ความรู้สึกของคนไทยโดยทั่วไปชอบ "ชาวต่างชาติ" โดยเฉพาะ "ฝรั่ง" ชาวคอร์เคเชียน (Caucasian) ที่ผมสีน้ำตาล ผิวขาว ตาน้ำข้าว รูปร่างสูงใหญ่ ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป เลยไปจนถึงชาวอเมริกันส่วน "ชาวต่างชาติ" ที่เป็นชาวเอเชียด้วยกันนั้น ก็พอจะชื่นชอบกันบ้างส่วนชาติอื่นๆ นั้น คนไทยเฉยๆ
เหตุผลสำคัญที่คนไทย "ชื่นชม-นิยม-ชมชอบ" ชาวคอร์เคเชียนนั้น เพราะอารยธรรม (Civilization) ของฝรั่งในความรู้สึกคนไทยนั้น อาจจะคิดว่ายาวนานและไม่สำคัญเท่ากับ "สูง" กว่าคนไทย
"แสงแดด" ยอมรับความจริงว่า "ฝรั่งตาน้ำข้าว" นั้นมี "วัฒนธรรม (Culture)" สูง แต่มิใช่มีอารยธรรมสูงกว่าชาติอื่นๆ ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ชาวเอเชียไม่ว่าชาวจีน ชาวอินเดีย จนเลยไปถึงชาวอินคา (INCA) ที่ตั้งรกรากอยู่ทวีปอเมริกากลางยันอเมริกาใต้นั้น ต่างมีอารยธรรม "สูง-เก่า" กว่า "ฝรั่งตาน้ำข้าว" เสียอีก
ชาวอินเดียและชาวจีนจริงๆ แล้วฝรั่งซะเองเรียกว่า "โอเรียนทัล (Oriental)" ที่แปลว่า "ปฐมภูมิ" ซึ่งมีความว่า "ดั้งเดิม" หรือ "ออริจินัล (Original)" หรือมนุษย์พันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งทางการศึกษาเชิง "มานุษยวิทยา" หรือ "Anthropology" จะสามารถศึกษาทางทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่มีการศึกษาแล้วว่า มนุษย์เผ่าพันธุ์ดั้งเดิมนั้นมาจากอารยธรรมตะวันออก (Eastern Civilization) เพราะฉะนั้นขอย้ำอีกครั้งว่า "คนเอเชีย-เอเซียน (Asian)" นั้นเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ดั้งเดิมหรือ Oriental จริงๆ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็ชัดเจนว่าอารยธรรมตะวันออกนั้น "เก่าแก่-ลึกซึ้ง" ยาวนานมากกว่า "อารยธรรมตะวันตก (Western Civilization)" โดย "ฝรั่ง" ที่มี "ภูมิปัญญา-ความรู้" สูงหรือ "High Mentality-High Knowledge" จะรู้ลึกซึ้งดี และสนอกสนใจ พร้อมให้ "เกียรติ (Honor)" กับ "ความจริง (Fact)" ของประวัติศาสตร์อารยธรรมนี้ แต่ก็เป็นกรณีที่น่าเสียใจและเสียดายอย่างมาก ที่มีปริมาณฝรั่งจำนวนน้อยมากที่มี "ภูมิ-ฐานความรู้" เกี่ยวกับ "อารยธรรม (Civilization)" ของตะวันออก
ดังนั้นฝรั่งจำนวนมากที่ไม่เคยออกนอกประเทศตนเอง และ/หรือ ไม่เคยได้มีโอกาสหรือสนใจที่จะท่องเที่ยวไปยังดินแดนอื่น เพื่อหาความรู้ ประสบการณ์ หรือเพื่อความเพลิดเพลิน จึงเปรียบเสมือน "กบในกะลา" ที่คิดว่าโลกตนเอง สังคมตนเองนั้น "ยิ่งใหญ่-ดีที่สุด!" จึงค่อนข้าง "ดักดาน (Ignorant)" อยู่ใน "ความแคบ" ของโลกทัศน์ตนเอง และอาจเลวร้ายจนถึงขั้นคิดว่า สังคมอื่นด้อยกว่าสังคมตนเอง ซึ่งบางครั้ง และ/หรือ บ่อยครั้งที่ "ดูหมิ่น-ดูแคลน" สังคมอื่นว่า "ด้อย" กว่าโลกของตนเอง
ชาวต่างชาติที่ตกอยู่ในลักษณะนี้มีจำนวนมากที่มักสำคัญตนเองผิดและมองประเทศอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว" ด้วยกันว่า "ด้อยพัฒนา" กว่าจนเลยเถิดไปถึง "คุณค่า" ของความเป็นมนุษย์ที่ "ต่ำกว่า!" อีก
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มิใช่ว่า "ฝรั่ง" จะเป็นเช่นนี้หมด "แสงแดด" เคยศึกษาเล่าเรียน ท่องเที่ยวทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรป ได้มีโอกาสสัมผัส "ฝรั่ง" ที่ไม่เคยเดินทางไปไหนไกลเลย แม้กระทั่งในประเทศของตนเอง แต่ก็ยัง "ให้เกียรติ-ให้ความเสมอภาค" กับสังคมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย ชาวอเมริกาใต้ และชาวแอฟริกา เพราะฉะนั้นเราคงไม่สามารถกล่าวตำหนิคลุม "ฝรั่ง" ว่าเป็น "กบในกะลา" เสียทั้งหมดหรือ "โลกทัศน์แคบ!"
ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหมือนกันที่ "ฝรั่ง" จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยุโรปที่ได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นๆ เกือบทั่วโลก แต่ก็ยังพกพานิสัยตั้งแต่เกิด "ดูหมิ่น-ดูแคลน" จนถึงขั้น "ดูถูก" ประชาชนสีผิวอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว" เพราะฉะนั้น ฝรั่งที่มี "กมลสันดาน-นิสัย" และ "วิธีคิด-ภูมิปัญญา" เช่นนี้ต้องประณามว่า "ต่ำ-ดักดาน" ที่สุด เลวร้ายกว่าฝรั่งที่ไม่เคยออกไปไหนเลย เนื่องด้วยฝรั่งเช่นนี้เป็น "กบในกะลา" ที่ "ครอบ" ด้วย "กะละมัง" อีกชั้นหนึ่ง
ปัจจุบันบ้านเรามีชาวต่างชาติเพ่นพ่านอยู่มากทั่วทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ทำงาน หรือปักหลักตั้งรกรากทำมาหากินแต่งงานกับคนไทยจนพูดภาษาไทยปรื้อ และแน่นอนส่วนใหญ่ "รักเมืองไทย!" อย่างมาก
ในขณะเดียวกันชาวเอเชียทั้งหมดและชาวไทยนั้น ไม่เคย "ดูหมิ่น-ดูแคลน" ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ "ฝรั่ง" เลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน กลับ "ให้เกียรติ-ยกย่อง" และถึงขั้น "นับถือ" ฝรั่งเสียด้วยซ้ำว่ามี "ความรู้-ความสามารถ" และ/หรือ "เก่ง!" กว่าชาวเอเชียเสียอีก เนื่องด้วย "วิธีการคิด" ตลอดจน "ความทันสมัย" ที่ดูเหมือนว่า "สูง-มากกว่า" คนเอเชีย
เหตุผลสำคัญสำหรับกรณีข้างต้นนั้นก็เพราะว่า ความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของฝรั่งนั้น "ล้ำหน้า" ชาติอื่นๆ ไปอย่างมาก นอกเหนือจากนั้นความสวยงามมีระเบียบวินัยของชาติฝรั่งนั้นต้องยอมรับว่ามีมากกว่าชาติอื่นๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คือในช่วงหนึ่งศตวรรษกว่าๆ ที่ผ่านมา "การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)" เลยมาจนถึง "สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 (World War I + II)" ต่างมีบทบาทสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือถอยหลังไปจนถึง "ยุคล่าอาณานิคม (Imperialism)" และล่าสุดคือ "ยุคสังคมสารสนเทศ" ที่ทำให้โลกทั่วไปกลายเป็น "ตะวันตก" มากยิ่งขึ้น เพราะอิทธิพลของ "ข้อมูลข่าวสาร" ในเชิง Software นั้น ทะลักมาจากซีกโลกตะวันตกหมดโดยเฉพาะอเมริกา และท้ายสุดคือ "ภาษาอังกฤษ" เป็น "ภาษาโลก!"
