตรฐานทางบัญชีที่เป็นมาตรฐานโลกอีกอย่างหนึ่ง
ที่ซ้ำหนักขึ้นไปก็คือผู้ต้องหารับสารภาพ และมีการฟ้องคดีต่อศาลตามคำรับสารภาพนั้น ศาลตัดสินจนคดีถึงที่สุดแล้ว และจำเลยต้องเสียค่าปรับถึง 800,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยร่วม 32 ล้านบาท หากไม่ผิดตามข้อกล่าวหา ไหนเลยจะยอมเสียค่าปรับมากมายขนาดนั้น!
ผู้คนเขาเชื่อกระบวนการยุติธรรมของอเมริกา ดังนั้นเมื่อกระทรวงยุติธรรมเขาออกประกาศสาธารณะเช่นนั้นจึงเกิดความเชื่อถือทั่วไป ไม่ว่าที่ไหน ๆ ในโลก
แล้วจะหักล้างความน่าเชื่อถือนั้นอย่างไร?
รัฐบาลอเมริกาไม่มีทางที่จะพูดจาหักล้างคำตัดสินของศาลได้ กระทรวงการต่างประเทศอเมริกาก็ไม่มีทางที่จะพูดจาหักล้างคำตัดสินของศาลได้ สถานทูตอเมริกาเป็นตัวแทนรัฐบาลอเมริกาและเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่มีทางที่จะให้คำรับรองใด ๆ ที่จะมีผลเป็นการหักล้างคำตัดสินของศาลอเมริกาได้
นี่คือหลักการ! ดังนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาจึงได้พูดอย่างชัดเจนว่าเรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมอเมริกา ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศของอเมริกา
เขาพูดโต้ง ๆ ชัด ๆ อยู่เช่นนี้ว่าเขาไม่เกี่ยวข้อง ไม่มีอำนาจหน้าที่ ไม่สามารถรับรองความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ของใครได้เลย แล้วยังไปยึดถือหรือมุ่งมั่นเอาถ้อยคำของรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่สถานทูตมาเป็นสรณะทำไม?
ทำให้ผู้คนเขารู้สึกว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยาม ซึ่งเกิดผลสะท้อนที่ไม่เป็นผลดีเลย ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะดึงดันไปอ้างอิงเอาคำรับรองของหน่วยงานหรือผู้คนที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องมาเป็นข้ออ้างเกี่ยวกับความสุจริตหรือไม่สุจริตอีก
เพราะถ้าจะหาคำรับรองจากอเมริกากันจริง ๆ แล้ว ก็ต้องเอาที่กระทรวงยุติธรรมหรือศาลยุติธรรมหรือ กลต.ของอเมริกา ซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องโดยตรง ไม่ใช่ไปหาเอาจากแหล่งอื่นซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง
ก็จะได้ดูกันว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และ กลต.ของอเมริกาจะกล้าพูด กล้ารับรอง ในสิ่งที่ขัดกับคำประกาศสาธารณะและขัดกับคำตัดสินของศาลหรือไม่?
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงสนุกแน่ เนื่องจากกระบวนการยุติธรรมและระบบการแถลงข้อมูลข่าวสารทั้งหลายของกระทรวงยุติธรรม ของศาลยุติธรรม และของ กลต.อเมริกา ก็จะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
และจะก่อให้เกิดสิทธิ์แก่บรรดาผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้ผลิตเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอากับกระทรวงยุติธรรมและ กลต.อเมริกาด้วย
เนื่องจากขณะนี้ผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งของบริษัทนั้นก็ได้ฟ้องร้องบริษัทว่ากระทำผิดกฎหมายต่อต้านการคอรัปชั่นข้ามชาติ จึงทำให้หุ้นราคาตก และคดีกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอเมริกา
ดังนั้นถ้าหากกระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และ กลต.อเมริกา ให้คำรับรองว่ากรณีเรื่องนี้ไม่พบการทุจริตก็จะขัดกับประกาศของกระทรวงยุติธรรมและผลการตรวจสอบของ กลต. ย่อมมีผลว่าการประกาศของกระทรวงยุติธรรมและการตรวจสอบของ กลต.อเมริกา ทำให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้นได้รับความเสียหายและทำให้หุ้นตก เนื่องจากการประกาศนั้นทำให้นักลงทุนชิงชังรังเกียจ
จึงต้องคิดกันให้ดีว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และกลต.อเมริกา จะกล้ารับรองหรือพูดจาขัดกับประกาศสาธารณะของตน ซึ่งมีผลทำให้ระบบและกระบวนการยุติธรรมพังทลายไร้ความน่าเชื่อถืออีกต่อไป และจะกล้ารับความเสี่ยงที่จะถูกบรรดาผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นนักลงทุนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหรือไม่
ก็พอจะเห็นคำตอบว่ายากที่เขาจะยอมทำลายระบบเกียรติยศและศักดิ์ศรีของเขา ดังนั้นหากมีการถามไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาคงจะต้องยันกลับมาว่าเรื่องต้องเป็นไปตามคำตัดสินของศาล หรือไม่ก็ให้ถือเอาคำตัดสินของศาลนั่นแหละเป็นคำตอบ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะไม่สมประโยชน์ของการถาม มิหนำซ้ำยังทำให้ผู้คนยิ่งเชื่อมั่นหนักเข้าไปอีกว่ามีการทุจริต
ใครที่เล่นเกมนี้ก็ออกจะเสี่ยงพอตัว!
เว้นเสียแต่คาดหมายได้ล่วงหน้าแล้วว่ากระทรวงยุติธรรม ศาลยุติธรรม และกลต.อเมริกา จะไม่ตอบ ซึ่งจะได้ผลในแง่การซื้อเวลา แต่ถ้าคิดเช่นนั้นก็จะเป็นการเข้าใจผิด เพราะเมื่อความเชื่อเกิดขึ้นต่อเนื่องยืดยาวไปแล้ว ก็จะฝังใจจนแก้ไม่ออก
หรือไม่ก็มีวิธีในการตั้งคำถามที่อาจทำให้ได้คำตอบคลุม ๆ เครือ ๆ แล้วมาตีความขยายเอาในภายหลัง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ผล เพราะผู้คนเริ่มจับตาและสงสัย จึงมีการเรียกร้องให้เปิดเผยข้อความที่สอบถามไปนั้น
เพราะการตั้งข้อสอบถามเป็นนัยยะสำคัญของการได้คำตอบ เช่น ถ้าถามไปว่าศาลอเมริกาตัดสินโดยไม่มีการสืบพยานหรือดูพยานหลักฐานว่ามีการจ่ายสินบนหรือไม่ ก็จะได้คำตอบว่าใช่
แต่นั่นไม่ใช่คำรับรองว่าไม่มีการทุจริต และไม่ใช่คำรับรองว่ากรณีเรื่องนี้ได้กระทำโดยสุจริต เพราะเป็นการถามเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณา ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเนื้อหาของเรื่อง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ย่อมมีผู้รู้ออกมาอธิบายความหมาย แล้วจะทำให้คนทั้งปวงเห็นว่านอกจากไม่มุ่งหน้าแก้ไขปัญหาทุจริตคอรัปชั่นแล้ว ยังมีการปกปิดบิดเบือนให้กับการคอรัปชั่นเสียอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีอะไรเลย
ก็ได้แต่ภาวนาว่าหนังสือที่ถามไปยังกระทรวงยุติธรรมอเมริกาจะไม่มีลักษณะทำนองนี้ ซึ่งอีกไม่นานนักก็คงจะได้รู้ได้เห็นกัน