เอเอฟพี – วานนี้ (19) แบงก์ชาติเกาหลีใต้ออกมาปฏิเสธรายงานในไฟแนนเชียล ไทมส์ที่ระบุว่า จะยุติการแทรกแซงตลาดเงิน พร้อมย้ำว่าจะดำเนินการต่อไปเพื่อควบคุมความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
รายงานของไฟแนนเชียล ไทมส์ระบุว่า ปาร์ก เซือง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางแบงก์ชาติซึ่งแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จะยุติการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ปาร์กกล่าวย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่มีแผนการเพิ่มทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยน โดยระบุว่า “ตอนนี้มีทุนสำรองเพียงพอในการรักษาความน่าเชื่อถือของประเทศ ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าจะต้องเพิ่มปริมาณทุนสำรองขึ้นอีก” พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้พวกเราต้องพิจารณาเรื่องความสามารถในการทำกำไร และพวกเราก็อยู่ในขั้นที่สามารถใช้ทุนสำรองในทางที่เป็นประโยชน์มากกว่าได้”
อนึ่ง ทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยนแดนโสมขาวอยู่ที่ 206,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานอีกว่า แม้ปาร์กไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเงินวอน ทว่าคำกล่าวนี้ตีความได้ว่า เกาหลีใต้เริ่มไม่เต็มใจเข้าแทรกแซงค่าเงินแล้ว
รายงานดังกล่าวส่งผลให้เงินวอนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเช้าวานนี้ โดยอยู่ที่ 999.50 วอนต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติออกมาปฏิเสธในแถลงการณ์ว่า ปาร์ก “เข้าใจผิด” และ “ทางแบงก์จะดำเนินมาตรการสำคัญเมื่อใดก็ตามที่ตลาดเงินไม่มีเสถียรภาพ” พร้อมเสริมว่า “จะไม่นิ่งเฉยหากกองทุนเก็งกำไรเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากรายงานข่าวที่ไม่มีหลักฐาน”
ด้านบรรดาดีลเลอร์กล่าวว่า แบงก์ชาติยังคงแทรกแซงตลาดอย่างเห็นได้ชัด โดยเข้าซื้อดอลลาร์และขายวอน ผ่านทางธนาคารรัฐและธนาคารต่างชาติ เพื่อป้องกันการแข็งค่าของเงินวอน
ผลที่ตามมาคือ ดอลลาร์กลับดีดตัวขึ้นเกือบ 1,002 วอนในช่วงบ่าย และปิดที่ 1,005 วอน เมื่อเทียบกับ 1,005.20 วอนเมื่อวันพุธ (18)
นอกจากนี้เหล่าดีลเลอร์คาดการณ์ว่า มูลค่าการแทรกแซงตลาดเงินวานนี้สูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าวว่า “จำนวนเงินดังกล่าวเป็นราคาที่สูงเกินสำหรับการให้สัมภาษณ์ของแบงก์ชาติเกาหลีใต้”
อนึ่ง เฉพาะปีที่แล้ว เงินวอนแข็งค่าขึ้น 15% ถือเป็นเงินสกุลหนึ่งที่ปรับค่าขึ้นเร็วที่สุดในโลก และก่อให้เกิดความกังวลว่าจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศที่ขับเคลื่อนโดยการส่งออก
รายงานของไฟแนนเชียล ไทมส์ระบุว่า ปาร์ก เซือง ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางแบงก์ชาติซึ่งแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จะยุติการดำเนินการดังกล่าว
ทั้งนี้ปาร์กกล่าวย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่มีแผนการเพิ่มทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยน โดยระบุว่า “ตอนนี้มีทุนสำรองเพียงพอในการรักษาความน่าเชื่อถือของประเทศ ดังนั้นผมจึงไม่คิดว่าจะต้องเพิ่มปริมาณทุนสำรองขึ้นอีก” พร้อมเสริมว่า “ตอนนี้พวกเราต้องพิจารณาเรื่องความสามารถในการทำกำไร และพวกเราก็อยู่ในขั้นที่สามารถใช้ทุนสำรองในทางที่เป็นประโยชน์มากกว่าได้”
อนึ่ง ทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยนแดนโสมขาวอยู่ที่ 206,000 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานอีกว่า แม้ปาร์กไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเงินวอน ทว่าคำกล่าวนี้ตีความได้ว่า เกาหลีใต้เริ่มไม่เต็มใจเข้าแทรกแซงค่าเงินแล้ว
รายงานดังกล่าวส่งผลให้เงินวอนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเช้าวานนี้ โดยอยู่ที่ 999.50 วอนต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติออกมาปฏิเสธในแถลงการณ์ว่า ปาร์ก “เข้าใจผิด” และ “ทางแบงก์จะดำเนินมาตรการสำคัญเมื่อใดก็ตามที่ตลาดเงินไม่มีเสถียรภาพ” พร้อมเสริมว่า “จะไม่นิ่งเฉยหากกองทุนเก็งกำไรเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากรายงานข่าวที่ไม่มีหลักฐาน”
ด้านบรรดาดีลเลอร์กล่าวว่า แบงก์ชาติยังคงแทรกแซงตลาดอย่างเห็นได้ชัด โดยเข้าซื้อดอลลาร์และขายวอน ผ่านทางธนาคารรัฐและธนาคารต่างชาติ เพื่อป้องกันการแข็งค่าของเงินวอน
ผลที่ตามมาคือ ดอลลาร์กลับดีดตัวขึ้นเกือบ 1,002 วอนในช่วงบ่าย และปิดที่ 1,005 วอน เมื่อเทียบกับ 1,005.20 วอนเมื่อวันพุธ (18)
นอกจากนี้เหล่าดีลเลอร์คาดการณ์ว่า มูลค่าการแทรกแซงตลาดเงินวานนี้สูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ดีลเลอร์รายหนึ่งกล่าวว่า “จำนวนเงินดังกล่าวเป็นราคาที่สูงเกินสำหรับการให้สัมภาษณ์ของแบงก์ชาติเกาหลีใต้”
อนึ่ง เฉพาะปีที่แล้ว เงินวอนแข็งค่าขึ้น 15% ถือเป็นเงินสกุลหนึ่งที่ปรับค่าขึ้นเร็วที่สุดในโลก และก่อให้เกิดความกังวลว่าจะทำลายเศรษฐกิจของประเทศที่ขับเคลื่อนโดยการส่งออก