xs
xsm
sm
md
lg

OECDทำนายศก.ปีนี้ขยายตัวเฉื่อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี – โออีซีดีเตือน การขยายตัวทางเศรษฐกิจของบรรดาประเทศอุตสาหกรรมหลักในปีนี้จะเฉื่อยชาลง เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนที่อ่อนตัวและความไม่สมดุลของเศรษฐกิจโลกที่อาจก่อให้เกิด “ความวุ่นวายอันร้ายแรง”

องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) ระบุในผลสำรวจล่าสุดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสมาชิกในกลุ่ม 30 ประเทศจะลดลงเหลือ 2.6% ในปี 2005 และทะยานขึ้นเป็น 2.8% ในปีหน้า หลังจากเติบโตราว 3.4% ในปี 2004

ทั้งนี้ฌอง-ฟิลิปเป โคทิส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโออีซีดีเขียนไว้ในบทบรรณาธิการที่แนบกับรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกซึ่งจัดทำปีละสองครั้งว่า “ภาพการฟื้นตัวที่คาดกันว่าจะเกิดขึ้นในกลุ่มโออีซีดียังไม่เป็นรูปธรรม”

“สิ่งที่ขาดหายไปคือ การเติบโตอย่างยั่งยืนในยูโรโซน (ประเทศที่ใช้เงินยูโร) ส่งผลให้แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในกลุ่มโออีซีดีและเศรษฐกิจโลกดูเหมือนจะแตกต่างกันมาก”

ผลการศึกษาระบุอีกว่า อันตรายสำคัญคือ แนวโน้มการเติบโตที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างยุโรปและเอเชีย ประกอบกับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลบงประมาณจำนวนมหาศาลของสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้ดอลลาร์ดิ่งค่าลงอย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำลายการฟื้นตัวของยูโรโซนและญี่ปุ่น เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแรงในสหรัฐฯ ซึ่งจะกลายเป็นตัวฉุดรั้งผลิตผลทางเศรษฐกิจโลกอีกทอดหนึ่ง

ทั้งนี้โออีซีดีระบุว่า “แม้ว่าความไม่สมดุลอาจคลี่คลายไปโดยราบรื่น ทว่าความวุ่นวายอันร้ายแรงอาจเกิดขึ้นได้”

รายงานคาดการณ์ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของโออีซีดีในปีนี้จะเข้มแข็งปานกลาง โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตในส่วนอื่นของโลกและราคาน้ำมันที่ไม่ปรับตัวเพิ่มไปมากกว่านี้

สำหรับยูโรโซนซึ่งเป็นที่คาดกันว่าจะขยายตัวลดลงเหลือ 1.2% ในปีนี้จาก 1.8% ในปี 2004 โออีซีดีมองว่า “นโยบายการเงินที่ผ่อนปรน” กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อาจเป็นเรื่องสมเหตุสมผล อนึ่ง อัตราดอกเบี้ยของยูโรโซนอยู่ที่ 2.0% นับตั้งแต่กลางปี 2003 ซึ่งเป็นช่วงที่ภาวะเงินเฟ้ออยู่ในระดับอ่อนๆ

โคทิสกล่าวว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหลังฟื้นตัวเมื่อต้นปีนี้ กลับเฉื่อยชาลงอีกครั้ง และไม่มีแนวโน้มขาขึ้นที่แน่นอนก่อนถึงปลายปีนี้ พร้อมระบุว่า ปัจจัยของการชะลอตัวดังกล่าวมาจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและเงินยูโรที่แข็งค่า ซึ่งเป็นตัวฉุดรั้งการส่งออก

เขาแจงว่า ความท้าทายสำคัญสำหรับผู้วางนโยบายของยูโรโซนคือ การกระตุ้นดีมานด์ภายในประเทศและความร่วมมือกันบูรณาการนโยบายเศรษฐกิจของกลุ่มอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยสร้างความเติบโตและการจ้างงาน

ด้านสหรัฐฯนั้น การเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงรักษาระดับในครึ่งหลังของปีนี้ โดยจีดีพีปีนี้จะอยู่ที่ 3.6% หลังจากขยายตัวที่ 4.4% ในปี 2004

ทว่า เศรษฐกิจแดนอินทรียังถูกคุกคามจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 6.4% ของจีดีพีในปีนี้ และ 6.7% ในปี 2006 เพิ่มหลังจาก 5.7% ในปี 2004

อย่างไรก็ตาม รายงานสะท้อนถึงเศรษฐกิจเอเชียในเชิงบวก ซึ่งโคทิสกล่าวว่า “แนวโน้มการเติบโตยังคงสดใส” ทั้งนี้ญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.5% ในปีนี้ และ 1.7% ในปีหน้า หลังจากเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจอ่อนตัวเมื่อกลางปี 2004

โออีซีดีระบุอีกว่า ปัจจัยสำคัญของการฟื้นตัวของแดนปลาดิบคือ ผลกำไรอันแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ การฟื้นตัวของตลาดแรงงาน และการขยายตัวอย่างคึกคักของการลงทุน

สำหรับแดนมังกร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกของโออีซีดีนั้น มีแนวโน้มว่าในปีนี้จะ “ชะลอตัวเล็กน้อย” จาก 9.5% ในปีที่แล้ว อยู่ที่ 9.0% เนื่องจากการบริโภคภายในประเทศอันอ่อนตัว แต่จะเพิ่มขึ้นเป็น 9.2% ในปี 2006
กำลังโหลดความคิดเห็น