ถึงแม้ว่าโลกทุกวันนี้เป็น "โลกาภิวัตน์" จะเล็กลงในเชิงการติดต่อสื่อสาร ก็เป็นกรณีที่ไม่น่าเชื่อว่า "ลัทธิสีผิว (Racism)" ยังระบาดอยู่ในหมู่ฝรั่งมังค่าบ้างพอสมควร โดยฝรั่งบางครั้งยัง "ดูหมิ่น-ดูแคลน" เลยไปจนถึง "แบ่งแยก" เผ่าพันธุ์และสีผิวของชาติอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว"
"แสงแดด" มีกรณีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ถูกถ่ายทอดมาจากพนักงานคนไทยทำงานอยู่ที่ห้องยิมฯ โรงแรมระดับ 5-6 ดาวชื่อ "คอนราด (Conrad)" ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
มีทั้งแขกที่มาพักกับสมาชิกชาวต่างชาติและคนไทยมาใช้บริการออกกำลังกาย ซึ่งแน่นอนต้องมีระดับฐานะที่มีเกียรติ กอปรกับหน้าที่การงาน การศึกษาสูง โดยเท่าที่ "แสงแดด" เคยสัมผัสผู้มาใช้บริการก็จะสงบเสงี่ยม เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างออกกำลังกายกันไปไม่ค่อยส่งเสียงดัง แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ทั้งสมาชิก แขกด้วยกันเองต่างสนทนากันตลอดจนพนักงานก็อาจแนะนำสมาชิกและแขกที่มาพักเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือออกกำลังกาย
ฝรั่งนายหนึ่งได้ยินมาว่ามี "ฐานันดร" อะไรซักอย่างจาก ประเทศอังกฤษ ปักหลักทำมาหากินดำเนินธุรกิจอยู่บ้านเมืองเรามานานหลายปี จนถึงขั้นสนทนาภาษาไทยได้พอคล่องปาก แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า "ปากคอระราน-ดูถูกเหยียดหยาม" คนไทยหลายประโยค อาทิ "คนไทยชอบเอาแต่คุย งานการไม่ทำ-คนไทยชอบจ้อกแจ้กอย่างกะนกกระจอก" และที่เลวร้ายคือ "พนักงานคนไทยเข้ามาทำอะไรในห้องน้ำ....ออกไป!" พูดเสียงดัง ไล่ตะเพิดพนักงานพร้อมให้ "นิ้วกลาง!" อีกต่างหาก เรียกว่า "หยาบคาย" จนถึงขั้น "ถ่อย!" เลยทีเดียว จนเกือบมีการวางมวยกับผู้จัดการคนไทยที่ทน "ความกักขฬะ" ของนาย "ฝรั่งสถุล" ชื่อหม่อมแหม่ม Antony Swooth อะไรทำนองนี้ไม่ได้
สืบสาวราวเรื่องทราบเพิ่มเติมว่า "ฝรั่งสถุน-ถ่อย" นายนี้มีพฤติกรรมเช่นนี้ตลอด พูดจาดูถูกเหยียดหยามใครก็ตามที่เป็นคนไทย และออกอาการนักเลงโตทุกครั้งที่มาใช้บริการประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
แต่แขกสมาชิกชาวต่างชาติอื่นๆ ไม่เคยแสดงอาการ "ถ่อย" และ "ก้าวร้าว" เช่นนี้ สุภาพเรียบร้อยมีความเป็นผู้ดีอย่างมากไม่มีกมลสันดาน "เหยียดผิว (Racist)" เหมือน ไอ้ฝรั่งกระจอกแต่เบ่งองค์ใหญ่โตเหมือนนายคนนี้
อย่างไรก็ตาม "ฝรั่งผู้ดี" และที่สำคัญ "รักเมืองไทย" ยังมีจำนวนมาก เพียงแต่นานๆ ครั้งจะมีฝรั่งเช่นนี้ที่มิใช่ "อารยธรรมต่ำ (Low Civilization)" แต่เพียงอย่างเดียวแต่ "วัฒนธรรมต่ำ (Low Culture)" อีกต่างหาก
มิน่าจึงมี "ภูมิปัญญาต่ำ (Low Mentality)" เหมือน "กบในกะลาครอบด้วยกะละมัง" พฤติกรรมต่ำ เช่นนี้
กลับบ้านเอ๊งไปเถอะ....คนถ่อยอย่างนี้ ประเทศไทยไม่อยากต้อนรับ! และโรงแรม Conrad ก็ไม่ควรต้อนรับ!
