xs
xsm
sm
md
lg

บอสใหม่อีเลคโทรลักซ์ร้อนวิชา พึ่งเอฟทีเอดันแชร์สู่ท็อปทรีใน3ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายใหม่อีเลคโทรลักซ์ร้อนวิชา ตั้งเป้าเข็นผลิตภัณฑ์คุกกิ้ง และตู้เย็นติดท็อปทรีให้ได้ใน 3 ปี สบช่องใช้เอฟทีเอเป็นตัวชูโรง ภาษีลดลงเหลือศูนย์ อัดงบตลาด 100 ล้านบาทเพิ่มขึ้น50 % ลั่นปีนี้ต้องโต 25%

นายเอียน เบนส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยถีงนโยบายการทำธุรกิจในไทยเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ามารับตำแหน่งในไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วว่า จากข้อตกลงเรื่องเอฟทีเอระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลียที่เริ่มมีผลใช้เมื่อต้นปีนี้จะส่งผลดีต่อการทำธุรกิจของบริษัทฯอย่างมาก ทั้งในด้านการส่งออกและตลาดในประเทศ โดยเฉพาะการนำวัตถุดิบรวมทั้งสินค้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย เพราะอัตราภาษีได้ลดลงจากเดิม 30% เหลือ 0% ทำให้บริษัทฯสามารถนำสินค้ารุ่นใหม่ๆเข้ามาทำตลาดได้ง่ายขึ้นเพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วจะนำเข้ามาจากออสเตรเลียเป็นหลัก

ดังนั้นเป้าหมายใหญ่ในช่วง 2-3 ปีนี้ จะพยายามผลักดันสินค้าของบริษัทฯโดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการปรุงอาหาร ซึ่งขณะนี้ติดอันดับท็อปไฟว์ ส่วนตู้เย็นติดอันดับท็อปเท็น ให้ก้าวขึ้นสู่ท็อปทรีให้ได้ โดยอาศัยผลดีจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้ดียิ่งขึ้นซึงอาจะต้องใช้เวลาประมาณ 18 เดือน รวมทั้งแผนการตลาดที่วางไว้ด้วย ขณะที่ผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่นและเครื่องซักผ้าฝาหน้านั้น อีเลคโทรลักซ์เป็นผู้นำตลาดในไทยแล้ว ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% จากเดิมปีที่แล้วรายได้คงที่ไม่ได้เพิ่มมากนัก เพราะมีปัจจัยลบหลายอย่างในภาพรวม แต่ไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโตแล้ว 25% สูงกว่าตลาดรวมที่โต 5%

“แต่ก็ยอมรับว่าตลาดในกลุ่มคุกกิ้งในไทยนั้นมีคู่แข่งจำนวนมาก และแต่ละรายก็มีความแข็งแกร่งมากเหมือนกันโดยเฉพาะสินค้าในท้องถิ่น ซึ่งเราก็ต้องพยายามทำการตลาดเต็มที่เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ไห้ได้” นายเอียนกล่าว

ปัจจุบันโรงงานของบริษัทฯอยู่ที่ระยองเริ่มต้นการผลิตเมื่อปีที่แล้วหลังจากลงทุนไปประมาณ 450 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะเต็มกำลังการผลิต ซึ่งผลิตเพียงเครื่องซักผ้าอย่างเดียวเท่านั้น จำนวน 2 แสนเครื่องต่อปี ป้อนทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก และปีนี้เตรียมขยายไลน์การผลิตเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารหรือคุกกิ้งด้วย ซึ่งประเทศไทยเป็นตลาดหลักในกลุ่มอาเซียนของอีเลคโทรลักซ์ ส่วนมาเลเซียเป็นตลาดที่แบรนด์ของอีเลคโทรลักซ์มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในย่านนี้

โดยปีนี้จะใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่แล้ว 50% และการออกสินค้ารุ่นใหม่ๆกว่า 70 รายการใน 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่ง 2 ใน 3 นั้นจะเน้นไปยังสินค้ากลุ่มตู้เย็นและการปรุงอาหารหรือคุกกิ้ง ขณะที่อีก 1 ใน 3 นั้นก็จะเป็นสินค้ากลุ่มอื่นๆลดหลั่นกันไป โดยกลุ่มสินค้าทั้งหมดประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับถนอมเสื้อผ้า เกี่ยวกับถนอมอาหาร เกี่ยวกับการปรุงอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เกี่ยวกับการล้างจาน ดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัยภายในบ้าน ชุดครัว อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆในตลาดเมืองไทย

ช่องทางการจำหน่ายของบริษัทฯจะผ่าน 3 ช่องทางหลักคือ 1.อีเลคโทรลักซ์โฮมเซ็นเตอร์ 10 แห่ง รอบกรุงเทพฯ 2.การค้าปลีกผ่านตัวแทนจำหน่าย 2 กลุ่มคือ ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าห้างสรรพสินค้า ดิสเคานต์สโตร์ 3.โครงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ตลาดปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านเป็นตลาดสำคัญที่เติบโตมากโดยมีบ้านและคอนโดใหม่มากกว่า 100,00 ยูนิตที่ต้องการผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และยังมีจำนวนบ้านประมาณ 3.6 ล้านหลังที่ต้องการซ่อมแซมจะเป็นตลาดใหญ่ของบริษัทฯ และการเพิ่มขึ้นของยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเช่น เครื่องชงกาแฟ เตาบาร์บีคิว เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น โดยบริษัทฯใช้โลจิสติกส์แบบเอาท์ซอร์สเหมือนกันทั่วโลก

ทั้งนี้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนในไทยเป็นตลาดที่กำลังเจริญเติบโต มีมูลค่ารวมทั้งตลาดประมาณ 30,000 ล้านบาท คาดว่าปี 48 จะโตมากกว่าปีที่แล้ว 5% ส่วนตลาดผลิตภัณฑ์ปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีการเติบโตในปี 48 มากกว่าปีที่แล้วประมาณ 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น