เชียงราย - "เงินด่วน" ยังแพร่ระบาดในพื้นที่ภาคเหนือไม่หยุด กลุ่มนายทุนยอมรับขยายเครือข่ายข้ามจังหวัด จับคนร้อนเงินทุกประเภท / ผู้ถือบัตรเครดิตแบงก์พาณิชย์-นอนแบงก์รูดสินค้าขาย หักเปอร์เซ็นต์หน้าโต๊ะกินส่วนต่างทันที 30%เป็นอย่างต่ำ แถมเล่นบททวงหนี้โหดไม่เว้นข้าราชการ
ไม่เพียงแต่หัวเมืองใหญ่ของภาคเหนืออย่างเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ที่ธุรกิจเงินกู้นอกระบบ ผ่านการให้สินเชื่อรูปแบบต่าง ๆ ทั้งบริษัทลีสซิ่ง / นายทุนเงินกู้รายใหญ่ รายย่อย ฯลฯ จะขยายตัวอย่างไม่หยุดเท่านั้น ล่าสุดกลุ่มนายทุนเงินกู้ ที่ทำมาหากินกับคนร้อนเงินในเชียงใหม่กันมานาน เริ่มขยายเครือข่ายออกไปยังจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยที่ตัวเมืองเชียงราย เป็นอีกท้องที่หนึ่ง ที่ปัจจุบันคนที่เดินเข้าไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ - ตู้โทรศัพท์สาธารณะ รวมไปถึงขอบประตูรถยนต์ที่จอดไว้ในที่จอดรถต่าง ๆ มักจะพบแผ่นเอกสารเล็ก ๆ ขนาด 2 คูณ 3 นิ้วโดยประมาณ ระบุข้อความชักชวนให้ประชาชนที่ร้อนเงินเข้ามากู้เงินด่วน
เช่น "กู้เงินด่วน รับเงินสด ง่ายๆ ผ่อนสบายๆ ที่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส เพียงแต่คุณมีบัตรเครดิต,บัตรผ่อนสินค้า,ผู้มีรายได้ประจำ มีบัตรซื้อสินค้าของ อิออน,อีซี่บาย,เฟิร์สช้อยส์ ฯลฯ ไม่ต้องมีผู้ค้ำ "ซึ่งทำให้ประชาชนหลายคนสนใจ
ผู้สื่อข่าวได้ทดลองโทรศัพท์ไปที่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ที่เขียนในใบโฆษณา ได้รับการชี้แจงจากนายทุนเงินกู้หลายราย ว่า หากต้องการเงินสด เพียงแต่ผู้ที่มีบัตรเครดิต ของธนาคารพาณิชย์,บัตรเครดิตของบริษัทการเงิน หรือ บัตรเครดิตของห้างสรรพสินค้า ไปซื้อสินค้าเงินผ่อนผ่านบัตรเครดิต เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ออกมา แล้วนำมาขายให้ฉฏ๋บริษัทเงินด่วนดังกล่าว จะได้เงินสดไปใช้ แต่ต้องยอมขาดทุน และผู้ซื้อจะต้องไปผ่อนชำระค่าสินค้ากับบัตรที่ซื้อสินค้ามาเอง
เช่น ต้องการเงินสด 10,000 บาท ต้องไปซื้อโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มูลค่าราว 14,000 บาท นำมาขายให้แหล่งเงินกู้ในราคา 10,000 บาท (เจ้าของเครื่องขาดทุนทันที 4,000 บาท หรือประมาณ 30%) และผู้ซื้อต้องเป็นหนี้ กับบริษัทบัตรเครดิต ที่ต้องผ่อนชำระค่าสินค้าจนหมด พร้อมดอกเบี้ยอีกต่างหาก
หลายรายบอกว่า ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ในหลายจังหวัด ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดใกล้เคียงอื่น ๆ เนื่องจากมีทีมงานครอบคลุมอยู่ทุกพื้นที่ เฉพาะในเชียงราย หากต้องการเงินสดก็สามารถนัดหมายมาพบกันได้ทันที
ส่วนในพื้นที่เชียงใหม่ จากการสำรวจของ "ผู้จัดการรายวัน" เกี่ยวกับโฆษณาย่อยที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทั้งที่เป็นหนังสือแจกฟรี - หนังสือพิมพ์ที่วางแผงในท้องตลาดตามปกติ เช่น .หนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์ , สื่อ ดี ดี,สื่อมีเดีย, สื่อเฉียบ ,สื่อกลาง และอื่นๆ. พบว่า จนถึงทุกวันนี้ยังมีโฆษณาแหล่งเงินกู้ส่วนบุคคลตีพิมพ์กระจัดกระจายอยู่ตามหนังสือต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่าตามตู้โทรศัพท์สาธารณะตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ / เสาไฟฟ้าทั้ง 2 ข้างถนนแทบทุกสาย ก็มีใบปลิวโฆษณาแผ่นเล็ก รวมทั้งสื่อแจกฟรีของกลุ่มนายทุนเงินกู้ติดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์อยู่แทบทุกจุดมากกว่า 20 ราย