เหตุผลสำคัญที่คนไทย "ชื่นชม-นิยม-ชมชอบ" ชาวคอร์เคเชียนนั้น เพราะอารยธรรม (Civilization) ของฝรั่งในความรู้สึกคนไทยนั้น อาจจะคิดว่ายาวนานและไม่สำคัญเท่ากับ "สูง" กว่าคนไทย
"แสงแดด" ยอมรับความจริงว่า "ฝรั่งตาน้ำข้าว" นั้นมี "วัฒนธรรม (Culture)" สูง แต่มิใช่มีอารยธรรมสูงกว่าชาติอื่นๆ ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ชาวเอเชียไม่ว่าชาวจีน ชาวอินเดีย จนเลยไปถึงชาวอินคา (INCA) ที่ตั้งรกรากอยู่ทวีปอเมริกากลางยันอเมริกาใต้นั้น ต่างมีอารยธรรม "สูง-เก่า" กว่า "ฝรั่งตาน้ำข้าว" เสียอีก
ชาวอินเดียและชาวจีนจริงๆ แล้วฝรั่งซะเองเรียกว่า "โอเรียนทัล (Oriental)" ที่แปลว่า "ปฐมภูมิ" ซึ่งมีความว่า "ดั้งเดิม" หรือ "ออริจินัล (Original)" หรือมนุษย์พันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งทางการศึกษาเชิง "มานุษยวิทยา" หรือ "Anthropology" จะสามารถศึกษาทางทฤษฎีวิทยาศาสตร์ที่มีการศึกษาแล้วว่า มนุษย์เผ่าพันธุ์ดั้งเดิมนั้นมาจากอารยธรรมตะวันออก (Eastern Civilization) เพราะฉะนั้นขอย้ำอีกครั้งว่า "คนเอเชีย-เอเซียน (Asian)" นั้นเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ดั้งเดิมหรือ Oriental จริงๆ
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง ก็ชัดเจนว่าอารยธรรมตะวันออกนั้น "เก่าแก่-ลึกซึ้ง" ยาวนานมากกว่า "อารยธรรมตะวันตก (Western Civilization)" โดย "ฝรั่ง" ที่มี "ภูมิปัญญา-ความรู้" สูงหรือ "High Mentality-High Knowledge" จะรู้ลึกซึ้งดี และสนอกสนใจ พร้อมให้ "เกียรติ (Honor)" กับ "ความจริง (Fact)" ของประวัติศาสตร์อารยธรรมนี้ แต่ก็เป็นกรณีที่น่าเสียใจและเสียดายอย่างมาก ที่มีปริมาณฝรั่งจำนวนน้อยมากที่มี "ภูมิ-ฐานความรู้" เกี่ยวกับ "อารยธรรม (Civilization)" ของตะวันออก
ดังนั้นฝรั่งจำนวนมากที่ไม่เคยออกนอกประเทศตนเอง และ/หรือ ไม่เคยได้มีโอกาสหรือสนใจที่จะท่องเที่ยวไปยังดินแดนอื่น เพื่อหาความรู้ ประสบการณ์ หรือเพื่อความเพลิดเพลิน จึงเปรียบเสมือน "กบในกะลา" ที่คิดว่าโลกตนเอง สังคมตนเองนั้น "ยิ่งใหญ่-ดีที่สุด!" จึงค่อนข้าง "ดักดาน (Ignorant)" อยู่ใน "ความแคบ" ของโลกทัศน์ตนเอง และอาจเลวร้ายจนถึงขั้นคิดว่า สังคมอื่นด้อยกว่าสังคมตนเอง ซึ่งบางครั้ง และ/หรือ บ่อยครั้งที่ "ดูหมิ่น-ดูแคลน" สังคมอื่นว่า "ด้อย" กว่าโลกของตนเอง
ชาวต่างชาติที่ตกอยู่ในลักษณะนี้มีจำนวนมากที่มักสำคัญตนเองผิดและมองประเทศอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว" ด้วยกันว่า "ด้อยพัฒนา" กว่าจนเลยเถิดไปถึง "คุณค่า" ของความเป็นมนุษย์ที่ "ต่ำกว่า!" อีก
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มิใช่ว่า "ฝรั่ง" จะเป็นเช่นนี้หมด "แสงแดด" เคยศึกษาเล่าเรียน ท่องเที่ยวทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรป ได้มีโอกาสสัมผัส "ฝรั่ง" ที่ไม่เคยเดินทางไปไหนไกลเลย แม้กระทั่งในประเทศของตนเอง แต่ก็ยัง "ให้เกียรติ-ให้ความเสมอภาค" กับสังคมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวเอเชีย ชาวอเมริกาใต้ และชาวแอฟริกา เพราะฉะนั้นเราคงไม่สามารถกล่าวตำหนิคลุม "ฝรั่ง" ว่าเป็น "กบในกะลา" เสียทั้งหมดหรือ "โลกทัศน์แคบ!"
ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหมือนกันที่ "ฝรั่ง" จะเป็นชาวอเมริกันหรือชาวยุโรปที่ได้มีโอกาสท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นๆ เกือบทั่วโลก แต่ก็ยังพกพานิสัยตั้งแต่เกิด "ดูหมิ่น-ดูแคลน" จนถึงขั้น "ดูถูก" ประชาชนสีผิวอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว" เพราะฉะนั้น ฝรั่งที่มี "กมลสันดาน-นิสัย" และ "วิธีคิด-ภูมิปัญญา" เช่นนี้ต้องประณามว่า "ต่ำ-ดักดาน" ที่สุด เลวร้ายกว่าฝรั่งที่ไม่เคยออกไปไหนเลย เนื่องด้วยฝรั่งเช่นนี้เป็น "กบในกะลา" ที่ "ครอบ" ด้วย "กะละมัง" อีกชั้นหนึ่ง
ปัจจุบันบ้านเรามีชาวต่างชาติเพ่นพ่านอยู่มากทั่วทั้งประเทศไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ทำงาน หรือปักหลักตั้งรกรากทำมาหากินแต่งงานกับคนไทยจนพูดภาษาไทยปรื้อ และแน่นอนส่วนใหญ่ "รักเมืองไทย!" อย่างมาก
ในขณะเดียวกันชาวเอเชียทั้งหมดและชาวไทยนั้น ไม่เคย "ดูหมิ่น-ดูแคลน" ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ "ฝรั่ง" เลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน กลับ "ให้เกียรติ-ยกย่อง" และถึงขั้น "นับถือ" ฝรั่งเสียด้วยซ้ำว่ามี "ความรู้-ความสามารถ" และ/หรือ "เก่ง!" กว่าชาวเอเชียเสียอีก เนื่องด้วย "วิธีการคิด" ตลอดจน "ความทันสมัย" ที่ดูเหมือนว่า "สูง-มากกว่า" คนเอเชีย
เหตุผลสำคัญสำหรับกรณีข้างต้นนั้นก็เพราะว่า ความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของฝรั่งนั้น "ล้ำหน้า" ชาติอื่นๆ ไปอย่างมาก นอกเหนือจากนั้นความสวยงามมีระเบียบวินัยของชาติฝรั่งนั้นต้องยอมรับว่ามีมากกว่าชาติอื่นๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คือในช่วงหนึ่งศตวรรษกว่าๆ ที่ผ่านมา "การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)" เลยมาจนถึง "สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 (World War I + II)" ต่างมีบทบาทสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกหรือถอยหลังไปจนถึง "ยุคล่าอาณานิคม (Imperialism)" และล่าสุดคือ "ยุคสังคมสารสนเทศ" ที่ทำให้โลกทั่วไปกลายเป็น "ตะวันตก" มากยิ่งขึ้น เพราะอิทธิพลของ "ข้อมูลข่าวสาร" ในเชิง Software นั้น ทะลักมาจากซีกโลกตะวันตกหมดโดยเฉพาะอเมริกา และท้ายสุดคือ "ภาษาอังกฤษ" เป็น "ภาษาโลก!"
ถึงแม้ว่าโลกทุกวันนี้เป็น "โลกาภิวัตน์" จะเล็กลงในเชิงการติดต่อสื่อสาร ก็เป็นกรณีที่ไม่น่าเชื่อว่า "ลัทธิสีผิว (Racism)" ยังระบาดอยู่ในหมู่ฝรั่งมังค่าบ้างพอสมควร โดยฝรั่งบางครั้งยัง "ดูหมิ่น-ดูแคลน" เลยไปจนถึง "แบ่งแยก" เผ่าพันธุ์และสีผิวของชาติอื่นที่มิใช่ "ผิวขาว"
"แสงแดด" มีกรณีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นที่ถูกถ่ายทอดมาจากพนักงานคนไทยทำงานอยู่ที่ห้องยิมฯ โรงแรมระดับ 5-6 ดาวชื่อ "คอนราด (Conrad)" ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
มีทั้งแขกที่มาพักกับสมาชิกชาวต่างชาติและคนไทยมาใช้บริการออกกำลังกาย ซึ่งแน่นอนต้องมีระดับฐานะที่มีเกียรติ กอปรกับหน้าที่การงาน การศึกษาสูง โดยเท่าที่ "แสงแดด" เคยสัมผัสผู้มาใช้บริการก็จะสงบเสงี่ยม เรียบร้อย ต่างฝ่ายต่างออกกำลังกายกันไปไม่ค่อยส่งเสียงดัง แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ทั้งสมาชิก แขกด้วยกันเองต่างสนทนากันตลอดจนพนักงานก็อาจแนะนำสมาชิกและแขกที่มาพักเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือออกกำลังกาย
ฝรั่งนายหนึ่งได้ยินมาว่ามี "ฐานันดร" อะไรซักอย่างจาก ประเทศอังกฤษ ปักหลักทำมาหากินดำเนินธุรกิจอยู่บ้านเมืองเรามานานหลายปี จนถึงขั้นสนทนาภาษาไทยได้พอคล่องปาก แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า "ปากคอระราน-ดูถูกเหยียดหยาม" คนไทยหลายประโยค อาทิ "คนไทยชอบเอาแต่คุย งานการไม่ทำ-คนไทยชอบจ้อกแจ้กอย่างกะนกกระจอก" และที่เลวร้ายคือ "พนักงานคนไทยเข้ามาทำอะไรในห้องน้ำ....ออกไป!" พูดเสียงดัง ไล่ตะเพิดพนักงานพร้อมให้ "นิ้วกลาง!" อีกต่างหาก เรียกว่า "หยาบคาย" จนถึงขั้น "ถ่อย!" เลยทีเดียว จนเกือบมีการวางมวยกับผู้จัดการคนไทยที่ทน "ความกักขฬะ" ของนาย "ฝรั่งสถุล" ชื่อหม่อมแหม่ม Antony Swooth อะไรทำนองนี้ไม่ได้
สืบสาวราวเรื่องทราบเพิ่มเติมว่า "ฝรั่งสถุน-ถ่อย" นายนี้มีพฤติกรรมเช่นนี้ตลอด พูดจาดูถูกเหยียดหยามใครก็ตามที่เป็นคนไทย และออกอาการนักเลงโตทุกครั้งที่มาใช้บริการประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
แต่แขกสมาชิกชาวต่างชาติอื่นๆ ไม่เคยแสดงอาการ "ถ่อย" และ "ก้าวร้าว" เช่นนี้ สุภาพเรียบร้อยมีความเป็นผู้ดีอย่างมากไม่มีกมลสันดาน "เหยียดผิว (Racist)" เหมือน ไอ้ฝรั่งกระจอกแต่เบ่งองค์ใหญ่โตเหมือนนายคนนี้
อย่างไรก็ตาม "ฝรั่งผู้ดี" และที่สำคัญ "รักเมืองไทย" ยังมีจำนวนมาก เพียงแต่นานๆ ครั้งจะมีฝรั่งเช่นนี้ที่มิใช่ "อารยธรรมต่ำ (Low Civilization)" แต่เพียงอย่างเดียวแต่ "วัฒนธรรมต่ำ (Low Culture)" อีกต่างหาก
มิน่าจึงมี "ภูมิปัญญาต่ำ (Low Mentality)" เหมือน "กบในกะลาครอบด้วยกะละมัง" พฤติกรรมต่ำ เช่นนี้
กลับบ้านเอ๊งไปเถอะ....คนถ่อยอย่างนี้ ประเทศไทยไม่อยากต้อนรับ! และโรงแรม Conrad ก็ไม่ควรต้อนรับ!