บริการเงินกู้นอกระบบดังกล่าวเหล่านี้ ใช้วิธีการโฆษณาผ่านสื่อดังกล่าวโดยมีข้อความในใบปลิวว่า "บริการเงินด่วน เพียงท่านมีบัตร เฟิร์สช้อยส์,เพาเวอร์บาย, อิออน,โลตัส, บิ๊กซี,เซนทรัลหรือวีซ่ามาสเตอร์การ์ดเต็มทุกธนาคาร หรือเอกสารสลิปเงินเดือน 4,000 บาทขึ้นไป,สำเนาทะเบียนบ้าน,บัตรประชาชน ,สมุดธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน อนุมัติวงเงิน 10,000-100,000 ขึ้นไป ดอกเบี้ย .....%" แจ้งเบอร์โทรให้ติดต่อกลับ ในบางรายจะมีชื่อของนายหน้า แต่ไม่มีสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง
กรณีที่ไม่มีบัตรทางบริการเงินด่วนจะพาไปสมัครเป็นผู้ถือบัตร จากนั้นให้ซื้อสินค้ากับทางร้านที่ทำบัตรด้วยโดยรายละเอียดในสัญญาจะระบุเป็นการซื้อสินค้าเงินผ่อนกับร้านดังกล่าวขั้นตอนในการขออนุมัติทางร้านจะโทรศัพท์ติดต่อไปยังนอนแบงก์ให้ก่อน โดยผู้กู้ไม่ต้องแสดงตน
แหล่งเงินกู้นอกระบบ กล่าวว่า มีลูกค้ามาซื้อสินค้าเงินผ่อน แหล่งเงินกู้จะตรวจสอบ ข้อมูลภายในหากได้รับอนุมัติ ก็จะบอกรหัสอนุมัติให้แก่ร้านค้าไว้ระบุในสัญญา เมื่อเสร็จกระบวนการด้านเอกสารสัญญาแล้ว
ทั้งนี้ในการซื้อสินค้าเงินผ่อนดังกล่าว ลูกค้าจะไม่ได้ตัวสินค้าไป แต่จะได้เงินสดในสัดส่วนประมาณ 70-80%ของราคาสินค้าตามที่ระบุในป้าย ที่เหลืออีก 20-30% จะตกเป็นของนายหน้า นั่นหมายถึงลูกค้าต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น 3 ต่อ คือ 1. ดอกเบี้ยบัตรเครดิตหรือบัตรสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับ 1%ต่อเดือน
2. ส่วนต่างจากการเปลี่ยนสินค้าเป็นเงินสด ที่ลูกค้าจะได้เงินสดน้อยกว่ามูลค่าสินค้าตามป้ายราคา 20-30%เป็นอย่างต่ำ
3. ดอกเบี้ยที่ลูกค้าต้องจ่ายให้กับนายหน้าเงินกู้ ที่มีตั้งแต่ 1% 2% 5% ไปจนถึง 10-20% เป็นต้น
ทั้งนี้ หากนายหน้าเงินกู้เหล่านี้ ร่วมมือกับร้านค้าที่นำสินค้ามาวางจำหน่ายในระบบเงินผ่อน ก็จะได้รับผลประโยชน์ในต่อที่ 4 นั่นคือ การนำสินค้านั้น ๆ กลับไปจำหน่ายหน้าร้านในราคาเต็มตามที่ระบุในป้ายราคาสินค้า เพราะยังเป็นสินค้าใหม่ 100%
พ.ต.อ.ประเสริฐ จันทราพิพัฒน์ รอง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย กล่าวว่า การให้ประชาชนขายสินค้าที่ซื้อมาจากบัตรเครดิตแบบนี้น่าจะเป็นการทำธุรกรรมการเงินนอกระบบ ซึ่งต้องขอศึกษาดูก่อน ว่าจะเข้าข่ายไหน แต่เชื่อว่าหากมีการใช้บริการลักษณะนี้มาก น่าจะทำให้หนี้สินของประชาชนมากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความแต่อย่างใด และ ในแง่กฎหมาย หากผู้เช่าซื้อสินค้านำสินค้าไปขายให้กับคนอื่น ทั้งที่เช่าซื้ออยู่ น่าจะเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ได้
นางนฤมล วสิกชาติ คลังจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กรณีที่มีผู้โฆษณาเงินด่วน โดยให้แลกซื้อสินค้ามาขายเอาเงินสดต่ำกว่าราคาสินค้า ประชาชนควรระมัดระวังการใช้เงินลักษณะนี้ ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นหนี้สินมากเกินตัว เพราะเสียเปรียบมาก ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPLได้ง่าย ในสถาบันการเงินนั้นๆ
นอกจากนี้ทราบว่าปัจจุบัน ฝ่ายเร่งรัดหนี้สินของบริษัทที่ปล่อยกู้ ต่างๆที่ผุดขึ้นมากมาย มีการทวงหนี้แบบเด็ดขาด และมักจะโทรศัพท์มาประจานลูกหนี้อย่างเสียหาย เมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งข้าราชการบางคน ในเชียงรายเคยประสบมาแล้ว